หนังสือ วิทยาศาสตร์ ม.1 ส สว่ ท

คู่มือครูสสวท. 2560

1. คู่มือครูประกอบหนังสือเรียนสสวท. วิทยาศาสตร์

  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานวิทยาศาสตร์ป.1 ล.1
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานวิทยาศาสตร์ป.1 ล.2
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานวิทยาศาสตร์ป.2 ล.1 
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานวิทยาศาสตร์ป.2 ล.2 
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานวิทยาศาสตร์ป.3 ล.1 
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานวิทยาศาสตร์ป.3 ล.2 
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานวิทยาศาสตร์ป.4 ล.1
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานวิทยาศาสตร์ป.4 ล.2
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานวิทยาศาสตร์ป.5 ล.1
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานวิทยาศาสตร์ป.5 ล.2
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานวิทยาศาสตร์ป.6 ล.1
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานวิทยาศาสตร์ป.6 ล.2
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานวิทยาศาสตร์ม.1 ล.1 
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานวิทยาศาสตร์ม.1 ล.2 
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานวิทยาศาสตร์ม.2 ล.1 
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานวิทยาศาสตร์ม.2 ล.2 
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานวิทยาศาสตร์ม.3 ล.1 
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานวิทยาศาสตร์ม.3 ล.2 

2. คู่มือครูประกอบหนังสือเรียนสสวท. ฟิสิกส์

  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท เพิ่มเติมฟิสิกส์1 
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท เพิ่มเติมฟิสิกส์2 
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท เพิ่มเติมฟิสิกส์3 
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท เพิ่มเติมฟิสิกส์4 
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท เพิ่มเติมฟิสิกส์5 
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท เพิ่มเติมฟิสิกส์5 
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท เพิ่มเติมฟิสิกส์ุ6

3. คู่มือครูประกอบหนังสือเรียนสสวท. เคมี

  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท เพิ่มเติมเคมี1
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท เพิ่มเติมเคมี2
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท เพิ่มเติมเคมี3
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท เพิ่มเติมเคมี4
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท เพิ่มเติมเคมี5
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท เพิ่มเติมเคมี6

4. คู่มือครูประกอบหนังสือเรียนสสวท. ชีววิทยา

  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท เพิ่มเติมชีววิทยา1
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท เพิ่มเติมชีววิทยา2
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท เพิ่มเติมชีววิทยา3
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท เพิ่มเติมชีววิทยา4
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท เพิ่มเติมชีววิทยา5
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท เพิ่มเติมชีววิทยา6

5. คู่มือครูประกอบหนังสือเรียนสสวท. โลก ดาราศาสตร์

  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท เพิ่มเติมโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ1 
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท เพิ่มเติมโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ2 
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท เพิ่มเติมโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ3 
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท เพิ่มเติมโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ4 
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท เพิ่มเติมโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ5 
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท เพิ่มเติมโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ6 
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐาน ม.6 โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ

6. คู่มือครูประกอบหนังสือเรียนสสวท. วิทยาศาสตร์ ม.ปลาย

  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท วิทยาศาสตร์ชีวภาพ 1 
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท วิทยาศาสตร์กายภาพ 1 
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท วิทยาศาสตร์กายภาพ 2 

7. คู่มือครูประกอบหนังสือเรียนสสวท. คณิตศาสตร์

  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานคณิตศาสตร์ป.1 ล.1
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานคณิตศาสตร์ป.1 ล.2
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานคณิตศาสตร์ป.2 ล.1
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานคณิตศาสตร์ป.2 ล.2
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานคณิตศาสตร์ป.3 ล.1
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานคณิตศาสตร์ป.3 ล.2
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานคณิตศาสตร์ป.4 ล.1
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานคณิตศาสตร์ป.4 ล.2
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานคณิตศาสตร์ป.5 ล.1
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานคณิตศาสตร์ป.5 ล.2
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานคณิตศาสตร์ป.6 ล.1
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานคณิตศาสตร์ป.6 ล.2
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานคณิตศาสตร์ม.1 ล.1
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานคณิตศาสตร์ม.1 ล.2
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานคณิตศาสตร์ม.2 ล.1
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานคณิตศาสตร์ม.2 ล.2
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานคณิตศาสตร์ม.3 ล.1
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานคณิตศาสตร์ม.3 ล.2
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานคณิตศาสตร์ม.4
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานคณิตศาสตร์ม.5
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานคณิตศาสตร์ม.6
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท เพิ่มเติมคณิตศาสตร์ม.4 ล.1
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท เพิ่มเติมคณิตศาสตร์ม.4 ล.2
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท เพิ่มเติมคณิตศาสตร์ม.5 ล.1
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท เพิ่มเติมคณิตศาสตร์ม.5 ล.2
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท เพิ่มเติมคณิตศาสตร์ม.6 ล.1
  • (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท เพิ่มเติมคณิตศาสตร์ม.6 ล.2

