การแสดง ของจังหวัดนครราชสีมา


งานประเพณีแข่งเรือพิมาย 

             งานสืบสานตำนานไทยลื้อจัดขึ้นในช่วงต้นเดือนมีนาคม เพื่อส่งเสริมขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวไท ลื้อ ซึ่งเป็นชนกลุ่มใหญ่ของอำเภอเชียงคำ ในงานมีขบวนแห่วัฒนธรรมที่สวยงาม ในเขตเทศบาลเชียงคำ มีการจำหน่ายอาหารไทลื้อการสาธิตพิธีกรรม ต่างๆเวลากว่า 200 ปี ที่ชาวไทลื้อเข้ามาตั้งรกรากในประเทศไทย ระยะเวลาที่ยาวนานอีกทั้งวัฒนธรรมที่หลากหลายจากภายนอกรุกเข้ามาก็ย่อมก่อให้การเปลี่ยนแปลงต่อความเป็นอยู่ของชาวไทลื้อ ไม่เว้นแม้แต่ศูนย์กลางชุมชนไทลื้ออย่างสิบสองปันนา ที่แม้จะยังคงรักษาหมู่บ้านไทลื้ออายุกว่า 1,000 ปี ไว้ได้ แต่ส่วนหนึ่งก็เป็นไปเพื่อการท่องเที่ยวเมื่อถามถึงความเปลี่ยนแปลงของชาวไทลื้อในไทยครูยุทธพลกล่าวว่า หากไม่มีการสืบสานและอนุรักษ์กันไว้ก็น่ากลัวว่าความเป็นไทลื้อจะหายไปเหมือนกัน แต่สำหรับชาวไทลื้อในจังหวัดพะเยานั้น ครูยุทธพลค่อนข้างจะมั่นใจว่ายังคงความเป็นไทลื้ออยู่มาก เนื่องจากในบางโรงเรียนในจังหวัดพะเยานั้นก็ได้มีการส่งเสริมการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องราวในท้องถิ่นอย่างเช่นเรื่องไทลื้อมากขึ้น โดยจะมีการศึกษาในรูปแบบของกิจกรรมชุมนุมบ้าง หรืองานวันอนุรักษ์สืบสานศิลปวัฒนธรรมบ้าง แต่สำหรับโรงเรียนเชียงคำวิทยาคมที่ครูยุทธพลสอนอยู่นั้น มีการเรียนการสอนเป็นวิชาหนึ่งเลยทีเดียว นั่นก็คือวิชาช่างศิลป์พื้นบ้าน (สล่าเมือง) เพื่อเป็นการอนุรักษ์สืบสานวิถีชีวิตและภูมิปัญญาไทลื้อในโรงเรียนเชียงคำวิทยาคมได้เป็นอย่างดี 


ประเพณีงานแห่เทียนพรรษา

จัดขึ้นในช่วงเดือนกรกฎาคมของทุกปี ณ บริเวณสวนเมืองทอง สวนสุรนารี สวนอนุสรณ์สถานฯ และลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี จัดขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมและอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยให้คงอยู่สืบไป 

และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของจังหวัดการจัดงาน แห่เทียนโคราช ประจำปี 2554 “พลังศรัทธา แห่เทียนโคราช” ว่าเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของชาวจังหวัดนครราชสีมา 

ได้สร้างงานบุญที่ยิ่งใหญ่เป็นปีที่ 4 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-17 กรกฏาคม 2554 ณ บริเวณสวนเมืองทอง สวนสุรนารี สวนอนุสรณ์สถานฯ และลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี สำหรับการประกวดต้นเทียนพรรษา 

ได้รับพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ทรงพระราชทานถ้วยรางวัลแก่ผู้ชนะเลิศเป็นประจำทุกปีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ร่วมชมความงดงามอลังการของต้นเทียนพรรษา 

ซึ่งแต่ละต้นล้วนเกิดจากความเพียรพยายามของช่างเทียนที่มีความชำนาญ สร้างและแกะสลักต้นเทียนอันวิจิตรงดงาม กล่าวได้ว่าฝีมือของช่างเทียนโคราชนั้นไม่แพ้ใคร โดยในปีนี้ได้มีการประกวดต้นเทียนพรรษาประเภทต่างๆ

แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ ประเภท ก. ประเภท ข. ประเภท ค. พร้อมชมขบวนแห่ทางวัฒนธรรมที่แต่ละอำเภอจัดมาอวดโฉมอย่างยิ่งใหญ่ เป็นระยะทางกว่า 7 กม.ภายในงานยังมีการแสดง แสง สี เสียง ประกอบรถเทียนพรรษา 

