วันนี้ (21 ธันวาคม) รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม. เห็นชอบมาตรการมอบของขวัญปีใหม่ให้คนไทยปี 2565 จากกระทรวงแรงงาน เพื่อมอบให้กับผู้ใช้แรงงานทั้งในระบบและนอกระบบหลายชิ้น อาทิ
- ลดอัตราเงินสมทบของผู้ประกันตนมาตรา 40 เหลือร้อยละ 60 เป็นระยะเวลา 6 เดือน มีรายละเอียดดังนี้
- ทางเลือกที่ 1 ลดอัตราเงินสมทบเหลือ 42 บาทต่อเดือน จากเดิม 70 บาทต่อเดือน
- ทางเลือกที่ 2 ลดอัตราเงินสมทบเหลือ 60 บาทต่อเดือน จากเดิม 100 บาทต่อเดือน
- ทางเลือกที่ 3 ลดอัตราเงินสมทบเหลือ 180 บาทต่อเดือน จากเดิม 300 บาทต่อเดือน
ส่วนสิทธิประโยชน์ที่ผู้ประกันตนจะได้รับทั้ง 3 ทางเลือก ยังคงเดิม ทั้งนี้ จากการลดอัตราเงินสมทบดังกล่าว มีผู้ประกันตนมาตรา 40 ได้รับประโยชน์กว่า 10.57 ล้านคน เกิดเงินหมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจกว่า 1,408 ล้านบาท
- เพิ่มอัตราเงินสงเคราะห์จากกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างสูงสุด 100 เท่า เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ลูกจ้างที่ถูกนายจ้างเลิกจ้างหรือค้างจ่ายเงินเดือน ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด ดังนี้
- กรณีค่าชดเชย แบ่งเป็น
(1) อัตราค่าชดเชยจากเดิม 30 เท่า เพิ่มเป็น 60 เท่า ของอัตราค่าจ้างขั้นต่ำสำหรับลูกจ้างที่มีอายุงาน 120 วัน แต่ไม่ครบ 3 ปี
(2) อัตราค่าชดเชยจากเดิม 50 เท่า เพิ่มเป็น 80 เท่า ของอัตราค่าจ้างขั้นต่ำสำหรับลูกจ้างที่มีอายุงาน 3 ปี แต่ไม่ครบ 10 ปี
(3) อัตราค่าชดเชยจากเดิม 70 เท่า เพิ่มเป็น 100 เท่า ของอัตราค่าจ้างขั้นต่ำสำหรับลูกจ้างที่มีอายุงาน 10 ปีขึ้นไป
- กรณีเงินอื่นนอกจากค่าชดเชย อัตราเดิม 60 เท่า เพิ่มเป็น 100 เท่า ของอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
- ฟรีดอกเบี้ย 0% นาน 12 เดือน สำหรับการกู้ยืมเงินจากกองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้าน เพื่อดูแลความเป็นอยู่ของแรงงานนอกระบบในกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้านทั่วประเทศกว่า 6,000 คน โดยกรมการจัดหางานจะลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้หรือค่าธรรมเนียมเหลือร้อยละ 0 ต่อปี ในงวดที่ 1-12 โดยไม่ปลอดเงินต้น และงวดที่ 13 เป็นต้นไป จนสิ้นสุดสัญญา คิดอัตราร้อยละ 3 ต่อปี สำหรับวงเงินกู้ยืม ผู้รับงานไปทำที่บ้านรายบุคคลกู้ได้ไม่เกิน 50,000 บาท รายกลุ่มกู้ได้ไม่เกิน 300,000 บาท
ผู้สนใจสามารถยื่นกู้ได้ที่สำนักงานจัดหางาน กรุงเทพมหานคร และสำนักงานจัดหางานทุกจังหวัด ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2564 ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2565 และทำสัญญากู้ยืมเงินภายใน 30 กันยายน 2565
TAGS:
ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล
|
15 มิ.ย. 2565 เวลา 3:30 น. 21.2k"ประกันสังคม"ปรับลดอัตราเงินสมทบ มาตรา 33 เดือนพ.ค.- ก.ค.65 นายจ้างและผู้ประกันตน เหลือฝ่ายละเท่าไร สรุปที่นี่
เกาะติดมาตรการเยียวยา "ประกันสังคม" ลดอัตราเงินสมทบ มาตรา 33 และมาตรา 39 ติดต่อกัน 3 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม- กรกฏาคม 2565 มีรายละเอียด ดังนี้
มาตรา 33
- ปรับลดอัตราเงินสมทบนายจ้าง ผู้ประกันตนมาตรา 33 จากเดิมร้อยละ 5 เหลือฝ่ายละร้อยละ 1 ของค่าจ้าง เช่น
เงินเดือน 10,000 บาท ปกติจ่ายเงินสมทบ 500 บาท/เดือน ลดเหลือเพียง 100 บาท/เดือน
เงินเดือน 15,000 บาทขึ้นไป ปกติจ่าย 750 บาท/เดือน ลดเหลือเพียง 150 บาทเดือน
หมายเหตุ การคำนวณเงินสมทบจากค่าจ้างที่ลูกจ้างได้รับร้อยละ 5 ต่อเดือน ซึ่งกำหนดจากฐานค่าจ้างต่ำสุด 1,650 บาท และสูงสุดไม่เกินเดือนละ 15,000 บาท
มาตรา 39
- ปรับลดอัตราเงินสมทบ จากเดิมร้อยละ 9 เหลือร้อยละ 1.9 จากปกติจ่าย 432 บาท ลดเหลือเพียง 91 บาท
- บทความ
- ทันเหตุการณ์
- อัตราเงินสมทบประกันสังคม และ วันสุดท้ายส่งเงินสมทบประก..