หน่วยที่ 4 | การดำรงชีวติ ของพืช 315 คู่มอื ครรู ายวชิ าพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ เฉลยคำ�ถามท้ายกิจกรรม 1. จากงานวิจัย ข้าวโพดขาดธาตุอาหารชนดิ ใดและสง่ ผลใหข้ ้าวโพดมลี ักษณะอาการเปน็ อยา่ งไร แนวคำ� ตอบ จากงานวิจัย ข้าวโพดขาดธาตุไนโตรเจน ท�ำให้ใบเริ่มเหลืองจากปลายใบแล้วลามเข้าไปใน แผน่ ใบคล้ายตัววี จากนน้ั ใบกลายเปน็ สีนำ้� ตาลและเห่ียวแห้ง สง่ ผลให้ผลผลติ ข้าวโพดลดลง 2. ข้าวโพดที่ปลกู สลบั กับถัว่ เหลอื งใหป้ ริมาณผลผลติ เป็นอย่างไร เพราะเหตุใดจึงเป็นเชน่ น้ัน แนวคำ� ตอบ ข้าวโพดที่ปลูกสลับกับถ่ัวเหลืองให้ปริมาณผลผลิตเพ่ิมข้ึน เพราะดิมีปริมาณของธาตุไนโตรเจน เพิ่มข้ึนจากปมรากของถ่ัวเหลือง ท�ำให้ข้าวโพดที่ปลูกในปีหลัง ๆ ไม่มีอาการขาดธาตุไนโตรเจน ผลผลิตจงึ เพมิ่ ขนึ้ 3. พชื ตอ้ งการธาตุอาหารชนิดใดในปรมิ าณมาก และถ้าขาดธาตุอาหารเหลา่ น้ันจะมผี ลอยา่ งไรตอ่ พชื แนวคำ� ตอบ ธาตอุ าหารทพ่ี ชื ตอ้ งการในปรมิ าณมาก ไดแ้ ก่ ไนโตรเจน ฟอสฟอรสั โพแทสเซยี ม ซงึ่ ถา้ ขาดไนโตรเจน ใบแก่ของพืชจะเหลือง ล�ำต้นแคระ ผลผลิตต�่ำ ถ้าขาดฟอสฟอรัส ใบจะเป็นสีม่วง ออกดอกช้า ต้นแคระ และถ้าขาดโพแทสเซยี ม ใบจะเหลือง ตน้ ออ่ นแอ ผลไมเ่ จรญิ เตบิ โต 4. ถ้าพืชขาดธาตุโพแทสเซียมจะมแี นวทางในการแก้ไขอยา่ งไร แนวคำ� ตอบ ปรับปรุงดินให้มีโพแทสเซียมในรูปท่ีพืชน�ำไปใช้ได้และมีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการ โดยการใส่ป๋ยุ ที่มโี พแทสเซยี มสูง 5. จากกิจกรรมสรุปไดว้ า่ อย่างไร แนวคำ� ตอบ ในดินมีธาตุอาหารที่พืชใช้ในการเจริญเติบโต และด�ำรงชีวิต ธาตุอาหารท่ีจ�ำเป็นต่อพืชมี 17 ชนิด ถ้าพืชขาดธาตุอาหาร พืชจะแสดงอาการผิดปกติการหาสาเหตุเพื่อแก้ปัญหาการขาด ธาตุอาหารของพืช ต้องสังเกตลักษณะอาการ ร่วมกับการวิเคราะห์ดิน เพื่อหาชนิดและปริมาณ ของธาตุอาหารท่ีขาดไปในดินหรือมีธาตุอาหารแต่อยู่ในรูปที่พืชน�ำมาใช้ไม่ได้เพ่ือประเมินระดับ ความขาดแคลนธาตุอาหารถ้าพบว่าดินขาดธาตุอาหารต้องท�ำการเพิ่มธาตุอาหารของพืชในดิน โดยการใสป่ ยุ๋ ทเี่ หมาะสมกบั ความต้องการของพชื สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

316 หนว่ ยท่ี 4 | การด�ำ รงชีวติ ของพืช คู่มือครูรายวชิ าพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ เรอื่ งท่ี 2 การลำ� เลียงในพชื แนวการจัดการเรียนรู้ ครดู �ำเนินการดงั นี้ 1. ให้นักเรียนสังเกตภาพน�ำเร่ือง อ่านเนื้อหา นำ� เรอ่ื ง และร้จู ักคำ� สำ� คัญ ทำ� กจิ กรรมทบทวน ความรกู้ อ่ นเรยี น แลว้ นำ� เสนอผลการทำ� กจิ กรรม ถา้ ครพู บวา่ นกั เรยี นยงั ทำ� กจิ กรรมทบทวนความรู้ ก่อนเรียนไม่ถูกต้อง ครูควรทบทวนหรือแก้ไข ความเข้าใจผิดของนักเรียน เพ่ือให้นักเรียน มีความรู้พื้นฐานท่ีถูกต้อง และเพียงพอท่ีจะ เรียนเร่อื งการลำ� เลียงในพชื ตอ่ ไป ความร้เู พิม่ เตมิ สำ�หรับครูเกยี่ วกบั ภาพนำ�บท ภาพน�ำเร่ือง คือ ภาพรากสะสมอาหารและล�ำต้นมัน ส�ำปะหลงั สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