ในชื่อชุด ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ร้อยรักดวงใจไทยทั้งแผ่นดิน ด้วยระบบภาพ 3D Video Mapping สมจริงพรน้อมการแสดงพลุประกอบดนตรี 1,984 ลูก ในชื่อชุด เทิดไท้องค์ภูมินทร์ ซึ่งเป็นการแสดงที่หาชมได้ยาก 

นอกจากงานแห่เทียนโคราช ซึ่งเป็นจังหวัดแรก และจังหวัดเดียวในประเทศไทยที่จัดการแสดง รวมไปถึงยังมีการแสดงดนตรีไทยประยุกต์ Concert Thai Contemporary กับนักดนตรีกว่า 400 ชีวิต และ 

พิเศษสุดทางเทศบาลฯขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมถวายความจงรักภักดีพระบรมรูปหล่อจำลองเทียนเทิดพระเกียรติพระมหากษัตรทั้ง 9 รัชการ ซึ่งเป็นงานศิลป์อันวิจิตรบรรจงจากการแกะสลัก 

และจัดทำเป็นครั้งแรกของจังหวัดนครราชสีมาพร้อมกับเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทุกท่าน กราบไหว้บูชาสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และรูปหล่อพระเกจิอาจารย์ชื่อดังทั้ง 9 วัด ของจังหวัดนครราชสีมา และทำบุญเสริมบารมี 

สร้างพลังแห่งชีวิต ด้วยการเติมน้ำมันตะเกียง ทำบุญถวายสังฆทาน ทำบุญถวายเทียนจารึก ทำบุญหล่อเทียนพระพุทธรูปประจำวันเกิดเพื่อนำไปเป็นพุทธบูชา รวมไปถึงการทำบุญสร้างพลังแห่งศรัทธากับการทำบุญตักบาตรหลอดไฟ 

1 เดียวในโลก และร่วมนั่งสมาธิวิปัสสนา เพื่อจิตใจอันผ่องแผ้วพร้อมการเสวนาธรรมจากพระวิทยากร รวมถึงพิธีเวียนเทียนรอบพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต

เทศการตรุษจีนโคราช จัดขึ้นในช่วงปลายเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ณ บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี และศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา กิจกรรมภายในงาน มีการแสดงมหรสพ การแสดงมังกร สิงโตเอ็งกอ รถลากขบวนแห่นิทรรศการวัฒนธรรมไทย-จีนของชมรมชาวจีนในจังหวัดนครราชสีมา มีการแจกอั่งเปา การออกร้านจำหน่ายสินค้าและอาหารขึ้นชื่อ ภายใต้กิจกรรมสุดยิ่งใหญ่อลังการ “เจาะเวลาหาจิ๋นซี” เพื่อรำลึกถึงความพยายามที่ยิ่งใหญ่ของจักรพรรดิ์ สร้างผลงานให้ปรากฏมายังลูกหลานชาวจีนได้ภาคภูมิใจจนมาถึงยุคปัจจุบัน แบ่งพื้นที่ออกเป็น 6 โซน ประกอบไปด้วย โซนลิ๊ตเติ๊ง ไช่น่าทาวน์กับบรรยากาศการค้าขาย ลานอนุสาวรีย์เป็นพื้นที่สำหรับประกอบพิธีการไหว้เทพเจ้า สวนท้าวสุรนารีโชว์ประติมากรรมมังกรเต็งลั้งสีแดงขนาดใหญ่ ลานแสดงหลักเวทีสร้างฉากเป็น “พระราชวังต้องห้าม” มีองค์ประกอบเป็นทหารหุ่นดินเผา สวนอนุสรณ์สถานฯมีประติมากรรมหุ่นโคมไฟ มังกร หงส์ แปดเซียน และประติมากรรมมังกรเต็งลั้งหลากสี มีร้านค้าอาหารอร่อยมากมายไว้บริการและการแสดงอุปรากรจีน ที่มีความอลังการของเครื่องแต่งกายและฉากในการแสดงที่ยิ่งใหญ่ หาดูได้ยากในยุคสมัยปัจจุบัน อีกทั้งการแสดงที่น่าสนใจ อาทิ ชมขบวน มังกร สิงโต และเอ็งกอพะบู๊ การแสดงมังกรไฟ และมินิไลท์แอนด์ซาวด์ พิธีต้อนรับเทพเจ้าแห่งโชดลาภไฉ่ซิงเอี้ย จังหวัดพะเยาจัดกิจกรรมเวียนเทียนกลางน้ำ หนึ่งเดียวในโลกที่กว๊านพะเยา 1ปี มีเพียง3ครั้ง เฉพาะวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาคือ วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา และ วันอาสาฬหบูชา สำหรับกิจกรรมนั้นจะลงเรือไปกราบ สักการะหลวงพ่อศิลาพระพุทธรูปเก่าแก่อายุกว่า 500ปี ประดิษฐานอยู่ ณ วัดติโลกอารามกลางกว๊านพะเยา พร้อมนั่งเรือเวียนเทียน 3 รอบ


