~1~ เอกสารนีเ้ ปน็ ตารางวเิ คราะหต์ วั ชีว้ ัดสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนวดั ไมเ้ สียบ (ฉบบั ปรบั ปรุง ๒๕๖๐)
~2~ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี การวิเคราะห์ตัวชี้วดั ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 1 สาระท่ี 1วิทยาศาสตรช์ วี ภาพ มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งสิ่งไม่มชี ีวติ กบั สิ่งมีชีวิตและ ความสัมพันธ์ระหว่างส่ิงมีชีวิตกับส่ิงมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอดพลังงาน การ เปล่ียนแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายของประชากรปัญหาและผลกระทบที่มีต่อทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม แนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการแก้ไขปัญหาส่ิงแวดล้อมรวมทั้งนา ความร้ไู ปใช้ประโยชน์ รหสั ตัวชวี้ ัด ผเู้ รียนรู้อะไร ผ้เู รียนทาอะไรได้ ตวั ช้ีวัด ว 1.1 1. ระบุชอ่ื พชื และ -บริเวณตา่ ง ๆ ในท้องถิน่ เชน่ สนามหญ้า ใต้ -สา้ รวจ สังเกต และรวบรวมพชื ป 1/1 สัตวท์ ่อี าศัยอยู่ ตน้ ไม้ สวนหยอ่ ม แหล่งน้า อาจพบพืชและสตั ว์ และสตั วท์ ี่พบบริเวณหน้า บริเวณต่าง ๆ จาก หลายชนิดอาศยั อยู่ โรงเรยี น และชุมชน ขอ้ มูลท่ีรวบรวมได้ -บริเวณทแ่ี ตกตา่ งกันอาจพบพชื และสตั ว์ แตกต่างกนั เพราะสภาพแวดล้อมของแต่ละ ว 1.1 2. บอก บริเวณจะมี ความเหมาะสมต่อการดา้ รงชวี ติ -ตรวจสอบ และระบสุ ิง่ มีชวี ติ ท่ี ป 1/2 สภาพแวดล้อมที่ ของพชื และสตั ว์ ท่ีอาศัยอยูใ่ นแต่ละบริเวณ พบบรเิ วณหน้าโรงเรยี น และ เหมาะสมกับการ เชน่ สระนา้ มีนา้ เปน็ ทอ่ี ยู่ อาศยั ของหอย ปลา ชมุ ชน ด้ารงชวี ิตของสัตวใ์ น สาหร่าย เป็นท่ีหลบภัยและมี แหล่งอาหารของ -ระบุปัญหา เสนอแนวทางใน บรเิ วณทีอ่ าศยั อยู่ หอยและปลา บรเิ วณต้นมะม่วงมี ตน้ มะม่วง การแก้ไข และอนุรักษ์ เป็นแหลง่ ทอี่ ยู่ และมีอาหารส้าหรับกระรอก ทรัพยากร และมด - ถา้ สภาพแวดล้อมในบริเวณทพ่ี ืชและสตั ว์ อาศัยอยูม่ ีการเปล่ยี นแปลง จะมีผลตอ่ การ ดา้ รงชวี ติ ของพชื และสัตว์ สาระที่ 1วิทยาศาสตรช์ วี ภาพ มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของส่ิงมีชีวิต หน่วยพ้ืนฐานของส่ิงมีชีวิต การลาเลียงสารผ่านเซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ทางานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสรา้ ง และหน้าท่ีของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชท่ีทางานสัมพันธก์ นั รวมท้ังนาความรไู้ ปใช้ ประโยชน์ รหสั ตวั ชีว้ ัด ผู้เรียนร้อู ะไร ผ้เู รียนทาอะไรได้ ตวั ชีว้ ัด -ตงั ค้าถาม วางแผน สงั เกต ส้ารวจ และระบุช่อื บรรยาย ว 1.2 1. ระบุชื่อ บรรยาย - มนุษย์มีสว่ นต่าง ๆ ที่มลี กั ษณะและหน้าที่ ลักษณะและบอกหน้าทข่ี อง ป 1/1 ลกั ษณะและบอก แตกตา่ งกัน เพ่ือใหเ้ หมาะสมในการด้ารงชวี ติ หนา้ ที่ของสว่ นตา่ ง ๆ เชน่ ตามหี น้าที่ ไว้มองดู โดยมหี นังตาและขน เอกสารนีเ้ ปน็ ตารางวเิ คราะหต์ วั ชี้วดั สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนวดั ไมเ้ สียบ (ฉบับปรับปรงุ ๒๕๖๐)
~3~ รหสั ตวั ชวี้ ดั ผูเ้ รยี นรู้อะไร ผู้เรียนทาอะไรได้ ตวั ชีว้ ดั ของรา่ งกายมนุษย์ ตาเพ่ือป้องกนั อันตรายให้กับตา หูมีหนา้ ทีร่ บั ส่วนตา่ ง ๆ ของร่างกายมนุษย์ สตั ว์ และพชื รวมทงั ฟงั เสยี ง โดยมีใบหแู ละรูหู เพ่ือเป็นทางผ่านของ สตั ว์ และพืช รวมทงั บรรยาย บรรยายการท้าหนา้ ที่ เสยี ง ปากมีหน้าท่ีพูด กินอาหาร มีช่องปาและมี การทา้ หนา้ ทรี่ ่วมกนั ของส่วน ร่วมกัน ของส่วนต่าง รมิ ฝีปากบนล่าง แขนและมือมีหนา้ ทยี่ ก หยิบ ตา่ ง ๆ ของร่างกายมนุษย์ใน ๆ ของร่างกายมนุษย์ จับ มีทอ่ นแขนและนวิ มือท่ีขยับได้ สมอง มี การทา้ กจิ กรรมต่าง ๆ จาก ในการทา้ กจิ กรรม หน้าทค่ี วบคุมการทา้ งานของส่วนตา่ ง ๆ ของ ขอ้ มูลท่ีรวบรวมได้ ต่าง ๆ จากข้อมลู ท่ี รา่ งกาย เปน็ ก้อนอยู่ในกะโหลกศรี ษะ โดยสว่ น รวบรวมได้ ตา่ ง ๆ ของร่างกายจะท้าหนา้ ทร่ี ว่ มกันในการ ทา้ กิจกรรม ในชีวติ ประจ้าวนั - สัตว์มีหลายชนดิ แตล่ ะชนิดมีสว่ นตา่ ง ๆ ท่ีมี ลักษณะและหนา้ ทแ่ี ตกต่างกัน เพือ่ ให้ เหมาะสม ในการดา้ รงชีวติ เชน่ ปลามีครบี เป็น แผน่ ส่วนกบ เต่า แมว มขี า 4 ขาและมีเทา้ ส้าหรับใช้ในการเคล่ือนท่ี - พืชมีสว่ นตา่ ง ๆ ทม่ี ลี กั ษณะและหน้าท่ี แตกตา่ งกนั เพื่อให้เหมาะสมในการดา้ รงชีวิต โดยท่วั ไป รากมีลกั ษณะเรียวยาว และแตก แขนงเป็นรากเลก็ ๆ ทา้ หน้าทดี่ ดู น้า ลา้ ต้นมี ลักษณะเป็นทรงกระบอกตงั ตรงและมีกิง่ ก้าน ท้าหนา้ ทีช่ กู ิ่งก้าน ใบ และดอก ใบมลี ักษณะ เป็นแผ่นแบน ท้าหน้าท่ีสรา้ งอาหาร นอกจากนี พชื หลายชนดิ อาจมีดอกท่มี สี ี รปู ร่างต่าง ๆ ทา้ หน้าทสี่ บื พนั ธุ์ รวมทงั มีผลทมี่ ีเปลือก มเี นือ หอ่ หุ้มเมลด็ และมีเมลด็ ซึ่งสามารถงอกเป็นต้น ใหมไ่ ด้ ว 1.2 2. ตระหนักถึง - มนษุ ย์ใช้ส่วนต่าง ๆ ของรา่ งกายในการทา้ -ตังคา้ ถาม วางแผน สังเกต ป 1/2 ความสา้ คัญของสว่ น กิจกรรมต่าง ๆ เพ่ือการด้ารงชวี ิต มนุษย์จึงควร ส้ารวจ แสดงความคิดเห็น และ ต่าง ๆ ของร่างกาย ใช้ส่วนตา่ ง ๆของร่างกายอยา่ งถูกต้อง ตระหนกั ถึงความสา้ คัญของ ตนเอง โดยการดูแล ปลอดภยั และรกั ษา ความสะอาดอยู่เสมอ เช่น สว่ นต่าง ๆ ของร่างกายตนเอง สว่ นตา่ ง ๆ ใชต้ ามองตัวหนังสือในที่ ๆ มีแสงสว่างเพยี งพอ โดยการดแู ลสว่ นตา่ ง ๆ อย่างถูกต้อง ให้ ดแู ลตาให้ปลอดภัยจากอนั ตราย และรกั ษา อย่างถูกต้อง ให้ปลอดภัย และ ปลอดภัย และรกั ษา ความสะอาดตาอยเู่ สมอ รกั ษา ความสะอาดอยเู่ สมอ ความสะอาดอยู่เสมอ เอกสารนีเ้ ปน็ ตารางวเิ คราะหต์ ัวชีว้ ัดสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนวดั ไม้เสียบ (ฉบับปรบั ปรุง ๒๕๖๐)