หน่วยท่ี 4 | การดำรงชีวิตของพืช 317 คู่มือครูรายวชิ าพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ เฉลยทบทวนความรกู้ ่อนเรยี น • เขียนเคร่อื งหมาย  หน้าขอ้ ความท่กี ล่าวถกู ต้อง  สารจะแพรจ่ ากบริเวณทม่ี คี วามเข้มขน้ ของสารมากไปยังบรเิ วณท่มี ีความเขม้ ขน้ ของสารนอ้ ยกวา่  การแพรเ่ ขา้ และออกจากเซลลข์ องสารเปน็ การแพร่ผา่ นเยอ่ื เลือกผา่ น  ออสโมซิสเป็นการเคล่ือนที่ของน�้ำจากบริเวณท่ีมีความเข้มข้นของสารละลายมากไปยังบริเวณท่ีมี ความเข้มข้นของสารละลายนอ้ ย • จากภาพ เขียน  ล้อมรอบสว่ นท่ีสามารถสังเคราะห์ดว้ ยแสงได้ของพชื สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

318 หน่วยที่ 4 | การด�ำ รงชีวติ ของพชื คมู่ ือครูรายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ 2. ตรวจสอบความรู้เดิมเกี่ยวกับการล�ำเลียงในพืช โดยให้นักเรียนท�ำกิจกรรม รู้อะไรบ้างก่อนเรียน นักเรียนสามารถ เขียนตามความเข้าใจของนักเรียน ครูยังไม่เฉลยค�ำตอบ และน�ำข้อมูลจากการตรวจสอบความรู้เดิมของนักเรียน ไปใช้ในการวางแผนการจัดการเรียนรู้ว่า ควรเน้นย้�ำ หรืออธิบายเร่ืองใดเป็นพิเศษ เมื่อนักเรียนเรียนจบเรื่องน้ีแล้ว นกั เรียนจะมีความรูค้ วามเขา้ ใจครบถว้ นตามจุดประสงค์ของบทเรยี น ตวั อยา่ งแนวคดิ คลาดเคลอื่ นซ่งึ อาจพบในเรอื่ งน้ี • พืชดดู อาหารขึน้ มาจากดนิ แล้วล�ำเลียงไปทั่วทุกส่วนของพชื • พชื สะสมอาหารไวเ้ ฉพาะสว่ นบนของล�ำตน้ • ธาตุอาหารจากดินเข้าสูร่ ากพืชโดยกระบวนการออสโมซิส • ไซเล็มมีหนา้ ทล่ี �ำเลียงน้�ำเพียงอย่างเดียว 3. ครทู บทวนความร้เู กยี่ วกบั ส่ิงที่จำ� เปน็ ในการเจริญเตบิ โตและการดำ� รงชีวิตของพืช โดยอาจใชค้ ำ� ถามต่อไปนี้ • พืชได้รับนำ�้ ธาตอุ าหารจากแหลง่ ใด • พืชสร้างอาหารที่ส่วนใด 4. รว่ มกนั อภปิ รายเพอ่ื ใหไ้ ดข้ อ้ สรปุ วา่ พชื ไดร้ บั นำ้� และธาตอุ าหารจากดนิ พชื สามารถสรา้ งอาหารไดเ้ องโดยกระบวนการ สังเคราะห์ด้วยแสงซง่ึ เกดิ ขนึ้ ท่ี โครงสร้างท่ีมีคลอโรฟลิ ลข์ องพืช ส่วนพชื จะลำ� เลียงสารเหล่านไี้ ปยังสว่ นต่าง ๆ ของ พชื ไดอ้ ย่างไร จะไดท้ ราบจากการท�ำกจิ กรรมที่ 4.7 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