งานผ้าไหมปักธงชัยและของดีเมืองโคราช จัดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคมของทุกปี ณ ลานอเนกประสงค์ หน้าที่ว่าการอำเภอปักธงชัย ภายในงานมีการออกร้านจำหน่ายผ้าไหมในราคาผู้ผลิต การออกร้านผลิตภัณฑ์กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรที่หลากหลาย ประกวดธิดาผ้าไหม แฟชั่นโชว์ การจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองราคาถูก ชมนิทรรศการทางวิชาการ การสาธิตขั้นตอนการผลิตผ้าไหม ประชาชนและนักท่องเที่ยว ยังคงให้ความสนใจ เที่ยวชมงานผ้าไหมปักธงชัยและของดีเมืองโคราช ครั้งที่ 12 ที่อำเภอปักธงชัย โดยผลิตภัณฑ์ไหมที่ได้รับความสนใจจากประชาชนในขณะนี้ก็คือ ผ้าพันคอ เนื่องจากสภาพอากาศในจังหวัดนครราชสีมาเย็นลง บรรยากาศงานผ้าไหมปักธงชัยและของดีเมืองโคราช ครั้งที่ 12 ที่อำเภอปักธงชัยยังคงเป็นไปด้วยความคึกคัก ประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างมาชมและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากผ้าไหม และของดีเมืองโคราชตลอดทั้งวัน สำหรับปีนี้ผู้ประกอบการไหมหลายราย ได้ประยุกต์ผลิตภัณฑ์ไหมมาดัดแปลงเป็นสินค้ารูปแบบอื่น ๆ มากขึ้น อาทิ กิ๊บติดผม ที่คาดผม ผ้าเช็ดหน้า กระเป๋าโทรศัพท์มือถือ และเนคไท ขณะที่สินค้าประเภทชุดผ้าไหมสำเร็จรูป ก็ได้มีการออกแบบให้มีความทันสมัย และสามารถสวมใส่ได้หลายโอกาส ทั้งนี้จากการสังเกตพบว่า ประชาชนที่มาเลือกซื้อสินค้าภายในงานส่วนใหญ่มักจะเลือกซื้อสินค้าประเภทผ้า พันคอ และผ้าคลุมไหล่ เนื่องจากเพื่อเตรียมพร้อมรับอากาศหนาวที่มากำลังมาเยือนจังหวัดนครราชสีมา อยู่ในขณะนี้ ซึ่งราคาก็มีตั้งแต่ราคาผืนละ 50 บาท ไปจนถึงผืนละ 200 บาท สำหรับงานผ้าไหมปักธงชัยและของดีเมืองโคราช ครั้งที่ 12 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-15 ธันวาคม 2554 ซึ่งแต่ละวันจะมีการแสดงต่างๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ การประกวดผ้าไหมไทย , การประกวดธิดาผ้าไหมไทย,การออกร้านของผู้ประกอบการไหม,การจำหน่ายสินค้าโอท็อป และการแสดงของศิลปินชื่อดัง โดยงานจัดขึ้นบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอปักธงชัย


วันฉลองแห่งชัยชนะท้าวสุรนารี งานฉลองวันแห่งชัยชนะท้าวสุรนารี หรือ “งานย่าโม” เป็นงานประจำปีของจังหวัดนครราชสีมา กำหนดจัดระหว่างวันที่ 23 มีนาคม- 3 เมษายนของทุกปี ซึ่งถือเป็นวันที่คุณหญิงโมได้รับชัยชนะจากข้าศึก ในงานมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมและมีกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อเป็นการสักการะ การเคารพซึ่งวีรกรรมของคุณหญิงโม ทั้งนี้รูปแบบการจัดงานที่น่าสนใจมีมากมาย อาทิ ขบวนสักการะ และขบวนรำบวงสรวงคุณย่าโม การวิ่งคบไฟและจุดพลุ ในวันเปิดงาน การแสดงศิลปวัฒนธรรมของดีเมืองโคราช ย้อนยุคการจัดนิทรรศการ การออกร้านของส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ สถานศึกษา และองค์กรเอกชนการแสดงและจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน อาหารพื้นเมือง การแสดงดนตรี คอนเสิร์ต ลูกทุ่งสตริง 12 วัน 12 คืน การแข่งขันกีฬาฟุตบอล บาสเกตบอล เซปักตระกร้อ ฯลฯ การประกวดนางสาวนครราชสีมา ประกวดร้องเพลง ประกวดสุขภาพเด็ก ประกวดวาดภาพโดยเด็กและเยาวชน ประกวดผลผลิตทางการเกษตร ชมการฉายภาพยนตร์บนกำแพง ชมฟรีตลอด 12 วัน 12 คืน จังหวัดนครราชสีมาเป็นประตูสู่ภาคอีสานที่มีอาณาเขตใหญ่ที่สุดในประเทศไทย หลากกิจกรรมทางการท่องเที่ยวสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีความพร้อมในทุกๆด้าน เส้นทางการท่องเที่ยวที่สามารถเชื่อมโยงไปสู่พื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศอย่างง่ายดาย ดินแดนแห่งที่สุดของอารยธรรมโบราณ ที่สุดแห่งความเป็นธรรมชาติมรดกโลก ที่สุดแห่งความเป็นวัฒนธรรมอนุรักษ์และที่สุดของดินแดนแห่งการเรียนรู้ งานประเพณีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดงานหนึ่งของจังหวัดนครราชสีมา งานฉลองวันแห่งชัยชนะของท้าวสุรนารี ทุกภาคส่วนจะเนรมิตความเป็นจังหวัดนครราชสีมานำไปสู่ทุกสายตาภายในงาน ความสวยงามอันเป็นสีสันอันจะสร้างมิติแห่งการรับรู้ได้อย่างชัดเจน “เชิดชูวีรสตรีผู้กล้า เมืองอารยธรรมยุคหิน ถิ่นวัฒนธรรมขอม ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมพื้นถิ่น ศิลปินพื้นบ้าน สืบสานการพัฒนา สู่ความยั่งยืน” สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจังหวัดนครราชสีมา หรือ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา หรือ เทศบาลนครนครราชสีมา ท้าวสุรนารี หรือ ย่าโม (พ.ศ. 2314-พ.ศ. 2395) บุคคลในประวัติศาสตร์ไทย ในฐานะวีรสตรีผู้กอบกู้เมืองนครราชสีมา จากกองทัพของเจ้าอนุวงศ์ แห่งเวียงจันทน์ เมื่อปี พ.ศ. 2369 ประวัติท้าวสุรนารี ท้าวสุรนารี มีนามเดิมว่า “โม” (แปลว่า ใหญ่) หรือ “โม้” (ภาษาไทยสำเนียงโคราช) เป็นชาวเมืองนครราชสีมาโดยกำเนิด เกิดเมื่อปีเถาะ พ.ศ. 2314 ในแผ่นดิน พระเจ้าตากสินมหาราช สมัยกรุงธนบุรี มีนิวาสถานอยู่ ณ บ้านตรงกับข้ามกับวัดพระนารายณ์มหาราช (วัดกลางนคร) ทางทิศใต้ของเมืองนครราชสีมา นางสาวโม เป็นธิดาของ นายกิ่ม และ นางบุญมา (ในสมัยนั้นยังไม่มีนามสกุล) มีพี่สาวหนึ่งคนชื่อ แป้น ไม่มีสามี จึงอยู่ด้วยกันจนวายชนม์ มีน้องชายหนึ่งคน ไม่ปรากฏชื่อ (ภายหลัง ได้เป็น เจ้าเมืองพนมซร๊อก ต่อมามีการอพยพชาวเมืองพนมซร๊อก มาอยู่ ริมคูเมืองนครราชสีมาด้านใต้ จึงเอาชื่อเมือง พนมซร๊อก มาตั้งชื่อ บ้านพนมศรก ต่อมาเรียกเพี้ยนเป็น บ้านสก อยู่หลังสถานีรถไฟชุมทางถนนจิระ จนทุกวันนี้) เมื่อปี พ.ศ. 2339 นางสาวโม เมื่ออายุได้ 25 ปี ได้แต่งงานสมรสกับนายทองคำ พนักงานกรมการเมืองนครราชสีมา ต่อมานายทองคำ ได้เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็น “พระภักดีสุริยเดช” ตำแหน่งรองปลัดเมืองนครราชสีมา นางโม จึงได้เป็น คุณนายโม และต่อมา “พระภักดีสุริยเดช” ได้เลื่อนเป็น “พระยาสุริยเดช” ตำแหน่งปลัดเมืองนครราชสีมา คุณนายโมจึงได้เป็น คุณหญิงโม ชาวเมืองนครราชสีมาเรียกท่านทั้งสองเป็นสามัญว่า “คุณหญิงโม” และ “พระยาปลัดทองคำ” ท่านเป็นหมันไม่มีทายาทสืบสายโลหิต ชาวเมืองนครราชสีมาทั้งหลายจึงพากันเรียกแทนตัวคุณหญิงโมว่า แม่ มีผู้มาฝากตัวเป็นลูก-หลานกับคุณหญิงโมอยู่มาก ซึ่งเป็นกำลัง และอำนาจส่งเสริมคุณหญิงโมให้ทำการ ใดๆ ได้สำเร็จเสมอ หนึ่งในลูกหลานคนสำคัญ ที่มีส่วนร่วมกับคุณหญิงโม เข้ากอบกู้เมืองนครราชสีมาจากกองทัพเจ้าอนุวงศ์ เวียงจันทน์ ณ ทุ่งสัมฤทธิ์ คือ นางสาวบุญเหลือ ท้าวสุรนารี เป็นคนมีสติปัญญาหลักแหลม เล่นหมากรุกเก่ง มีความชำนาญในการขี่ช้าง ขี่ม้า มีม้าตัวโปรดสีดำ และมักจะพาลูกหลาน ไปทำบุญที่วัดสระแก้วเป็นประจำเสมอ ท้าวสุรนารี ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อเดือน เมษายน พ.ศ. 2395 ( เดือน 5 ปีชวด จัตวาศก จศ. 1214 ) สิริรวมอายุได้ 81 ปี วีรกรรมของท้าวสุรนารี และบำเหน็จความชอบ วีรกรรมของคุณหญิงโมนั้นเป็นที่คนไทยรุ่นหลังทราบดีว่า เมื่อพุทธศักราช 2369 เจ้าอนุวงศ์แห่งเวียงจันทน์ เป็นกบฏต่อกรุงเทพมหานคร ยกกองทัพเข้ามายึดเมืองนครราชสีมาได้ แล้วกวาดต้อนครอบครัวชาวนครราชสีมาไป เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อ คุณหญิงโม และนางสาวบุญเหลือ ได้รวบรวมครอบครัวชาย หญิงชาวนครราชสีมาที่ถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลย เข้าต่อสู้ฆ่าฟันทหารลาวล้มตายเป็นอันมาก ณ ทุ่งสัมฤทธิ์ แขวงเมืองนครราชสีมา เมื่อวันที่ 4 มีนาคม