~4~ สาระที่ 2วทิ ยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับ โครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การ เกิดสารละลาย และการเกิดปฏิกริ ิยาเคมี รหัส ตัวชี้วัด ผเู้ รยี นรอู้ ะไร ผ้เู รยี นทาอะไรได้ ตวั ชว้ี ัด ว 2.1 1. อธิบายสมบัติท่ี -วัสดุที่ใชท้ ้าวัตถุท่เี ปน็ ของเล่น ของใช้ มหี ลาย -ตังคา้ ถาม วางแผน สังเกต ป 1/1 สังเกตได้ของวสั ดทุ ี่ ชนิด เชน่ ผ้า แกว้ พลาสตกิ ยาง ไม้ อิฐ หิน ส้ารวจ และอธบิ ายสมบัตทิ ี่ ใช้ท้าวตั ถุซึ่งทา้ จาก กระดาษ โลหะ วัสดแุ ตล่ ะชนิดมีสมบัติทสี่ งั เกต สงั เกตได้ของวัสดุที่ใช้ทา้ วัตถุซง่ึ วัสดชุ นิดเดียว หรือ ไดต้ ่าง ๆ เชน่ สี นมุ่ แข็ง ขรุขระ เรยี บ ใส ขนุ่ ท้าจากวสั ดชุ นดิ เดียว หรอื หลายชนิดประกอบ ยืดหดได้ บิดงอได้ หลายชนดิ ประกอบกันโดยใช้ กนั โดยใช้หลักฐาน หลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ เชงิ ประจกั ษ์ ว 2.1 2. ระบุชนิดของวัสดุ - สมบตั ทิ ี่สงั เกตไดข้ องวัสดุแตช่ นิดอาจ -ตงั ค้าถาม วางแผน สังเกต ป 1/2 และจดั กลุม่ วสั ดุตาม เหมือนกัน ซึ่งสามารถน้ามาใช้เปน็ เกณฑใ์ นการ สา้ รวจ เปรยี บเทยี บและระบุ สมบตั ทิ ี่สงั เกตได้ จัดกลุม่ วสั ดุได้ วสั ดบุ างอย่างสามารถนา้ มา ชนิดของวสั ดุและจดั กลมุ่ วัสดุ ประกอบกนั เพ่ือท้าเป็นวัตถุต่าง ๆ เชน่ ผา้ และ ตามสมบัตทิ ส่ี งั เกตได้ กระดมุ ใชท้ า้ เสือ ไมแ้ ละโลหะ ใชท้ า้ กระทะ สาระท่ี 2 วิทยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว 2. 3 เขา้ ใจความหมายของพลงั งาน การเปลย่ี นแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสมั พนั ธ์ระหว่างสสารและพลังงาน พลงั งานในชวี ติ ประจาวนั ธรรมชาติของคลน่ื ปรากฏการณท์ ี่เกี่ยวข้องกบั เสยี ง แสง และคลืน่ แม่เหล็กไฟฟา้ รวมท้งั นาความรไู้ ปใช้ประโยชน์ รหสั ตัวช้วี ัด ผูเ้ รยี นรู้อะไร ผ้เู รยี นทาอะไรได้ ตัวชวี้ ดั ว 2.3 1. บรรยายการเกิด -เสียงเกดิ จากการสน่ั ของวตั ถุ วัตถุทท่ี า้ ให้เกิด -จ้าแนกแหล่งท่ีมาของเสียง ป 1/1 เสยี งและทศิ ทาง เสียงเปน็ แหล่งก้าเนดิ เสียงซึ่งมที ังแหล่งก้าเนิด รอบๆ โรงเรยี น เชน่ กจิ กรรม การเคลอ่ื นทีข่ อง เสยี งตามธรรมชาติและแหล่งกา้ เนดิ เสียงท่ี ฟังเสียงคล่ืน ร่ืนรมย์ เสียงจากหลักฐาน มนษุ ยส์ ร้างขนึ เสียงเคลื่อนที่ออกจาก เชงิ ประจักษ์ แหล่งก้าเนดิ เสยี งทุกทิศทาง เอกสารนีเ้ ปน็ ตารางวเิ คราะหต์ ัวชี้วดั สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนวัดไมเ้ สียบ (ฉบบั ปรบั ปรุง ๒๕๖๐)
~5~ สาระท่ี 3วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองคป์ ระกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาว ฤกษ์ และระบบสรุ ิยะ รวมทั้งปฏิสัมพนั ธภ์ ายในระบบสรุ ิยะทีส่ ่งผลต่อสิ่งมีชีวิตและการประยุกตใ์ ช้เทคโนโลยี อวกาศ รหสั ตวั ชว้ี ัด ผเู้ รียนรู้อะไร ผู้เรยี นทาอะไรได้ ตัวช้วี ัด ว 3.1 1. ระบุดาวท่ี - บนท้องฟ้ามดี วงอาทติ ย์ ดวงจันทร์ และดาว -ตงั คา้ ถาม สงั เกต รวบรวม ป 1/1 ปรากฏบนท้องฟ้า ซึ่งในเวลากลางวนั จะมองเหน็ ดวงอาทิตย์และ ขอ้ มูล บันทึกผล สรปุ ผลการ ในเวลากลางวัน อาจมองเหน็ ดวงจันทร์บางเวลาในบางวนั แต่ไม่ สังเกต และระบุดาวทป่ี รากฏ ว 3.1 และกลางคนื จาก สามารถมองเหน็ ดาว บนทอ้ งฟ้าในเวลากลางวนั และ ป 1/2 ข้อมลู ที่รวบรวมได้ กลางคืนจากข้อมลู ท่รี วบรวมได้ -ในเวลากลางวนั มองไม่เห็นดาวสว่ นใหญ่ นา้ เสนอโดยการวาดภาพระบาย 2. อธบิ ายสาเหตุที่ เน่ืองจากแสงอาทิตย์สวา่ งกว่าจงึ กลบแสงของ สลี ักษณะของท้องฟ้าและจดั มองไมเ่ ห็นดาวสว่ น ดาว ส่วนในเวลากลางคืนจะมองเหน็ ดาวและ แสดงผลงาน ใหญ่ ในเวลา มองเหน็ ดวงจนั ทร์ เกอื บทกุ คืน -ตังค้าถาม สังเกต รวบรวม กลางวนั จาก ขอ้ มูล บันทึกผล สรุปผลการ หลกั ฐานเชงิ สงั เกต และอธิบายสาเหตุท่มี อง ประจักษ์ ไมเ่ หน็ ดาวส่วนใหญ่ ในเวลา กลางวันจากหลกั ฐานเชิง ประจักษ์ น้าเสนอโดยการวาด ภาพระบายสีแบบจา้ ลอง ลกั ษณะการมองเห็นแสงของ ดวงอาทิตยแ์ ละแสงของ ดวงดาวในเวลากลางวนั และจัด แสดงผลงาน สาระท่ี 3 วทิ ยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.2 เขา้ ใจองค์ประกอบ และความสมั พนั ธ์ของระบบโลก กระบวนการเปลย่ี นแปลงภายในโลก และบนผิวโลก ธรณีพบิ ตั ิภัย กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศโลกรวมทั้งผลต่อสง่ิ มีชีวิต และสิง่ แวดลอ้ ม รหัสตวั ชี้วดั ตวั ชี้วดั ผ้เู รยี นร้อู ะไร ผู้เรียนทาอะไรได้ ว 3.2 1. อธิบายลกั ษณะ -หนิ ทีอ่ ยู่ในธรรมชา้ ติมีลกั ษณะภายนอกเฉพา -สงั เกตลกั ษณะของหินทพี่ บ ป 1/1 ภายนอกของหนิ ตัว ทส่ี งั เกตได้ เชน่ สี ลวดลาย น้าหนัก ความ บรเิ วณหน้าโรงเรยี น แขง็ และเนือหิน จากลักษณะเฉพาะ ตวั ทส่ี ังเกตได้ เอกสารนีเ้ ปน็ ตารางวเิ คราะหต์ ัวชีว้ ัดสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนวัดไม้เสียบ (ฉบับปรับปรงุ ๒๕๖๐)
~6~ สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชีวิตจริงอย่างเป็นขน้ั ตอนและเป็น ระบบใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทางาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสทิ ธิภาพ รู้เทา่ ทัน และมีจริยธรรม รหสั ตวั ชวี้ ัด ผเู้ รียนรู้อะไร ผเู้ รียนทาอะไรได้ ตัวช้ีวัด ว 4.2 1. แก้ปัญหาอย่าง - การแกป้ ัญหาให้ประสบความสา้ เรจ็ ทา้ ได้โดย -ตงั คา้ ถาม สังเกต รวบรวม ป 1/1 ง่ายโดยใช้การลอง ใช้ขนั ตอนการแก้ปัญหา ขอ้ มูล บนั ทึกผล สรปุ ผลการ ผดิ ลองถกู การ - ปญั หาอยา่ งงา่ ย เช่น เกมเขาวงกต เกมหาจดุ สังเกต และแก้ปัญหาอย่างง่าย เปรียบเทยี บ แตกตา่ งของภาพการจดั หนงั สอื ใสก่ ระเป๋า โดยใช้การลองผดิ ลองถกู การ เปรียบเทยี บ ว 4.2 2. แสดงลา้ ดบั - การแสดงขนั ตอนการแก้ปัญหาท้าไดโ้ ดยการ -ตงั ค้าถาม สังเกต รวบรวม ป 1/2 ขันตอนการทา้ งาน เขียน บอกเลา่ วาดภาพ หรือใชส้ ัญลกั ษณ์ ขอ้ มลู และแสดงลา้ ดับขันตอน หรอื การแก้ปญั หา - ปญั หาอยา่ งง่าย เชน่ เกมเขาวงกต เกมหาจดุ การท้างาน หรือ การแกป้ ัญหา อยา่ งง่ายโดยใช้ แตกตา่ งของภาพ การจดั หนังสอื ใส่กระเปา๋ อย่างงา่ ยโดยใชภ้ าพ สัญลักษณ์ ภาพ สญั ลกั ษณ์ หรอื ขอ้ ความ หรอื ข้อความ ว 4.2 3. เขียนโปรแกรม - การเขยี นโปรแกรมเปน็ การสรา้ งลา้ ดับของ -สังเกต รวบรวมขอ้ มลู และลง ป 1/3 อยา่ งงา่ ย โดยใช้ ค้าสัง่ ใหค้ อมพวิ เตอร์ท้างาน มอื ปฏบิ ตั ิเขยี นโปรแกรมอย่าง ซอฟตแ์ วรห์ รือส่ือ - ตัวอยา่ งโปรแกรม เชน่ เขยี นโปรแกรมส่งั ให้ ง่าย โดยใชซ้ อฟต์แวร์หรอื สอื่ ตัวละครย้ายตา้ แหน่ง ย่อขยายขนาด เปลีย่ น รูปร่าง - ซอฟตแ์ วร์ หรือส่ือท่ีใช้ในการเขยี นโปรแกรม เชน่ ใช้บตั รคา้ สงั่ แสดงการเขียนโปรแกรม, Code.org ว 4.2 4.