เขียนเมื่อ 7 มีนาคม 2565 หมวดหมู่ ทันเหตุการณ์ โดย Accounting Center
มาดูกันนะคะ ว่าในปี 2565 นี้ จะต้องจ่ายเงินสมทบประกันสังคมอัตราเท่าไหร่ และกำหนดการจ่ายเงินสมทบแบบ e-Payment ในแต่ละเดือน ต้องจ่ายภายในวันสุดท้ายวันที่เท่าไหร่บ้าง
อัตราเงินสมทบประกันสังคม ปี 2565
ขาวดี สำนักงานประกันสังคมประกาศ ลดอัตราเงินสมทบประกันสังคม 3 เดือน ได้แก่ เดือน พฤษภาคม, มิถุนายน, กรกฎาคม 2565 ทั้งนายจ้างและลูกจ้างมาตรา33 เหลือ 1% ต่อเดือน
- มกราคม 2565: ไม่มีประกาศปรับลด อัตราปกติคือ 5% หรือสูงสุด 750 บาท ทั้งนายจ้าง และลูกจ้าง
- กุมภาพันธ์ 2565: ไม่มีประกาศปรับลด อัตราปกติคือ 5% หรือสูงสุด 750 บาท ทั้งนายจ้าง และลูกจ้าง
- มีนาคม 2565: ไม่มีประกาศปรับลด อัตราปกติคือ 5% หรือสูงสุด 750 บาท ทั้งนายจ้าง และลูกจ้าง
- เมษายน 2565: ไม่มีประกาศปรับลด อัตราปกติคือ 5% หรือสูงสุด 750 บาท ทั้งนายจ้าง และลูกจ้าง
- พฤษภาคม 2565: ลดเหลือ 1% หรือสูงสุด 150 บาท ทั้งนายจ้าง และลูกจ้าง
- มิถุนายน 2565: ลดเหลือ 1% หรือสูงสุด 150 บาท ทั้งนายจ้าง และลูกจ้าง
- กรกฎาคม 2565: ลดเหลือ 1% หรือสูงสุด 150 บาท ทั้งนายจ้าง และลูกจ้าง
- สิงหาคม 2565: ยังไม่มีประกาศปรับลด อัตราปกติคือ 5% หรือสูงสุด 750 บาท ทั้งนายจ้าง และลูกจ้าง
- กันยายน 2565: ยังไม่มีประกาศปรับลด อัตราปกติคือ 5% หรือสูงสุด 750 บาท ทั้งนายจ้าง และลูกจ้าง
- ตุลาคม 2565: ยังไม่มีประกาศปรับลด อัตราปกติคือ 5% หรือสูงสุด 750 บาท ทั้งนายจ้าง และลูกจ้าง
- พฤศจิกายน 2565: ยังไม่มีประกาศปรับลด อัตราปกติคือ 5% หรือสูงสุด 750 บาท ทั้งนายจ้าง และลูกจ้าง
- ธันวาคม 2565: ยังไม่มีประกาศปรับลด อัตราปกติคือ 5% หรือสูงสุด 750 บาท ทั้งนายจ้าง และลูกจ้าง
สรุปตารางวันสิ้นสุดการนำส่งเงินสมทบ (e-Payment) ปี 2565
สำนักงานประกันสังคมขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบการทำส่งเงินสมทบกองทุนประกันสังคม e-Payment สำหรับมาตรา 33 โดยกำหนดชำระเงินสมทบ (e-Payment) แต่ละเดือน สำนักงานประกันสังคมสรุปให้แล้ว ในตารางข้างล่างนี้เลยค่ะ
- ประกันสังคม เดือน มกราคม 2565 จ่ายชำระภายใน 25 กุมภาพันธ์ 2565*
- ประกันสังคม เดือน กุมภาพันธ์ 2565 จ่ายชำระภายใน 24 มีนาคม 2565*
- ประกันสังคม เดือน มีนาคม 2565 จ่ายชำระภายใน 27 เมษายน 2565*
- ประกันสังคม เดือน เมษายน 2565 จ่ายชำระภายใน 26 พฤษภาคม 2565*
- ประกันสังคม เดือน พฤษภาคม 2565 จ่ายชำระภายใน 24 มิถุนายน 2565*
- ประกันสังคม เดือน มิถุนายน 2565 จ่ายชำระภายใน 27 กรกฎาคม 2565*
- ประกันสังคม เดือน กรกฎาคม 2565 จ่ายชำระภายใน 24 สิงหาคม 2565*
- ประกันสังคม เดือน สิงหาคม 2565 จ่ายชำระภายใน 26 กันยายน 2565*
- ประกันสังคม เดือน กันยายน 2565 จ่ายชำระภายใน 27 ตุลาคม 2565*
- ประกันสังคม เดือน ตุลาคม 2565 จ่ายชำระภายใน 24 พฤศจิกายน 2565*
- ประกันสังคม เดือน พฤศจิกายน 2565 จ่ายชำระภายใน 26 ธันวาคม 2565*
- ประกันสังคม เดือน ธันวาคม 2565 จ่ายชำระภายใน 25 มกราคม 2566*
*สำหรับการนำส่งเงินสมทบ แบบ e-Payment
หมายเหตุ: วันสิ้นสุดการชำระเงินสมทบอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามประกาศเปลี่ยนแปลงวันหยุดราชการของสำนักนายกรัฐมนตรี
ที่มา: สำนักงานประกันสังคม