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาไทย โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv Terjemahan แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip lmyour แปลภาษา ไทยแปลอังกฤษ ประโยค แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษาอาหรับ-ไทย Bahasa Thailand app แปลภาษาไทยเป็นเวียดนาม พจนานุกรมศัพท์ทหาร ยศทหารบก ภาษาอังกฤษ สหกรณ์ออมทรัพย์กรมส่งเสริมการปกครอง ส่วนท้องถิ่น แปลภาษาเวียดนามเป็นไทยทั้งประโยค กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมีทั้งหมดกี่ภาค มัจจุราชไร้เงา 1 mono29 มัจจุราชไร้เงา 1 pantip มัจจุราชไร้เงา 3 pantip รายชื่อวิทยานิพนธ์ นิติศาสตร์ 2563 ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง แปลภาษาอิสลามเป็นไทย ่้แปลภาษา Google Drive กรมการปกครอง กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย คะแนน o-net โรงเรียน ที่อยู่สมุทรปราการ ภาษาอังกฤษ ประปาไม่ไหล วันนี้ มหาวิทยาลัยรามคําแหง เปิดรับสมัคร 2566 มัจจุราชไร้เงา 2 facebook ราคาปาเจโร่มือสอง สถาบันพัฒนาบุคลากรท้องถิ่น หนังสือราชการ ส ถ หยน ห่อหมกฮวกไปฝากป้า คาราโอเกะ อาจารย์ ตจต Google Form Info arifureta shokugyou de sekai saikyou manga online legendary moonlight sculptor www.niets.or.th ประกาศผลสอบ การบริหารทรัพยากรมนุษย์ มีอะไรบ้าง ข้อสอบภาษาอังกฤษ พร้อมเฉลย pdf