ใชเ้ ทคโนโลยีใน - การใช้งานอุปกรณเ์ ทคโนโลยเี บอื งต้น เช่น -สงั เกต รวบรวมข้อมลู และลง ป 1/4 การสรา้ ง จดั เกบ็ การใชเ้ มาส์ คยี ์บอรด์ จอสมั ผัส การเปิด-ปิด มอื ปฏิบตั ิใชเ้ ทคโนโลยีในการ เรียกใช้ข้อมลู ตาม อุปกรณ์เทคโนโลยี สร้าง จัดเกบ็ เรยี กใช้ข้อมูลตาม วัตถปุ ระสงค์ -การใช้งานซอฟตแ์ วรเ์ บืองต้น เช่น การเข้าและ วตั ถปุ ระสงค์ ออกจากโปรแกรม การสรา้ งไฟล์ การจดั เกบ็ การเรยี กใชไ้ ฟล์ ท้าได้ในโปรแกรม เช่น โปรแกรมประมวลค้า โปรแกรมกราฟิก โปรแกรมนา้ เสนอ -การสร้างและจัดเก็บไฟลอ์ ย่างเปน็ ระบบจะทา้ ให้เรียกใช้ ค้นห้าข้อมลู ไดง้ ่ายและรวดเรว็ ว 4.2 5. ใช้เทคโนโลยี - การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั -สงั เกต รวบรวมขอ้ มูล และลง ป 1/5 สารสนเทศอย่าง เชน่ รจู้ กั ขอ้ มลู ส่วนตัว อันตรายจากการ มือปฏิบัติใช้เทคโนโลยี เอกสารนี้เปน็ ตารางวเิ คราะหต์ วั ชีว้ ดั สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนวัดไมเ้ สียบ (ฉบบั ปรับปรงุ ๒๕๖๐)
~7~ รหัส ตวั ช้ีวดั ผู้เรียนรอู้ ะไร ผูเ้ รยี นทาอะไรได้ ตัวช้วี ัด ปลอดภยั ปฏบิ ัติ เผยแพรข่ ้อมูลสว่ นตวั และไม่บอกขอ้ มลู ส่วนตวั สารสนเทศอยา่ งปลอดภยั ตามข้อตกลงในการ กบั บุคคลอนื่ ยกเว้นผู้ปกครอง หรือครู แจง้ ปฏิบัตติ ามข้อตกลงในการใช้ ใชค้ อมพิวเตอร์ ผูเ้ กี่ยวข้องเมอื่ ต้องการ ความชว่ ยเหลือเก่ียวกบั คอมพวิ เตอรร์ ่วมกนั ดแู ลรกั ษา ร่วมกัน ดูแลรกั ษา การใช้งาน อปุ กรณ์เบอื งตน้ ใช้งานอยา่ ง อุปกรณ์เบืองตน้ ใช้ - ขอ้ ปฏิบตั ใิ นการใชง้ านและการดแู ลรักษา เหมาะสม งานอยา่ งเหมาะสม อุปกรณ์ เชน่ ไม่ขีดเขียนบนอุปกรณ์ ท้าความ สะอาด ใช้อุปกรณ์อยา่ งถกู วิธี - การใชง้ านอย่างเหมาะสม เชน่ จัดท่านั่งให้ ถกู ต้อง การพกั สายตาเมือ่ ใช้อปุ กรณ์เป็น เวลานาน ระมดั ระวังอุบัตเิ หตุจากการใช้งาน เอกสารนีเ้ ปน็ ตารางวเิ คราะหต์ วั ชีว้ ัดสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนวัดไม้เสียบ (ฉบบั ปรบั ปรุง ๒๕๖๐)
~8~ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี การวิเคราะหต์ วั ชีว้ ดั ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 2 สาระที่ 1วทิ ยาศาสตร์ชวี ภาพ มาตรฐาน ว 1.2เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพ้ืนฐานของสิ่งมีชีวิต การลาเลียงสารผ่านเซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าท่ีของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ทางานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าท่ีของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชท่ีทางานสัมพันธก์ ันรวมทั้งนาความรู้ไปใช้ ประโยชน์ รหสั ตัวชีว้ ดั ผเู้ รียนรูอ้ ะไร ผู้เรยี นทาอะไรได้ ตวั ช้ีวัด ว 1.2 1. ระบุวา่ พชื - พชื ตอ้ งการนา้ แสง เพ่ือการเจริญเติบโต - ส้ารวจ สังเกต และรวบรวม ป 2/1 ตอ้ งการแสงและ พชื และน้าพืชท้องถนิ่ มา น้าเพ่ือการเจริญ -พืชเป็นสิง่ มีชีวิตมีการเจรญิ เติบโตและด้ารงชีวติ ทดลองเก่ยี วกบั ปจั จัยในการ ว 1.2 เติบโต โดยใช้ อย่ไู ด้ย่อมต้องการ ส่ิงแวดลอ้ มท่เี หมาะสม สภาพ เจริญเตบิ โตของพืช ป 2/2 ข้อมลู จาก ของส่งิ แวดล้อมตา่ งๆ ท่มี ีผลต่อการเจรญิ เติบโต หลักฐานเชงิ ของพชื -ตงั ค้าถาม วางแผน สังเกต ว 1.2 ประจักษ์ -วธิ ีการดแู ลรกั ษาพชื ใหเ้ จรญิ เตบิ โต สา้ รวจ แสดงความคิดเหน็ และ ป 2/3 2. ตระหนกั ถึง ตระหนกั ถึงความจ้าเป็นท่ีพชื ความจา้ เป็นที่พชื - พืชดอกเม่ือเจริญเติบโตและมีดอก ดอกจะมี ตอ้ งไดร้ ับน้าและแสงเพ่ือการ ตอ้ งได้รบั น้าและ การสืบพนั ธเุ์ ปลี่ยนแปลงไปเป็นผล ภายในผลมี เจรญิ เติบโต โดยดูแลพชื ใหไ้ ด้ แสงเพื่อการ เมล็ด เมือ่ เมลด็ งอก ตน้ อ่อนที่อยภู่ ายในเมล็ดจะ รบั ส่ิงดังกลา่ วอยา่ งเหมาะสม เจริญเตบิ โต โดย เจริญ เตบิ โตเปน็ พืชต้นใหม่ พืชต้นใหม่จะ ดแู ลพชื ใหไ้ ด้ รบั เจรญิ เติบโต ออกดอกเพื่อสืบพนั ธ์มุ ผี ลตอ่ ไปได้ - สา้ รวจ สงั เกต รวบรวม และ ส่ิงดังกลา่ วอยา่ ง อีกหมนุ เวยี นต่อเน่ืองเป็นวฏั จกั รชีวติ ของพืชดอก สรา้ งแบบจ้าลองทบี่ รรยายวฏั เหมาะสม จักรชีวติ ของพืชดอก 3. สร้าง แบบจา้ ลองที่ บรรยายวฏั จักร ชวี ติ ของพืชดอก เอกสารนีเ้ ปน็ ตารางวเิ คราะหต์ วั ชีว้ ดั สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนวัดไม้เสียบ (ฉบบั ปรับปรงุ ๒๕๖๐)
~9~ สาระท่ี 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสาคัญของการถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม สารพันธกุ รรม การเปลย่ี นแปลงทางพนั ธุกรรมทมี่ ผี ลต่อส่งิ มีชีวติ ความหลากหลายทางชวี ภาพ และววิ ฒั นาการของสงิ่ มชี วี ิต รวมทัง้ นาความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์ รหสั ตัวช้วี ดั ผเู้ รยี นรู้อะไร ผเู้ รยี นทาอะไรได้ ตวั ชีว้ ัด 1. เปรยี บเทยี บลกั ษณะ - สิง่ ทีอ่ ยูร่ อบตัวเรามีทงั ทเ่ี ปน็ สิ่งมีชีวิต - สังเกต ส้ารวจสงิ่ มชี ีวิต ว 1.3 ของสิง่ มีชีวิตและ และสง่ิ ไม่มชี วี ิต สิ่งมีชวี ิตตอ้ งการอาหาร เปรียบเทยี บลักษณะของ ป 2/1 ส่ิงไมม่ ชี วี ิต จากข้อมลู ที่ มกี ารหายใจ เจริญเติบโต ขบั ถ่าย สง่ิ มีชวี ติ และส่ิงไม่มีชีวิตบริเวณ รวบรวมได้ เคล่อื นไหว ตอบสนองต่อส่ิงเร้า และ โรงเรยี น และชมุ ชน จากขอ้ มูล สืบพันธุไ์ ดล้ ูกท่ีมีลกั ษณะคล้ายคลงึ กบั ท่ีรวบรวมได้ พ่อแม่ ส่วนส่ิงไม่มชี ีวติ จะไม่มีลักษณะ ดังกล่าว สาระท่ี 2วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับ โครงสร้างและแรงยึดเหน่ียวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การ เกดิ สารละลาย และการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี รหสั ตวั ชี้วดั ผู้เรียนรูอ้ ะไร ผู้เรียนทาอะไรได้ ตัวช้วี ัด ว 2.1 1. เปรียบเทียบสมบัตกิ าร - วัสดแุ ต่ละชนิดมีสมบัติการดูดซบั น้า - ตังคา้ ถาม สังเกตชนดิ และ ป 2/1 ดดู ซับนา้ ของวัสดโุ ดยใช้ หลักฐานเชงิ ประจักษ์ และ แตกตา่ งกัน จงึ นา้ ไปทา้ วตั ถุเพ่ือใช้ วสั ดุ เปรียบเทยี บสมบตั ิการดูด ว 2.1 ระบุการนา้ สมบัตกิ ารดูด ป 2/2 ซับนา้ ของวัสดุไป ประโยชน์ไดแ้ ตกต่างกัน เช่น ใช้ผ้าทีด่ ูด