หน่วยที่ 4 | การดำรงชวี ติ ของพืช 319 คู่มือครรู ายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ กจิ กรรมท่ี 4.7 พืชล�ำเลยี งนำ้� และธาตุอาหารอยา่ งไร แนวทางการจัดการเรยี นรูก้ ิจกรรม ก่อนการท�ำกจิ กรรม ครูควรอภิปรายในหัวขอ้ ตอ่ ไปนี้ 1. ให้นกั เรียนอา่ นวิธีการดำ� เนินกิจกรรม ในหนงั สอื เรียน และร่วมกนั อภปิ รายในประเด็นต่อไปนี้ • กิจกรรมนเ้ี กีย่ วกับเร่ืองอะไร (การล�ำเลียงนำ�้ และธาตอุ าหารในพชื ) • กิจกรรมนมี้ จี ุดประสงค์อะไร (นกั เรียนตอบตามความคิดของตนเอง) • วธิ กี ารดำ� เนนิ กจิ กรรมโดยสรปุ เปน็ อยา่ งไร (สงั เกตลกั ษณะภายนอกของตน้ เทยี นทย่ี งั มรี าก นำ� ตน้ เทยี นไปแชน่ ำ้� สี สงั เกตและเขยี นแผนภาพทศิ ทางการลำ� เลยี งนำ�้ สใี นรากและลำ� ตน้ เทยี น ตดั รากและลำ� ตน้ เทยี นทผ่ี า่ นการแชน่ ำ�้ สี ตามยาวและตามขวางหนาประมาณ 0.5 เซนตเิ มตร สงั เกตการตดิ สขี องเนอ้ื เยอ่ื ตดั รากและลำ� ตน้ เทยี นทผ่ี า่ นการ แช่น้ำ� สตี ามยาวและตามขวางบาง ๆ แชเ่ น้อื เยือ่ ในสารละลายซาฟรานนิ ท�ำสไลด์สดเน้ือเยอื่ และสงั เกตเนอื้ เยอ่ื ภายใตก้ ล้องจุลทรรศน์ รวบรวมขอ้ มลู เกี่ยวกับการลำ� เลยี งน้�ำและธาตอุ าหารของพชื ) ครคู วรอธิบายเพิม่ เติมในประเด็นท่ีนกั เรยี นยงั ตอบไดไ้ มค่ รบถว้ น 2. สาธิตการตดั เนอ้ื เย่ือรากและลำ� ต้นตามยาวและตามขวางแบบบาง เพ่ือให้นกั เรยี นทำ� ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งและปลอดภยั ระหวา่ งการทำ� กิจกรรม 3. ให้นกั เรียนทำ� กิจกรรมตามขน้ั ตอน โดยครสู ังเกตการตดั เนื้อเย่ือพชื การเตรยี มสไลด์ การใช้กล้องจุลทรรศน์ การสบื คน้ ขอ้ มลู การสงั เกตและการบนั ทกึ ผลการสงั เกตของนกั เรยี นทกุ กลมุ่ เพอ่ื ใหข้ อ้ แนะนำ� ถา้ เกดิ ขอ้ ผดิ พลาดขณะท�ำกจิ กรรม รวมท้ังน�ำข้อมลู ทคี่ วรจะปรบั ปรงุ และแก้ไขมาใช้ประกอบการอภิปรายหลังการทำ� กิจกรรม หลังการทำ� กิจกรรม 4. ใหน้ กั เรยี นนำ� ขอ้ มลู เกย่ี วกบั ลกั ษณะเนอื้ เยอื่ และทศิ ทางการเคลอ่ื นทข่ี องนำ�้ และธาตอุ าหารในพชื มานำ� เสนอในรปู แบบ ต่าง ๆ เชน่ นำ� เสนอโดยใช้โปรแกรมหรือแอปพลิเคชั่นที่ทนั สมยั 5. ร่วมกันอภิปรายเปรียบเทียบข้อมูลที่ได้จากการท�ำกิจกรรม และอภิปรายถึงสาเหตุที่ผลการท�ำกิจกรรมคลาดเคลื่อน เช่น ไม่เห็นการเคล่ือนท่ีของน้�ำสี อาจเนื่องจากต้นเทียนยังสดเกินไปจึงดูดน้�ำสีได้น้อย หรือดูดได้ช้า หรือไม่สามารถ ตัดเน้อื เยอ่ื บริเวณปลายรากไดเ้ น่ืองจากรากเกิดความเสยี หาย หรอื ไมเ่ ห็นการตดิ สีในเนอ้ื เยอื่ เนอ่ื งจากไม่ได้แชเ่ นื้อเยอื่ ในสารละลายซาฟรานิน สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

320 หน่วยท่ี 4 | การดำ�รงชีวิตของพืช คู่มอื ครูรายวชิ าพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ 6. ใหน้ กั เรยี นตอบคำ� ถามทา้ ยกจิ กรรม และรว่ มกนั อภปิ รายคำ� ตอบเพอื่ ใหน้ กั เรยี นสรปุ ไดว้ า่ น้�ำสเี คลอื่ นทเ่ี ขา้ สรู่ ากตน้ เทยี น และเคลอ่ื นตอ่ เนอื่ งขนึ้ ไปยงั สว่ นตา่ ง ๆ ของตน้ เนอื่ งจากรากและลำ� ตน้ มกี ลมุ่ เซลลห์ รอื เนอื้ เยอื่ ทเ่ี รยี งตอ่ กนั เปน็ ทอ่ ซงึ่ เป็นช่องทางส�ำหรบั การล�ำเลียงนำ�้ สีไปสสู่ ่วนตา่ ง ๆ ของต้นเทียน 7. ให้นักเรียนอ่านเน้ือหาในหนังสือและร่วมกันอภิปรายเก่ียวกับการล�ำเลียงสารในพืช เพื่อให้ได้ข้อสรุปว่าน้�ำเข้าสู่ รากพืชโดยการออสโมซิส ส่วนธาตุอาหารเข้าสู่รากพืชโดยการแพร่หรือการล�ำเลียงแบบต้องใช้พลังงาน พืชมีไซเล็ม ท�ำหน้าทีล่ ำ� เลยี งน้ำ� และธาตอุ าหารจากรากขน้ึ ไปสทู่ กุ สว่ นของพชื และมโี ฟลเอ็มท�ำหนา้ ทลี่ �ำเลยี งอาหารท่พี ืชสรา้ งขน้ึ ทีบ่ รเิ วณท่ีมีสเี ขียวไปสทู่ ุกสว่ นของพชื 8. ให้นักเรียนตอบค�ำถามระหว่างเรียนในหนังสือเรียน เพื่อประเมินความเข้าใจเก่ียวกับการล�ำเลียงในพืช และร่วมกัน อภิปรายค�ำตอบดงั ตวั อยา่ ง เฉลยคำ�ถามระหวา่ งเรยี น • ถา้ พชื ไม่มขี นรากจะมีผลตอ่ การดดู นำ�้ และธาตอุ าหารของพชื หรอื ไม่ อย่างไร แนวคำ� ตอบ ถ้าไม่มีขนราก พืชอาจจะดูดน�้ำและธาตุอาหารจากดินได้น้อยลง เพราะการมีขนรากจะเป็น การเพิม่ พน้ื ท่ีของรากให้สมั ผัสกบั นำ�้ ในดินให้มากขนึ้ ทำ� ให้มีโอกาสดดู น�้ำไดม้ าก • จากกจิ กรรม 4.7 นกั เรียนสังเกตพบไซเล็มของต้นเทยี นหรอื ไม่ ลกั ษณะเปน็ อย่างไร แนวคำ� ตอบ พบลักษณะของไซเล็มจะเป็นกลุม่ เซลล์ท่ีเรียงตอ่ กนั เปน็ ท่อจากรากไปส่ลู �ำตน้ • จากกิจกรรม 4.7 นักเรียนสังเกตพบโฟลเอ็มของต้นเทยี นหรือไม่ ลักษณะเปน็ อย่างไร แนวคำ� ตอบ พบลักษณะของโฟลเอ็มจะเป็นกลุ่มเซลล์อยดู่ า้ นนอกถัดออกมาจากไซเลม็ และเรียงตอ่ กันเป็นทอ่ ทัว่ ต้นพืช • ในการลำ� เลียงอาหารของพืช มกี ารล�ำเลยี งจากส่วนใดไปสว่ นใด แนวคำ� ตอบ การล�ำเลียงอาหารของพืชมีทิศทางในการล�ำเลียงจากส่วนที่สังเคราะห์ด้วยแสงได้ เช่น ใบ ไปสทู่ กุ ส่วนของพชื สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

หนว่ ยที่ 4 | การดำรงชีวติ ของพชื 321 คมู่ อื ครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ 9. ถา้ พบวา่ นกั เรยี นมแี นวความคดิ คลาดเคลอ่ื นเกยี่ วกบั เรอื่ งการลำ� เลยี งในพชื ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายเพอ่ื แกไ้ ขแนวคดิ คลาดเคลอ่ื นให้ถกู ตอ้ ง เชน่ แนวคิดคลาดเคลอื่ น แนวความคิดท่ีถกู ตอ้ ง พืชดูดอาหารขน้ึ มาจากดินแลว้ ลำ� เลียงไปทั่วทุกส่วน พืชสร้างอาหารข้ึนมาจากส่วนที่มีสีเขียวของพืช และ ของพชื ลำ� เลยี งอาหารทส่ี รา้ งขนึ้ ไปท่ัวทกุ สว่ นของพชื พชื สะสมอาหารไวเ้ ฉพาะสว่ นบนของลำ� ต้น พืชล�ำเลียงน้�ำตาลไปสะสมไว้ตามส่วนต่าง ๆ เช่น ราก ลำ� ต้น ใบ ผล เมลด็ ธาตอุ าหารจากดนิ เขา้ สรู่ ากพชื โดยกระบวนการออสโมซสิ ธาตุอาหารจากดินเข้าสู่รากพืชโดยการแพร่ และการ ลำ� เลยี งแบบใช้พลงั งาน ไซเล็มมีหน้าทล่ี �ำเลียงนำ�้ เพยี งอยา่ งเดียว ไซเล็มลำ� เลยี งนำ�้ และธาตอุ าหาร 10. อาจให้นักเรียนท�ำกิจกรรมเสริมนอกเวลาเรียน โดยให้ออกแบบสวนแนวต้ังในโรงเรียน โดยเลือกชนิดพืช วัสดุปลูก ภาชนะทใี่ ชป้ ลกู การดูแลรกั ษา และบอกประโยชนข์ องสวนแนวตงั้ ของตนเอง 11. สนทนากบั นกั เรยี นเกย่ี วกบั เรอื่ งในบทเรยี นการลำ� เลยี งนำ�้ ธาตอุ าหาร และอาหารของพชื จากนนั้ ใหน้ กั เรยี นทำ� กจิ กรรม ตรวจสอบตนเอง เพอ่ื สรปุ องคค์ วามรทู้ ไี่ ดเ้ รยี นรจู้ ากบทเรยี น โดยการเขยี นบรรยาย วาดภาพ หรอื เขยี นผงั มโนทศั นส์ ง่ิ ที่ ไดเ้ รยี นร้จู ากบทเรียนน้ี ใหน้ ักเรียนน�ำเสนอผลงาน โดยอาจออกแบบให้นกั เรียนนำ� เสนอและอภปิ รายภายในกลุม่ หรือ อภิปรายรว่ มกนั ในชั้นเรียน หรอื ตดิ แสดงผลงานบนผนังห้องเรยี น และให้นักเรียนรว่ มพจิ ารณาผลงาน จากนั้นครูและ นกั เรยี นอภปิ รายสรุปองคค์ วามรทู้ ไี่ ด้จากบทเรียนร่วมกัน สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