ซบั นา้ ของวัสดโุ ดยใชห้ ลักฐาน ประยกุ ตใ์ ช้ ในการท้าวตั ถุ ในชวี ิตประจา้ วนั ซับนา้ ไดม้ ากท้าผ้าเชด็ ตวั ใชพ้ ลาสตกิ เชิงประจักษ์ และระบุการน้า 2. อธบิ ายสมบัตทิ สี่ งั เกต ได้ของวสั ดุที่เกดิ จากการ ซึง่ ไมด่ ูดซับนา้ ท้าร่ม สมบตั กิ ารดูดซบั น้าของวสั ดุไป นา้ วัสดมุ าผสมกนั โดยใช้ หลักฐานเชิงประจักษ์ ประยกุ ตใ์ ช้ ในการทา้ วตั ถุใน ชวี ิตประจา้ วัน - วัสดบุ างอย่างสามาถน้ามาผสมกนั ซง่ึ - ตงั คา้ ถาม อธบิ ายสมบัตทิ ่ี ทา้ ใหไ้ ดส้ มบตั ทิ เี่ หมาะสมเพ่ือนา้ ไปใช้ สังเกตได้ของวัสดุทเ่ี กิดจากการ ประโยชนต์ ามต้องการ เช่น แป้งผสม นา้ วสั ดุมาผสมกัน โดยใช้ นา้ ตาลและนา้ กะทิ ใช้ทา้ ขนมไทย ปูน หลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ ปลาสเตอรผ์ สมเยอ่ื กระดาษใช้ท้ากระปุก ออมสิน ปูนผสมหิน ทราย และนา้ ใชท้ ้า คอนกรีต เอกสารนีเ้ ปน็ ตารางวเิ คราะหต์ ัวชีว้ ัดสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนวดั ไม้เสียบ (ฉบับปรบั ปรงุ ๒๕๖๐)
~ 10 ~ ว 2.1 3. เปรียบเทยี บสมบัตทิ ่ี - การนา้ วสั ดมุ าท้าเปน็ วตั ถใุ นการใช้งาน - น้าวัสดุทพ่ี บในท้องถ่ินมา ป 2/3 สงั เกตได้ของวสั ดุ เพ่อื ตามวตั ถุประสงค์ขึนอยกู่ ับสมบตั ขิ อง ออกแบบ และสร้างชินงานใหม่ นา้ มาทา้ เป็นวตั ถุในการใช้ วสั ดุ ทใ่ี ช้ประโยชนไ์ ด้ งานตามวัตถุประสงค์ และ อธิบายการน้าวัสดทุ ใ่ี ชแ้ ล้ว กลับมาใช้ใหมโ่ ดยใช้ หลักฐานเชงิ ประจักษ์ ว 2.1 4. ตระหนักถึงประโยชน์ -วสั ดุทีใ่ ช้แล้วอาจน้ากลับมาใชใ้ หมไ่ ด้ - ตงั ค้าถาม สงั เกตชนิดวสั ดุ ป 2/4 ของการนา้ วัสดทุ ่ีใชแ้ ลว้ เช่น กระดาษใช้แล้ว อาจน้ามาท้าเปน็ ตระหนกั ถึงประโยชน์ของการ กลบั มาใช้ใหม่ โดยการน้า จรวดกระดาษ ดอกไมป้ ระดิษฐ์ ถุงใส่ น้าวสั ดุทใี่ ชแ้ ล้วกลับมาใช้ใหม่ วสั ดุที่ใช้แลว้ กลบั มาใช้ ของ เป็นตน้ โดยการนา้ วัสดุท่ีใช้แล้วกลับมา ใหม่ ใช้ใหม่ สาระท่ี 2วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว 2.2 เข้าใจธรรมชาติของแรงในชีวิตประจาวัน ผลของแรงที่กระทาต่อวัตถุ ลักษณะการ เคลือ่ นท่แี บบตา่ ง ๆ ของวัตถุ รวมท้ังนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ รหัส ตวั ชว้ี ดั ผ้เู รยี นร้อู ะไร ผู้เรยี นทาอะไรได้ ตวั ช้ีวดั 1. ทดลองและอธบิ ายแรง ว 2.2 ทเ่ี กดิ จากแม่เหล็ก - แม่เหลก็ มีแรงดงึ ดดู หรือผลกั ระหว่าง -ตังคา้ ถาม สงั เกต วางแผน ป 2/1 แทง่ แม่เหล็ก รอบแท่งแมเ่ หลก็ มี ทดลอง บันทึกข้อมลู รวบรวม 2. อธบิ ายการนา้ แม่เหลก็ สนามแม่เหลก็ และสามารถดึงดดู วตั ถุท่ี ขอ้ มลู อภปิ รายรว่ มกนั ในกลุ่ม ว 2.2 มาใชป้ ระโยชน์ ท้าด้วยสารแม่เหลก็ ลงข้อสรปุ นา้ เสนอ และอธบิ าย ป 2/2 แรงท่เี กิดจากแมเ่ หลก็ 3. ทดลองและอธบิ ายแรง - แมเ่ หล็กมปี ระโยชน์ในการท้าของ -ตังค้าถาม สงั เกต วางแผน ว 2.2 ไฟฟ้าท่เี กิดจากการถูวัตถุ เล่น ของใช้ และนา้ ไปแยกสาร ทดลอง บนั ทึกข้อมลู รวบรวม ป 2/3 บางชนดิ แมเ่ หลก็ ออกจากวตั ถุอ่ืนได้ ขอ้ มลู อภปิ รายรว่ มกนั ในกล่มุ ลงข้อสรุป นา้ เสนอ และอธิบาย - เมอ่ื ถวู ตั ถบุ างชนิดแล้วน้าเข้าใกล้กนั การน้าแม่เหล็กมาใช้ประโยชน์ จะดงึ ดูดหรือผลักกนั ได้ แรงที่เกิดขนึ นี -ตงั คา้ ถาม สงั เกต วางแผน เรยี กวา่ แรงไฟฟ้า และวตั ถนุ นั จะดงึ ดูด ทดลอง บันทึกข้อมูล รวบรวม วตั ถุเบา ๆได้ ขอ้ มูล อภิปรายร่วมกนั ในกลมุ่ ลงข้อสรปุ นา้ เสนอ และอธบิ าย แรงไฟฟา้ ที่เกิดจากการถูวตั ถุ บางชนิด เอกสารนีเ้ ปน็ ตารางวเิ คราะหต์ วั ชีว้ ดั สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนวัดไม้เสียบ (ฉบับปรบั ปรงุ ๒๕๖๐)
~ 11 ~ สาระที่ 2 วิทยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลงั งาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลงั งาน ปฏิสมั พันธร์ ะหว่างสสารและพลังงาน พลงั งานในชวี ติ ประจาวัน ธรรมชาตขิ องคลืน่ ปรากฏการณท์ ี่เกย่ี วข้องกับเสียง แสง และคล่ืนแมเ่ หลก็ ไฟฟ้า รวมท้งั นาความรไู้ ปใช้ประโยชน์ รหัส ตัวชว้ี ดั ผเู้ รียนรู้อะไร ผ้เู รียนทาอะไรได้ ตัวช้ีวดั 1. บรรยายแนวการ - แสงเคล่อื นทจี่ ากแหล่งกา้ เนิดแสงทุก -ตงั คา้ ถาม สงั เกต วางแผน ว 2.3 เคลื่อนท่ีของแสงจาก ป 2/1 แหล่งกา้ เนดิ แสง และ ทศิ ทางเป็นแนวตรง เมื่อมแี สงจากวตั ถุ ทดลอง บันทึกข้อมลู รวบรวม อธิบายการมองเห็นวัตถุ จากหลกั ฐานเชิงประจักษ์ มาเขา้ ตาจะท้าใหม้ องเหน็ วัตถนุ นั การ ขอ้ มลู อภิปรายร่วมกนั ในกลุ่ม มองเห็นวตั ถุที่เป็นแหล่งก้าเนิดแสง แสง ลงขอ้ สรุป นา้ เสนอ และ จากวตั ถนุ นั จะเข้าสู่ตาโดยตรง ส่วนการ บรรยายแนวการเคล่อื นที่ของ มองเห็นวตั ถุทไ่ี มใ่ ช่แหล่งก้าเนดิ แสง แสงจากแหล่งก้าเนดิ แสง และ ต้องมีแสงจากแหล่งก้าเนิดแสงไป อธบิ ายการมองเหน็ วตั ถุจาก กระทบวตั ถุแล้วสะท้อนเขา้ ตา หลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ ว 2.3 2. ตระหนักในคุณค่าของ -ถ้ามแี สงทส่ี ว่าง มาก ๆ เข้าสู่ตาอาจเกิด - ตงั คา้ ถาม สังเกตและ ป 2/2 ความร้ขู องการมองเหน็ อนั ตรายต่อตาได้ จึงต้องหลีกเล่ยี งการ ตระหนกั ในคุณค่าของความรู้ โดยเสนอแนะแนวทางการ มองหรือใชแ้ ผน่ กรองแสงท่ีมีคณุ ภาพ ของการมองเห็นโดยเสนอแนะ ป้องกนั อันตราย จากการ เม่อื จ้าเป็น และต้องจัดความสวา่ งให้ แนวทางการป้องกนั อนั ตราย มองวตั ถุท่ีอยู่ในบรเิ วณท่มี ี เหมาะสมกับ การท้ากิจกรรมตา่ ง ๆ เช่น จากการมองวตั ถุท่ีอยู่ในบริเวณ แสงสว่าง ไม่เหมาะสม การอา่ นหนงั สือ การดจู อโทรทศั น์ การ ท่ีมแี สงสว่าง ไม่เหมาะสม ใช้โทรศพั ท์เคล่อื นท่ีและแท็บเล็ต สาระที่ 3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบ และความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปล่ียนแปลงภายในโลก และบนผวิ โลก ธรณพี ิบัตภิ ยั กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟา้ อากาศและภมู ิอากาศโลกรวมทั้งผลต่อสง่ิ มีชีวิต และสงิ่ แวดลอ้ ม รหัส ตวั ชี้วัด ผเู้ รยี นรูอ้ ะไร ผู้เรยี นทาอะไรได้ ตัวชี้วัด ว 2.3 1. ระบสุ ่วนประกอบ - ดนิ ประกอบดว้ ยเศษหนิ ซากพืชซาก -สังเกต เปรียบเทียบลักษณะ ป 2/1 ของดิน และจา้ แนกชนดิ สตั ว์ผสมอยใู่ นเนอื ดิน มีอากาศและนา้ ของทรายจากที่บา้ นนกั เรยี นกบั ของดินโดยใช้ลกั ษณะ แทรกอยตู่ ามชอ่ งวา่ ง ในเนอื ดิน ดนิ ทรายจากแหลง่ อน่ื เนือดนิ และการจบั ตัว จ้าแนกเปน็ ดนิ รว่ น ดินเหนียว และ ดิน -ทดลองปลกู พชื อย่างงา่ ยในดิน เปน็ เกณฑ์ ทราย เอกสารนีเ้ ปน็ ตารางวเิ คราะหต์ วั ชีว้ ดั สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนวดั ไม้เสียบ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ๒๕๖๐)