322 หน่วยท่ี 4 | การดำ�รงชวี ติ ของพืช ค่มู อื ครูรายวชิ าพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ตัวอยา่ งผังมโนทัศน์ การสรุปองคค์ วามรูใ้ นบทเรยี นการลำ�เลียงน้ำ� ธาตุอาหาร และอาหารของพืช การล�ำเลยี งในพืช มี 2 ชอ่ งทาง คอื ผา่ นไซเล็ม ผ่านโฟลเอม็ ลำ� เลยี ง ลำ� เลยี ง นำ้� ธาตุอาหาร นำ�้ ตาล (อาหาร) มที ิศทาง มที ิศทาง จากรากขน้ึ ไปส่ลู �ำตน้ ใบ และสว่ นอื่น ๆ จากใบไปส่สู ว่ นตา่ ง ๆ ของต้น 12. ใหน้ กั เรียนทำ� กิจกรรมทา้ ยบทและตอบคำ� ถามทา้ ยกจิ กรรม 13. ใหน้ ักเรียนตอบคำ� ถามสำ� คัญของบท และรว่ มกันอภิปรายคำ� ตอบเพ่ือประเมินความเข้าใจเกีย่ วกบั การล�ำเลียงน้�ำ ธาตุ อาหาร และอาหารของพืช ดังตัวอยา่ ง เฉลยคำ�ถามสำ�คญั ของบท • ธาตุอาหารมีความส�ำคญั ต่อพืชอยา่ งไร แนวค�ำตอบ ธาตุอาหารเป็นส่ิงท�ำให้พืชเจริญเติบโตได้เป็นปกติ บางธาตุเป็นองค์ประกอบของ สารและโครงสร้างตา่ ง ๆ ในเซลล์พืช บางธาตุมีสว่ นชว่ ยใหก้ ระบวนการตา่ ง ๆ ของพชื เชน่ ช่วย ในการสงั เคราะหด์ ว้ ยแสง การหายใจ การงอก รวมทง้ั ยงั ชว่ ยควบคมุ การเจรญิ เตบิ โตของสว่ นตา่ ง ๆ ของพืชด้วยเช่นกัน ซ่ึงถ้าพืชขาดธาตุอาหารพืชจะแสดงอาการผิดปกติ ท�ำให้ไม่สามารถด�ำรง ชีวิตอยู่ได้ หรือให้ผลผลติ ลดลง • พชื ลำ� เลียงน�ำ้ ธาตุอาหาร และอาหารไปยงั ส่วนต่าง ๆ ของพืชได้อย่างไร แนวค�ำตอบ พืชล�ำเลียงน�้ำ และธาตุอาหารผ่านทางไซเล็มของรากไปยังไซเล็มของล�ำต้นและไปสู่ไซเล็มของ ส่วนต่าง ๆ ท่ีอยู่ส่วนบนของพืช และพืชล�ำเลียงอาหารจากบริเวณที่มีการสร้างอาหาร เช่น ใบ ผา่ นทางโฟลเอม็ ไปยังทุกส่วนของพืช สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

หนว่ ยท่ี 4 | การดำรงชีวิตของพืช 323 คมู่ ือครูรายวชิ าพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ 14. ให้นักเรียนตรวจสอบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่ได้เรียนรู้จากบทเรียนนี้ ในกรอบตรวจสอบตนเอง ในหนังสือเรียน โดยร่วมกันอภิปรายว่านักเรียนได้ฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ทักษะใดบ้าง และฝึก ในข้ันตอนใด 15. ให้นกั เรยี นอา่ นสรุปท้ายบท ท�ำแบบฝกึ หัดท้ายบท และแบบฝกึ หัดท้ายหนว่ ย 16. แนะนำ� บทเรียนทีจ่ ะไดเ้ รียนรู้ในคร้ังต่อไปในหนังสอื เรียนวทิ ยาศาสตร์ ระดบั มัธยมศึกษาปที ่ี 1 เล่ม 2 ว่าหลงั จาก นักเรียนได้เรียนรู้เก่ียวกับธรรมชาติวิทยาศาสตร์ หน่วยที่เล็กที่สุดของสิ่งต่าง ๆ ทั้งส่ิงท่ีมีชีวิตและไม่มีชีวิต รวมถึงกระบวนการด�ำรงชีวิตของพืชแล้ว ต่อไปนักเรียนจะได้เรียนรู้เก่ียวกับความร้อนและการเปลี่ยนแปลง รวมถงึ กระบวนการเปลยี่ นแปลงลมฟา้ อากาศ ซึ่งเป็นส่งิ ท่ใี กลต้ วั นักเรยี น สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

324 หนว่ ยท่ี 4 | การด�ำ รงชีวิตของพืช คมู่ อื ครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ กิจกรรมท่ี 4.7 พชื ล�ำเลียงน้�ำและธาตอุ าหารอยา่ งไร นักเรียนจะได้เรียนรู้เก่ียวกับการล�ำเลียงน�้ำและธาตุอาหารของพืชผ่านทางเน้ือเยื่อท่อล�ำเลียงน�้ำหรือไซเล็ม โดยสังเกต การลำ� เลยี งนำ้� ของพชื และลกั ษณะของไซเลม็ จากนน้ั นำ� ผลการทำ� กจิ กรรมมาเขยี นแผนภาพเพอ่ื อธบิ ายทศิ ทางการลำ� เลยี ง น�้ำและธาตอุ าหารของพืช จุดประสงค์ สงั เกต รวบรวมขอ้ มลู เขยี นแผนภาพทศิ ทางการเคลอ่ื นทข่ี องนำ้� และบรรยายลกั ษณะและหนา้ ที่ ของเนอ้ื เยอ่ื ทอ่ ลำ� เลยี งนำ�้ เวลาทใ่ี ช้ใน 90 นาที การท�ำกิจกรรม วสั ดแุ ละอปุ กรณ์ วสั ดุอปุ กรณ์ทใี่ ช้ต่อหอ้ ง -ไมม่ ี- วัสดุอุปกรณ์ทใี่ ชต้ อ่ กล่มุ รายการ ปรมิ าณ/กลมุ่ 1. ตน้ เทียน 1 ต้น 2. แว่นขยาย 2 - 3 อัน 3. บีกเกอรข์ นาด 250 cm3 1 ใบ 4. สไลด์ 5 - 6 แผ่น 5. กระจกปิดสไลด์ 5 - 6 แผ่น 6. กล้องจุลทรรศน์ 1 กล้อง 7. ใบมีดโกน 2 ใบ 8. นำ้� สีแดง ประมาณ 150 cm3 9. สารละลายซาฟรานนิ 10 cm3 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

หนว่ ยท่ี 4 | การดำรงชีวิตของพชื 325 คู่มอื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ การเตรยี มล่วงหนา้ • เตรยี มล้างรากเทยี นโดยต้องระวังไมใ่ หร้ ากชำ้� แลว้ น�ำไปผึ่งลมไวใ้ ห้ใบเริม่ เฉา เพอ่ื ใหร้ ากดดู ขอ้ ควรระวงั นำ้� ไดเ้ รว็ และเห็นผลการดูดน�้ำได้ชดั เจน • เตรียมนำ้� สีแดง โดยผสมน�้ำเปล่า 1000 ลกู บาศกเ์ ซนตเิ มตร กบั สีผสมอาหารสีแดงประมาณ 100 ลูกบาศกเ์ ซนตเิ มตร • เตรียมสารละลายซาฟรานิน โดยผสมน้�ำเปล่า 90 ลูกบาศก์เซนติเมตร กับสารละลาย ซาฟรานิน (Safranin Solution, C20H19ClN4) 10 ลกู บาศก์เซนตเิ มตร การตัดเนื้อเยื่อพืชต้องระวังใบมีดโกนบาด และระวังไม่ให้สไลด์หรือกระจกปิดสไลด์แตก เนอื่ งจากอาจเกิดอันตรายเพราะเศษกระจกบาดได้ ข้อเสนอแนะ • ครคู วรสาธติ วธิ ตี ดั เนอื้ เยอ่ื พชื ตามยาวและตามขวาง กอ่ นใหน้ กั เรยี นตดั เนอื้ เยอื่ พชื ดว้ ยตนเอง ในการท�ำกิจกรรม • ครูอาจเตรียมกล้องจุลทรรศน์แบบสเตอริโอ เพื่อให้นักเรียนสังเกตลักษณะการติดสีของ สอื่ การเรียนรู/้ แหล่งเรียนรู้ เน้ือเยอื่ ส�ำหรับการบันทกึ ผล ครูอาจใหน้ กั เรยี นถา่ ยภาพได้ • ในการแช่เนอื้ เยอ่ื ในสายละลายซาฟรานนิ ไม่ควรแชน่ านเกนิ ไป เน่อื งจากท�ำให้สขี องสารละ ลายซาฟรานนิ ตดิ เนอ้ื เย่อื บรเิ วณอ่ืนทไี่ มใ่ ชม่ ดั ท่อลำ� เลยี ง • ถา้ ไมม่ ตี น้ เทยี น ครูอาจใช้พืชชนดิ อ่นื ที่มีล�ำตน้ ใสและมีราก เชน่ ตน้ ฤาษีผสม ผักกาด ข้นึ ฉา่ ย ฝรง่ั • หนังสอื เรยี นวทิ ยาศาสตร์ระดับมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 สสวท. • หนังสอื หรอื ส่อื อื่น ๆ เกีย่ วกับลกั ษณะของไซเล็มในรากและลำ� ตน้ ของพชื สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

326 หนว่ ยที่ 4 | การดำ�รงชีวิตของพชื คู่มอื ครรู ายวชิ าพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ตัวอย่างผลการทำ�กิจกรรม ลกั ษณะของตน้ เทียนกอ่ นแช่นำ้� สแี ดง ตาราง ผลการสงั เกตรากและลำ� ตน้ ของเทยี นหลังแช่นำ�้ สแี ดงดว้ ยแว่นขยาย ส่งิ ที่สงั เกต ผลการสังเกตุ ลกั ษณะของตน้ เนือ้ เยอื่ รากตัดตามยาว สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