~ 12 ~ ว 2.3 2. อธบิ ายการใช้ ทราย ตามลกั ษณะเนือดินและการจับตัว -ดนิ ในทอ้ งถิน่ และการนา้ ไปใช้ ป 2/2 ประโยชนจ์ ากดิน จาก ของดนิ ซง่ึ มผี ลตอ่ การอุ้มน้าท่ีแตกต่างกัน ประโยชน์ ข้อมลู ทีร่ วบรวมได้ - ดินแตล่ ะชนิดน้าไปใช้ประโยชน์ได้ แตกตา่ งกนั ตามลักษณะและสมบัตขิ อง ดนิ สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2เข้าใจและใช้แนวคดิ เชิงคานวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชีวิตจริงอย่างเป็นข้ันตอนและเป็น ระบบใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทางาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รเู้ ทา่ ทัน และมีจรยิ ธรรม รหสั ตัวชีว้ ัด ผูเ้ รยี นรอู้ ะไร ผูเ้ รยี นทาอะไรได้ ตวั ชีว้ ัด ว 4.2 1. แสดงลา้ ดบั ขันตอน - การแสดงขันตอนการแกป้ ญั หาทา้ ได้โดย -ตังค้าถาม สังเกต รวบรวม ป 2/1 การทา้ งาน หรือ การ แก้ปญั หาอยา่ งงา่ ยโดย การเขยี น บอกเลา่ วาดภาพ หรือใช้ ขอ้ มูล บนั ทึกผล สรปุ ผลการ ว 4.2 ใชภ้ าพ สญั ลกั ษณ์ หรือ ป 2/2 ข้อความ สญั ลักษณ์ ปญั หาอย่างง่าย เชน่ เกมตวั ต่อ สงั เกต และแสดงล้าดบั ขนั ตอน ว 4.2 ๒. เขียนโปรแกรมอย่าง 6-12 ชิน การแตง่ ตัวมาโรงเรียน การท้างาน หรือ การแก้ปญั หา ป 2/3 ง่าย โดยใช้ซอฟต์แวร์ หรือสอื่ และตรวจหา อย่างงา่ ยโดยใชภ้ าพ สญั ลกั ษณ์ ขอ้ ผดิ พลาดของ โปรแกรม หรือขอ้ ความ 3. ใชเ้ ทคโนโลยีในการ - ตัวอย่างโปรแกรม เชน่ เขยี นโปรแกรม -สงั เกต รวบรวมข้อมลู และลง สรา้ ง จัดหมวดหมู่ คน้ หา จัดเก็บ เรียกใช้ สัง่ ให้ ตัวละครทา้ งานตามท่ตี ้องการ และ มือปฏิบัติเขียนโปรแกรมอยา่ ง ขอ้ มูลตามวตั ถปุ ระสงค์ ตรวจสอบขอ้ ผดิ พลาด ปรับแกไ้ ขให้ได้ผล ง่าย โดยใช้ซอฟต์แวรห์ รอื สือ่ ลัพธต์ ามทกี่ ้าหนด และตรวจหาขอ้ ผดิ พลาดของ - การตรวจหาข้อผดิ พลาดท้าไดโ้ ดย โปรแกรม ตรวจสอบค้าสง่ั ที่แจง้ ขอ้ ผิดพลาด หรอื หากผลลัพธ์ไมเ่ ป็นไปตามทีต่ ้องการให้ ตรวจสอบการทา้ งานทลี ะค้าส่ัง ซอฟต์แวร์ หรอื ส่ือท่ีใชใ้ นการเขียน โปรแกรม เชน่ ใชบ้ ัตรคา้ ส่ังแสดงการ เขียนโปรแกรม, Code.org - การใชง้ านซอฟต์แวรเ์ บืองต้น เชน่ การ -สงั เกต รวบรวมขอ้ มลู และลง เขา้ และออกจากโปรแกรม การสรา้ งไฟล์ มือปฏบิ ัติใชเ้ ทคโนโลยใี นการ การจัดเก็บ การเรียกใช้ไฟล์ กรแกไ้ ข สรา้ ง จัดหมวดหมู่ ค้นหา ตกแตง่ เอกสาร ท้าได้ ในโปรแกรม เชน่ จัดเกบ็ เรียกใช้ข้อมลู ตาม โปรแกรมประมวลค้า โปรแกรมกราฟิก วตั ถปุ ระสงค์ โปรแกรมนา้ เสนอ - การสร้าง คดั ลอก ยา้ ย ลบ เปลย่ี นชอ่ื จดั หมวดหม่ไู ฟล์และโฟลเดอร์อยา่ งเปน็ เอกสารนีเ้ ปน็ ตารางวเิ คราะหต์ ัวชี้วดั สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนวดั ไม้เสียบ (ฉบับปรับปรงุ ๒๕๖๐)
~ 13 ~ รหสั ตวั ชว้ี ัด ผู้เรียนรูอ้ ะไร ผ้เู รียนทาอะไรได้ ตัวชวี้ ดั ระบบจะท้าใหเ้ รียกใช้ ค้นห้าข้อมลู ไดง้ ่าย และรวดเรว็ ว 4.2 4. ใช้เทคโนโลยี - การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ ง -สงั เกต รวบรวมข้อมลู และลง ป 2/4 สารสนเทศอยา่ ง ปลอดภยั เช่น รู้จักขอ้ มลู ส่วนตัว อันตราย มอื ปฏบิ ตั ิใช้เทคโนโลยี ปลอดภัย ปฏิบัตติ าม ขอ้ ตกลงในการใช้ จากการเผยแพรข่ ้อมลู สว่ นตัว และไม่บอก สารสนเทศอย่างปลอดภัย คอมพิวเตอรร์ ว่ มกนั ดูแลรกั ษาอปุ กรณ์ ขอ้ มูลส่วนตัวกบั บคุ คลอนื่ ยกเว้น ปฏิบตั ิตามข้อตกลงในการใช้ เบอื งตน้ ใชง้ านอย่าง เหมาะสม ผ้ปู กครอง หรือครู แจ้งผ้เู ก่ยี วขอ้ งเมือ่ คอมพิวเตอรร์ ่วมกนั ดแู ลรกั ษา ตอ้ งการ ความช่วยเหลือเก่ียวกับการใช้ อปุ กรณ์เบอื งต้น ใช้งานอย่าง งาน เหมาะสม - ข้อปฏบิ ตั ใิ นการใช้งานและการดแู ล รักษาอุปกรณ์ เชน่ ไมข่ ีดเขยี นบนอปุ กรณ์ ท้าความสะอาด ใช้อปุ กรณอ์ ย่างถูกวธิ ี - การใช้งานอยา่ งเหมาะสม เชน่ จดั ท่านง่ั ใหถ้ กู ต้อง การพักสายตาเม่ือใช้อุปกรณ์ เปน็ เวลานาน ระมดั ระวงั อบุ ัติเหตจุ ากการ ใช้งาน เอกสารนีเ้ ปน็ ตารางวเิ คราะหต์ ัวชี้วดั สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนวัดไม้เสียบ (ฉบับปรบั ปรงุ ๒๕๖๐)
~ 14 ~ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี การวเิ คราะห์ตัวชวี้ ดั ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 สาระท่ี 1วทิ ยาศาสตรช์ วี ภาพ มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของส่ิงมีชีวิต หน่วยพ้ืนฐานของส่ิงมีชีวิต การลาเลียงสารผ่านเซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าท่ีของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ท่ีทางานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสรา้ ง และหน้าท่ีของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชที่ทางานสัมพันธก์ นั รวมท้ังนาความรไู้ ปใช้ ประโยชน์ รหัส ตัวช้วี ัด ผู้เรยี นรู้อะไร ผู้เรยี นทาอะไรได้ ตัวช้วี ัด ว 1.2 1. บรรยายส่ิงท่จี ้าเปน็ -มนษุ ย์และสัตวต์ ้องการอาหาร นา้ และ - ตงั ค้าถาม สังเกต รวบรวม ป 3/1 ตอ่ การด้ารงชีวติ และ อากาศ เพื่อการด้ารงชวี ติ และการ ขอ้ มลู และบรรยายส่งิ ทีจ่ า้ เป็น การเจริญเตบิ โตของ เจริญเตบิ โต ตอ่ การด้ารงชีวิต และการ มนษุ ย์และสัตว์ โดยใช้ เจริญเติบโตของมนุษยแ์ ละสตั ว์ ขอ้ มูลทีร่ วบรวมได้ โดยใช้ขอ้ มลู ทีร่ วบรวมได้ ว 1.2 2. ตระหนักถงึ - อาหารช่วยใหร้ ่างกายแข็งแรงและ -ตังคา้ ถาม สงั เกต รวบรวม ป 3/2 ประโยชนข์ องอาหาร เจริญเติบโต นา้ ช่วยใหร้ า่ งกายท้างานได้ ขอ้ มลู และตระหนักถงึ น้า และอากาศ โดย อย่างปกติ อากาศใช้ ในการหายใจ ประโยชน์ของอาหาร นา้ และ การดูแลตนเองและ อากาศ โดยการดแู ลตนเองและ สตั ว์ใหไ้ ด้รับ สิง่ เหล่านี สตั ว์ใหไ้ ดร้ ับ สงิ่ เหลา่ นอี ยา่ ง อยา่ งเหมาะสม เหมาะสม ว 1.2 3. สรา้ งแบบจา้ ลองท่ี - สตั ว์เมอื่ เป็นตัวเต็มวัยจะสบื พันธม์ุ ีลกู -ตังคา้ ถาม วางแผน สบื ค้น ป 3/3 บรรยายวัฏจกั รชีวิต เมื่อลกู เจริญเตบิ โตเปน็ ตวั เตม็ วยั ก็สืบพันธ์ุ สรา้ งแบบจา้ ลอง อภิปรายและ ของสัตว์ และ มีลกู ต่อไปได้อีกหมุนเวียนต่อเน่ืองเป็นวัฏ บรรยายวัฏจกั รชีวิต ของสัตว์ เปรียบเทียบวฏั จกั ร จักรชวี ิตของสตั ว์ ซง่ึ สัตว์ แต่ละชนิด เช่น และเปรียบเทยี บวฏั จักรชีวติ ชีวิตของสัตว์ บางชนดิ ผีเสอื กบ ไก่ มนษุ ยจ์ ะมวี ัฏจักรชีวติ ที่ ของสตั ว์ บางชนิด ว 1.2 4. ตระหนกั ถึงคุณคา่ เฉพาะ และแตกตา่ งกัน -ตังค้าถาม วางแผน สืบคน้ ป 3/4 ของชีวิตสตั ว์ โดยไม่ท้า รวบรวมขอ้ มลู อภปิ รายและ ให้วฏั จกั รชีวติ ของสตั ว์ ตระหนักถึงคณุ คา่ ของชวี ติ สตั ว์ เปลย่ี นแปลง โดยไมท่ า้ ให้วฏั จักรชวี ิตของสตั ว์ เปลยี่ นแปลง เอกสารนี้เปน็ ตารางวเิ คราะหต์ วั ชีว้ ัดสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนวดั ไมเ้ สียบ (ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐)
~ 15 ~ สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบตั ิของสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสมั พนั ธ์ระหว่างสมบัติ ของสสารกับโครงสรา้ งและแรงยึดเหน่ยี วระหว่างอนภุ าค หลักและธรรมชาตขิ องการ เปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมี รหสั ตวั ช้วี ดั ผูเ้ รียนรูอ้ ะไร ผู้เรยี นทาอะไรได้ ตัวชีว้ ัด ว 2.1 1. อธบิ ายวา่ วัตถุ - วตั ถุอาจท้าจากชนิ ส่วนย่อย ๆ ซง่ึ แตล่ ะ -ตังคา้ ถาม วางแผน สังเกต ป 3/1 ประกอบขึนจากชนิ ชินมลี กั ษณะเหมือนกันมาประกอบเขา้ ทดลอง รวบรวมข้อมูล สว่ นยอ่ ย ๆ ซง่ึ สามารถ ดว้ ยกัน เมื่อแยกชนิ ส่วนย่อย ๆ แต่ละชนิ อภิปรายร่วมกนั และอธิบายว่า ว 2.1 แยกออกจากกันได้และ ของวัตถุออกจากกัน สามารถน้าชินสว่ น วัตถปุ ระกอบขึนจากชนิ ป 3/2 ประกอบกนั เปน็ วตั ถุ เหล่านนั มาประกอบเปน็ วตั ถุชนิ ใหมไ่ ด้ สว่ นยอ่ ย ๆ ซึง่ สามารถแยก ชินใหมไ่ ด้ โดยใช้ เช่น กา้ แพงบา้ นมีก้อนอิฐหลาย ๆ กอ้ น ออกจากกันได้และประกอบกัน หลกั ฐานเชิงประจักษ์ ประกอบเข้าด้วยกัน และสามารถนา้ ก้อน เป็นวตั ถชุ ินใหมไ่ ด้ โดยใช้ อฐิ จากา้ แพงบา้ นมาประกอบเป็นพนื หลกั ฐานเชิงประจักษ์ 2. อธบิ ายการ ทางเดนิ ได้ เปลีย่ นแปลงของวัสดุ -ตงั ค้าถาม วางแผน สงั เกต เมอื่ ท้าให้รอ้ นขนึ หรือ - เมอ่ื ให้ความร้อนหรือท้าใหว้ ัสดรุ ้อนขึน รวบรวมขอ้ มูล ทดลอง ทา้ ใหเ้ ยน็ ลง โดยใช้ และเม่ือ ลดความร้อนหรือทา้ ให้วสั ดุเย็น อภิปรายรว่ มกันและอธิบายการ หลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ ลง วสั ดุจะเกิด การเปลย่ี นแปลงได้ เช่น สี เปล่ยี นแปลงของวสั ดเุ มือ่ ท้าให้ เปลีย่ น รปู ร่างเปล่ยี น ร้อนขนึ หรอื ท้าให้เยน็ ลง โดยใช้ หลกั ฐานเชิงประจักษ์ สาระที่ 2วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว 2.2 เข้าใจธรรมชาตขิ องแรงในชวี ติ ประจาวัน ผลของแรงท่กี ระทาตอ่ วัตถุ ลักษณะการเคลอื่ นท่ี แบบต่าง ๆ ของวัตถุ รวมทง้ั นาความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์ รหสั ตัวชีว้ ัด ผเู้ รยี นร้อู ะไร ผูเ้ รียนทาอะไรได้ ตวั ชว้ี ัด 1.ระบผุ ลของแรงที่มี - การดึง หรอื การผลกั เปน็ การออกแรง -ตงั คา้ ถาม วางแผน สงั เกต ว 2.2 ต่อการเปลย่ี นแปลง ป 3/1 การเคลือ่ นท่ีของวัตถุ กระท้าตอ่ วตั ถุ แรงมีผลต่อการเคลอื่ นที่ คาดคะเนผล ทดลอง รวบรวม จากหลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ ของวัตถุ แรงอาจท้าให้วตั ถเุ กิดการ ข้อมลู อภปิ รายร่วมกนั และระบุ เคลื่อนทโี่ ดยเปล่ยี นต้าแหน่งจากทีห่ นง่ึ ไป ผลของแรงทมี่ ีต่อการ ยังอกี ท่หี น่ึง เปลย่ี นแปลง การเคล่ือนท่ี - การเปลีย่ นแปลงการเคล่ือนทีข่ องวัตถุ ของวัตถุจากหลกั ฐานเชิง ไดแ้ ก่ วัตถุท่อี ยนู่ ิ่งเปลยี่ นเป็นเคล่ือนที่ ประจักษ์ วตั ถุที่กา้ ลงั เคลื่อนทีเ่ ปลีย่ นเปน็ เคล่อื นที่ เอกสารนี้เปน็ ตารางวเิ คราะหต์ ัวชีว้ ัดสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนวดั ไมเ้ สียบ (ฉบับปรับปรงุ ๒๕๖๐)
~ 16 ~ เร็วขึนหรอื ชา้ ลงหรือหยดุ นิ่ง หรอื เปลี่ยน ทิศทางการเคลื่อนท่ี ว 2.2 2.เปรียบเทียบและ -การดงึ หรือการผลักเปน็ การออกแรงที่ -ตังคา้ ถาม วางแผน สังเกต ป 3/2 ยกตวั อยา่ งแรงสมั ผัส เกิดจากวตั ถหุ น่ึงกระท้ากบั อีกวตั ถุหนง่ึ คาดคะเนผล ทดลอง รวบรวม และแรงไมส่ มั ผสั ที่มีผล โดยวตั ถทุ ังสองอาจสัมผสั หรอื ไม่ต้อง ขอ้ มลู อภปิ รายร่วมกนั และระบุ ต่อการเคลอื่ นท่ีของ สัมผสั กนั เช่น การออกแรงโดยใช้มือดงึ ผลของแรงทมี่ ตี ่อการ วตั ถุ โดยใช้หลกั ฐาน หรอื การผลักโตะ๊ ใหเ้ คล่ือนที่เป็นการออก เปลยี่ นแปลง การเคลอ่ื นที่ แรงท่วี ตั ถุต้องสัมผัสกัน แรงนีจึงเปน็ แรง ของวตั ถุจากหลกั ฐานเชิง เชิงประจกั ษ์ สมั ผสั ส่วนการที่แมเ่ หลก็ ดึงดูดหรอื ผลัก ประจักษ์ ระหว่างแมเ่ หล็กเป็นแรงทเ่ี กิดขนึ โดย แมเ่ หล็กไม่จา้ เป็นต้องสมั ผสั กัน แรง แมเ่ หลก็ นจี งึ เปน็ แรงไมส่ ัมผสั ว 2.2 3. จา้ แนกวัตถุโดยใช้ - แม่เหลก็ สามารถดึงดูดสารแมเ่ หล็กได้ -ตังคา้ ถาม วางแผน สงั เกต ป 3/3 การดงึ ดูดกับแมเ่ หล็ก - แรงแมเ่ หล็กเปน็ แรงทเ่ี กดิ ขึนระหวา่ ง คาดคะเนผล ทดลอง รวบรวม เป็นเกณฑจ์ าก แม่เหล็ก กับสารแมเ่ หลก็ หรือแมเ่ หลก็ กบั ข้อมูล อภปิ รายร่วมกัน และ หลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ แมเ่ หลก็ จา้ แนกวัตถโุ ดยใช้การดึงดูดกับ แม่เหลก็ เป็นเกณฑ์จาก หลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ ว 2.2 4. ระบุขัวแมเ่ หล็กและ -แม่เหล็ก มี 2 ขัวคือ ขวั เหนอื และขัวใต้ -ตังคา้ ถาม วางแผน สงั เกต ป 3/4 พยากรณ์ผลที่เกดิ ขนึ ขวั แม่เหล็กชนดิ เดียวกันจะผลักกนั ตา่ ง คาดคะเนผล ทดลอง รวบรวม ระหวา่ งขวั แมเ่ หลก็ เมื่อ ชนดิ กนั จะดึงดดู กนั ข้อมูล อภิปรายรว่ มกัน และ นา้ มาเข้าใกลก้ ันจาก ระบุขัวแมเ่ หล็กและพยากรณ์ หลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ ผลท่เี กิดขึนระหวา่ งขัวแมเ่ หล็ก เมื่อนา้ มาเข้าใกล้กนั จาก หลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ เอกสารนีเ้ ปน็ ตารางวเิ คราะหต์ ัวชีว้ ัดสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนวัดไม้เสียบ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ๒๕๖๐)
~ 17 ~ สาระท่ี 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.3 เขา้ ใจความหมายของพลงั งาน การเปล่ียนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏสิ มั พันธ์ ระหวา่ งสสารและพลังงาน พลังงานในชีวิตประจาวัน ธรรมชาตขิ องคล่นื ปรากฏการณ์ทีเ่ กีย่ วข้องกับเสยี ง แสง และคลื่นแมเ่ หล็กไฟฟ้า รวมทง้ั นาความรูไ้ ปใช้ประโยชน์ รหสั ตวั ช้วี ดั ผ้เู รยี นรอู้ ะไร ผ้เู รียนทาอะไรได้ ตัวชว้ี ัด 1. ยกตัวอยา่ งการ - พลังงานเป็นปรมิ าณทแี่ สดงถงึ -ตังคา้ ถาม วางแผน สบื ค้น ว 2.3 เปลย่ี นพลงั งานหนึ่งไป ความสามารถ ในการท้างาน พลงั งานมี ข้อรวบรวมข้อมลู วเิ คราะห์ ป 3/1 เปน็ อกี พลงั งานหน่ึง หลายแบบ เชน่ พลังงานกล พลงั งาน ขอ้ มลู สรุปผลการสืบคน้ จากหลักฐานเชิง ไฟฟา้ พลงั งานแสง พลังงานเสยี ง และ ขอ้ มลู จัดกระทา้ และส่ือ ประจักษ์ พลงั งานความร้อน โดยพลงั งานสามารถ ความหมายข้อมลู และ เปล่ยี นจากพลังงานหนึ่งไปเป็นอีกพลงั งาน นา้ เสนอตวั อย่างการเปลย่ี น หน่ึงได้ เช่น การถมู ือจนรู้สึกร้อน เปน็ การ พลังงานหนง่ึ ไปเปน็ อีก เปล่ยี นพลงั งานกลเป็นพลงั งานความร้อน พลงั งานหนึง่ จากหลกั ฐานเชงิ แผงเซลลส์ ุรยิ ะเปลยี่ นพลังงานแสง เป็น ประจกั ษ์ พลงั งานไฟฟ้าหรอื เคร่อื งใชไ้ ฟฟา้ เปลย่ี น พลงั งานไฟฟา้ เป็นพลังงานอน่ื ว 2.3 2. บรรยายการทา้ งาน - ไฟฟ้าผลิตจากเคร่ืองก้าเนิดไฟฟา้ ซ่งึ ใช้ -ตงั ค้าถาม วางแผน สืบคน้ ป 3/2 ของเครื่องกา้ เนดิ ไฟฟ้า พลังงานจากแหลง่ พลังงานธรรมชาตหิ ลาย ขอ้ รวบรวมข้อมลู วิเคราะห์ และระบุแหลง่ พลังงาน แหล่ง เชน่ พลงั งานจากลม พลงั งานจาก ขอ้ มลู สรุปผลการสืบค้น ในการผลิตไฟฟา้ จาก นา้ พลงั งานจากแก๊สธรรมช้าติ ขอ้ มลู จัดกระทา้ และสื่อ ขอ้ มลู ทรี่ วบรวมได้ ความหมายข้อมลู และ น้าเสนอการท้างานของเครอื่ ง ก้าเนดิ ไฟฟา้ และระบุแหลง่ พลงั งานในการผลติ ไฟฟ้า จาก ขอ้ มูลทร่ี วบรวมได้ ว 2.3 3. ตระหนกั ใน - พลงั งานไฟฟา้ มีความสา้ คัญต่อ -ตงั ค้าถาม วางแผน สบื คน้ ป 3/3 ประโยชนแ์ ละโทษของ ชวี ิตประจ้าวนั การใชไ้ ฟฟ้านอกจากตอ้ ง ข้อรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ ไฟฟ้า โดยนา้ เสนอ ใชอ้ ย่างถูกวธิ ี ประหยดั และคุ้มค่าแลว้ ยัง ขอ้ มลู สรุปผลการสืบค้น วิธีการใชไ้ ฟฟา้ อย่าง ต้องคา้ นึงถึงความปลอดภยั ด้วย ข้อมลู จดั กระท้าและสื่อ ประหยดั และ ความหมายข้อมลู และ ปลอดภยั ตระหนกั ในประโยชนแ์ ละโทษ ของไฟฟ้า โดยนา้ เสนอ วธิ กี ารใช้ไฟฟา้ อยา่ งประหยัด และปลอดภยั เอกสารนีเ้ ปน็ ตารางวเิ คราะหต์ ัวชีว้ ัดสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนวัดไม้เสียบ (ฉบบั ปรับปรุง ๒๕๖๐)
~ 18 ~ สาระท่ี 3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.1 เขา้ ใจองคป์ ระกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซีดาว ฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมท้ังปฏิสมั พันธภ์ ายในระบบสุริยะท่สี ่งผลต่อสิ่งมีชีวติ และการประยกุ ตใ์ ช้เทคโนโลยี อวกาศ รหัส ตัวช้วี ัด ผู้เรียนรู้อะไร ผเู้ รียนทาอะไรได้ ตวั ชวี้ ัด ว 3.1 1. อธิบายแบบรปู - คนบนโลกมองเห็นดวงอาทิตย์ปรากฏขึน -ตงั คา้ ถาม วางแผน และ ป 3/1 เสน้ ทางการขึนและตก ของดวงอาทติ ยโ์ ดยใช้ ทางด้านหนง่ึ และตกทางอกี ด้านหน่งึ ทกุ สังเกตเสน้ ทางการขึนและตก ว 3.1 หลักฐานเชิงประจักษ์ ป 3/2 2. อธบิ ายสาเหตกุ าร วัน หมุนเวียนเปน็ แบบรปู ซา้ ๆ ของดวงอาทติ ยโ์ ดยใช้ เกดิ ปรากฏการณ์การ ว 3.1 ขึนและตกของดวง - โลกกลมและหมุนรอบตัวเองขณะโคจร หลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ บันทกึ ป 3/3 อาทิตย์ การเกิด กลางวนั กลางคืน และ รอบดวงอาทิตย์ ทา้ ใหบ้ รเิ วณของโลก ข้อมูล อภิปรายแสดงความ การก้าหนดทศิ โดยใช้ แบบจ้าลอง ไดร้ บั แสงอาทติ ย์ไม่พร้อมกนั โลกดา้ นที่ คดิ เห็น 3.ตระหนักถึง ได้รบั แสงจากดวงอาทติ ยจ์ ะเป็นกลางวัน -สรา้ งแบบจ้าลอง น้าเสนอ ความส้าคัญของดวง อาทติ ย์ โดยบรรยาย ส่วนดา้ นตรงขา้ มที่ไม่ได้รบั แสงจะเปน็ และอธิบายการเกิดกลางวนั ประโยชนข์ องดวง อาทิตย์ต่อสงิ่ มชี วี ติ กลางคืน นอกจากนีคนบนโลกจะมองเห็น กลางคนื ดวงอาทติ ยป์ รากฏขึนทางดา้ นหน่ึงซง่ึ -สังเกต อภิปราย แสดงความ ก้าหนดใหเ้ ปน็ ทิศตะวันออก และมองเห็น คดิ เห็น รวบรวมข้อมูล สรุป ดวงอาทิตย์ตกทางอีกดา้ นหนึ่ง ซ่ึง และแสดงวธิ กี ารก้าหนดทศิ กา้ หนดให้เปน็ ทิศตะวนั ตก และเม่ือให้ ดา้ นขวามอื อยทู่ างทิศตะวันออก ด้าน -ตงั ค้าถาม วางแผน สบื ค้น ซา้ ยมอื อยูท่ างทิศตะวนั ตก ด้านหนา้ จะ ข้อรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ เป็นทิศเหนือ และด้านหลังจะเป็นทิศใต้ ขอ้ มูล สรุปผลการสืบคน้ - ในเวลากลางวันโลกจะไดร้ บั พลังงานแสง ข้อมลู จัดกระทา้ และส่ือ และพลังงานความร้อนจากดวงอาทติ ย์ ท้า ความหมายข้อมูล และ ให้สง่ิ มชี วี ติ ด้ารงชีวติ อยูไ่ ด้ ตระหนักถึงความส้าคญั ของ ดวงอาทติ ย์ โดยบรรยาย ประโยชนข์ องดวงอาทติ ยต์ ่อ ส่งิ มีชีวติ เอกสารนีเ้ ปน็ ตารางวเิ คราะหต์ วั ชี้วัดสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนวดั ไมเ้ สียบ (ฉบบั ปรบั ปรุง ๒๕๖๐)
~ 19 ~ สาระที่ 3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองคป์ ระกอบ และความสมั พันธข์ องระบบโลก กระบวนการเปล่ียนแปลงภายในโลก และบนผิวโลก ธรณพี ิบัตภิ ยั กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟา้ อากาศและภมู ิอากาศโลกรวมทั้งผลตอ่ สิง่ มีชีวิต และสง่ิ แวดล้อม รหัส ตัวชี้วัด ผูเ้ รียนรอู้ ะไร ผู้เรยี นทาอะไรได้ ตวั ช้วี ัด ว 3.2 1. ระบสุ ว่ นประกอบ - อากาศโดยทวั่ ไปไม่มีสี ไม่มีกลน่ิ -ตงั ค้าถาม วางแผน สังเกต ป 3/1 ของอากาศ บรรยาย ประกอบดว้ ย แกส๊ ไนโตรเจน แกส๊ ส้ารวจ ตรวจสอบ รวบรวม ว 3.2 ป 3/2 ความส้าคัญของอากาศ ออกซิเจน แก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์ แกส๊ ข้อมูล บันทึกข้อมลู อภปิ ราย ว 3.2 และผลกระทบของ อืน่ ๆ รวมทงั ไอนา้ และ ฝนุ่ ละออง แสดงความคิดเหน็ นา้ เสนอ ป 3/3 มลพษิ ทางอากาศตอ่ อากาศมคี วามส้าคัญต่อสิง่ มีชีวติ หาก และระบุสว่ นประกอบของ ว 3.2 ป 3/4 สิ่งมีชีวิต จากขอ้ มูล ท่ี สว่ นประกอบของอากาศไม่เหมาะสม อากาศ บรรยายความส้าคญั รวบรวมได้ เนื่องจากมีแกส๊ บางชนิดหรือฝุ่นละอองใน ของอากาศ และผลกระทบ ปริมาณมาก อาจเป็นอนั ตรายตอ่ สงิ่ มชี ีวติ ของมลพิษทางอากาศต่อ ชนดิ ตา่ ง ๆ จดั เปน็ มลพษิ ทางอากาศ สิง่ มีชวี ติ จากข้อมูล ท่ี - แนวทางการปฏบิ ตั ิตนเพื่อลดการปลอ่ ย รวบรวมได้ 2. ตระหนักถึง มลพิษทางอากาศ เช่น ใช้พาหนะรว่ มกนั -ระบปุ ญั หามลพิษทางอากาศ ความส้าคัญของอากาศ หรอื เลือกใช้เทคโนโลยที ล่ี ดมลพษิ ทาง ในชุมชน และเสนอแนว โดยน้าเสนอแนว อากาศ ทางแก้ไขปัญหา ทางการปฏบิ ัตติ นใน การลด การเกิดมลพิษ ทางอากาศ 3. อธบิ ายการเกดิ ลม - ลม คอื อากาศที่เคลื่อนที่ เกิดจากความ - ระบทุ ิศทางลมในเวลาต่าง ๆ จากหลกั ฐานเชงิ แตกตา่ งกนั ของอุณหภมู ิอากาศบรเิ วณที่ รมิ ทะเลได้(เช้า กลางวัน ก่อน ประจกั ษ์ อยใู่ กล้กัน โดยอากาศบรเิ วณท่มี ีอุณหภมู ิ เลกิ เรียน) สูงจะลอยตวั สูงขนึ และอากาศบริเวณทมี่ ี อณุ หภูมติ ้า่ กวา่ จะเคลื่อนเข้าไปแทนที่ 4.บรรยายประโยชน์ -ลมสามารถน้ามาใชเ้ ป็นแหลง่ พลงั งาน -ตงั ค้าถาม วางแผน สังเกต และโทษของลม จาก ทดแทน ในการผลติ ไฟฟา้ และนา้ ไปใช้ สา้ รวจ สืบค้น รวบรวมข้อมลู ข้อมูลที่รวบรวมได้ ประโยชน์ บนทกึ ข้อมูล อภิปราย แสดง ความคดิ เหน็ น้าเสนอ ประโยชนแ์ ละโทษของลม จากข้อมูลทรี่ วบรวมได้ เอกสารนีเ้ ปน็ ตารางวเิ คราะหต์ ัวชีว้ ดั สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนวัดไม้เสียบ (ฉบับปรบั ปรงุ ๒๕๖๐)
~ 20 ~ สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคิดเชิงคานวณในการแก้ปญั หาที่พบในชีวติ จริงอย่างเป็นข้นั ตอนและเป็น ระบบใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทางาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสทิ ธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม 9 รหสั ตัวชีว้ ดั ผเู้ รียนร้อู ะไร ผเู้ รียนทาอะไรได้ ตัวชว้ี ัด ว 3.2 1. แสดงอัลกอรทิ ึมใน - อัลกอริทึมเป็นขันตอนที่ใช้ในการ -สังเกต สืบคน้ รวบรวมขอ้ มลู ป 3/1 การทา้ งาน หรือ การ แก้ปญั หา และลงมือปฏบิ ตั ิแสดง แก้ปัญหาอย่างง่ายโดย - การแสดงอัลกอรทิ ึมท้าไดโ้ ดยการเขียน อัลกอริทึมในการทา้ งาน หรือ ใช้ภาพ สญั ลกั ษณ์ บอกเล่า วาดภาพ หรือใชส้ ัญลกั ษณ์ การแกป้ ัญหาอย่างง่ายโดยใช้ หรือขอ้ ความ - ตวั อย่างปญั หา เช่น เกมเศรษฐี เกม ภาพ สัญลักษณ์ หรือข้อความ บนั ไดงู เกม Tetris เกม OX การเดนิ ไป โรงอาหาร การท้าความสะอาดหอ้ งเรียน ว 3.2 2. เขียนโปรแกรม - การเขียนโปรแกรมเป็นการสร้างลา้ ดับ -สงั เกต สบื ค้น รวบรวมขอ้ มูล ป 3/2 อยา่ งงา่ ย โดยใช้ ของคา้ สงั่ ใหค้ อมพิวเตอรท์ ้างาน และลงมือปฏบิ ัติเขยี น ซอฟต์แวรห์ รอื สอื่ และ - ตัวอยา่ งโปรแกรม เชน่ เขยี นโปรแกรมท่ี โปรแกรมอยา่ งงา่ ย โดยใช้ ตรวจห้าขอ้ ผิดพลาด สง่ั ให้ ตัวละครท้างานซา้ ไมส่ ินสุด ซอฟตแ์ วร์หรือสื่อ และตรวจ ของโปรแกรม - การตรวจหาขอ้ ผิดพลาดท้าไดโ้ ดย หา้ ขอ้ ผิดพลาดของโปรแกรม ตรวจสอบค้าส่งั ท่แี จ้งข้อผดิ พลาด หรอื หากผลลพั ธไ์ ม่เป็นไปตามที่ต้องการให้ ตรวจสอบการทา้ ง้านทลี ะคา้ ส่ัง - ซอฟตแ์ วรห์ รือส่ือท่ีใชใ้ นการเขียน โปรแกรม เชน่ ใชบ้ ตั รค้าสงั่ แสดงการ เขียนโปรแกรม, Code.org ว 3.2 3.ใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ตคน้ หา - อนิ เทอรเ์ น็ตเป็นเครือขา่ ยขนาดใหญช่ ่วย -สงั เกต สบื คน้ รวบรวมข้อมลู ป 3/3 ความรู้ ให้ การติดต่อสือ่ สารทา้ ไดส้ ะดวกและ และลงมือปฏบิ ัติใช้ รวดเรว็ และ เป็นแหลง่ ข้อมลู ความร้ทู ่ีช่วย อนิ เทอร์เน็ตคน้ หาความรู้ ในการเรยี น และการด้าเนนิ ชีวติ - เวบ็ เบราว์เซอร์เป็นโปรแกรมสา้ หรับอา่ น เอกสารบนเวบ็ เพจ - การสืบค้นข้อมลู บนอินเทอร์เน็ตท้าได้ โดยใช้เวบ็ ไซตส์ า้ หรบั สบื ค้น และตอ้ ง ก้าหนดคา้ คน้ ทีเ่ หมาะสมจึงจะได้ข้อมลู ตามต้องการ – ข้อมูลความรู้ เชน่ วิธี ท้าอาหาร วธิ ีพบั กระดาษ เป็นรปู ตา่ ง ๆ ข้อมูลประวตั ิศาสตรช์ าติไทย (อาจเปน็ เอกสารนี้เปน็ ตารางวเิ คราะหต์ ัวชีว้ ดั สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนวดั ไม้เสียบ (ฉบบั ปรับปรุง ๒๕๖๐)
~ 21 ~ รหสั ตัวช้วี ัด ผเู้ รยี นรูอ้ ะไร ผู้เรยี นทาอะไรได้ ตวั ชวี้ ัด ความรใู้ นวชิ าอน่ื ๆ หรือเรื่องที่เป็น ประเด็นท่ีสนใจ ในชว่ งเวลานนั ) - การใช้อนิ เทอร์เนต็ อยา่ งปลอดภัยควร อยใู่ นการดูแลของครู หรอื ผูป้ กครอง ว 3.2 4. รวบรวม - การรวบรวมขอ้ มูล ทา้ ไดโ้ ดยกา้ หนด -สงั เกต สืบค้น รวบรวมข้อมูล ป 3/4 ประมวลผล และ หวั ข้อทต่ี ้องการ เตรยี มอุปกรณใ์ นการจด และลงมือปฏบิ ตั ิรวบรวม น้าเสนอข้อมลู โดยใช้ บันทกึ ประมวลผล และน้าเสนอ ซอฟต์แวรต์ าม - การประมวลผลอยา่ งงา่ ย เช่น ขอ้ มลู โดยใช้ซอฟต์แวรต์ าม วัตถุประสงค์ เปรยี บเทยี บ จดั กล่มุ เรียงล้าดับ วัตถุประสงค์ - การน้าเสนอข้อมลู ทา้ ได้หลายลกั ษณะ ตาม ความเหมาะสม เชน่ การบอกเลา่ การท้าเอกสารรายงาน การจัดทา้ ปา้ ย ประกาศ - การใชซ้ อฟตแ์ วรท์ า้ งานตาม วตั ถุประสงค์ เช่น ใช้ซอฟตแ์ วร์น้าเสนอ หรือซอฟตแ์ วร์กรา้ ฟิก สรา้ งแผนภูมิ รปู ภาพ ใชซ้ อฟต์แวร์ประมวลคา้ ทา้ ป้าย ประกาศ หรอื เอกสารรายงาน ใช้ ซอฟตแ์ วรต์ ารางทา้ งานในการประมวลผล ขอ้ มลู ว 3.2 5. ใช้เทคโนโลยี - การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่าง - ป 3/5 สารสนเทศอย่าง ปลอดภยั เชน่ ปกป้องข้อมลู ส่วนตวั ปลอดภัย ปฏบิ ตั ติ าม - ขอความช่วยเหลือจากครู หรอื ขอ้ ตกลงในการใช้ ผปู้ กครองเมื่อเกิดปัญหาจากการใช้งาน อนิ เทอร์เน็ต เม่ือพบข้อมลู หรอื บุคคลที่ท้าใหไ้ มส่ บายใจ - การปฏิบัติตามข้อตกลงในการใช้ อินเทอร์เนต็ จะท้าให้ไม่เกดิ ความเสียหาย ต่อตนเองและผู้อ่นื เช่น ไมใ่ ช้คา้ หยาบ ล้อเลียน ด้่าทอ ท้าใหผ้ อู้ ่นื เสยี หาย หรอื เสียใจ เอกสารนี้เปน็ ตารางวเิ คราะหต์ วั ชี้วัดสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนวัดไม้เสียบ (ฉบับปรบั ปรงุ ๒๕๖๐)
~ 22 ~ เอกสารนีเ้ ปน็ ตารางวเิ คราะหต์ วั ชีว้ ัดสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนวัดไมเ้ สียบ (ฉบบั ปรบั ปรุง ๒๕๖๐)