หนว่ ยที่ 4 | การดำรงชวี ิตของพืช 327 คมู่ ือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ตวั อยา่ งผลการทำ�กิจกรรม ตาราง ผลการสงั เกตรากและลำ� ตน้ ของเทียนหลงั แช่นำ�้ สีแดงด้วยแว่นขยาย (ต่อ) ส่งิ ทส่ี งั เกต ผลการสงั เกตุ เน้ือเยื่อรากเทยี นตดั ตามขวาง เนื้อเยอ่ื ล�ำต้นเทียนตัดตามยาว เนอื้ เย่ือลำ� ตน้ เทยี นตดั ตามขวาง สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

328 หน่วยท่ี 4 | การดำ�รงชีวิตของพชื คู่มอื ครรู ายวชิ าพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ตัวอย่างผลการทำ�กิจกรรม ตาราง ผลการสังเกตเนื้อเยอ่ื รากและลำ� ตน้ ของต้นเทยี นหลังแชน่ ำ้� สดี ว้ ยกลอ้ งจุลทรรศน์ วธิ กี ารตดั เนื้อเย่ือราก เน้อื เยอื่ ล�ำตน้ ตดั ตามยาว ตัดตามขวาง แผนภาพแสดงทิศทางการเคลอื่ นทข่ี องน�้ำและธาตอุ าหารในตน้ เทียน สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

หน่วยท่ี 4 | การดำรงชีวติ ของพืช 329 คู่มือครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ เฉลยคำ�ถามท้ายกิจกรรม • นำ้� สีเคลอื่ นที่เขา้ สู่พชื ทางสว่ นใด และมีทิศทางการเคลอ่ื นทอ่ี ย่างไร ทราบได้อย่างไร แนวค�ำตอบ นำ�้ สเี คลอ่ื นเขา้ สพู่ ชื ทางราก และมที ศิ ทางเคลอ่ื นทขี่ น้ึ สสู่ ว่ นบนไปสลู่ ำ� ตน้ และใบ ทราบไดจ้ ากการ สงั เกตเหน็ น้�ำสีแดงเคลอื่ นท่ีเปน็ เส้นต่อเน่ืองจากรากขนึ้ ไปสู่ลำ� ต้นและใบ • เม่ือสังเกตเนื้อเยื่อรากและล�ำต้นด้วยกล้องจุลทรรศน์ ลักษณะเนื้อเยื่อของรากและล�ำต้นของต้นเทียนเป็น อยา่ งไร แนวค�ำตอบ เม่ือสังเกตดว้ ยกล้องจลุ ทรรศน์ ลักษณะเนือ้ เยอื่ ตดั ตามขวางของรากเหน็ กล่มุ เซลล์เรยี งชดิ ติดกัน และแยกเปน็ แฉกคลา้ ยรปู ดาว เมอื่ ตดั ตามยาวจะเหน็ กลมุ่ เซลเ์ รยี งตอ่ กนั เปน็ ทอ่ ลกั ษณะเนอ้ื เยอ่ื ล�ำต้นของต้นเทียน เม่ือตัดตามขวางจะเห็นกลุ่มเซลล์ติดสีแดงเรียงเป็นกลุ่มๆ รอบล�ำต้น และ เมอ่ื ตดั ตามยาวสว่ นทตี่ ดิ สแี ดงจะเหน็ เปน็ กลมุ่ เซลลเ์ รยี งตอ่ กนั เปน็ ทอ่ ไปสสู่ ว่ นยอดและแยกไปสใู่ บ • เพราะเหตุใดกิจกรรมนจี้ งึ ใช้ต้นเทียน แนวค�ำตอบ เพราะเทียนมลี �ำต้นใส สามารถสังเกตการเคลือ่ นทข่ี องนำ�้ สไี ด้ • จากกจิ กรรม สรุปได้อย่างไร แนวคำ� ตอบ เส้นทางการเคลื่อนที่ของน้�ำสีเริ่มจากรากข้ึนไปยังส่วนต่าง ๆ ของพืช คือ ล�ำต้น ใบ ดอก โดยผา่ นกลุ่มเซลลท์ ี่เรยี งตอ่ กันเปน็ ทอ่ จากรากข้ึนสลู่ ำ� ตน้ และตอ่ ไปยังส่วนต่าง ๆ ของพืช สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

330 หน่วยท่ี 4 | การด�ำ รงชวี ิตของพชื คู่มือครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ กจิ กรรมท้ายบท ทำ� อย่างไรให้พืชมีผลผลิตตามตอ้ งการ นกั เรยี นจะไดเ้ รยี นรเู้ กย่ี วกบั การวเิ คราะหอ์ าการและการแกไ้ ขความผดิ ปกตขิ องพชื ทม่ี ผี ลมาจากการขาดธาตอุ าหาร และสามารถนำ� ความรูไ้ ปใชใ้ นชวี ติ ประจำ� วัน จุดประสงค์ สืบคน้ ข้อมูล วเิ คราะห์ และเลอื กใชธ้ าตอุ าหารใหเ้ หมาะสมกบั ความตอ้ งการของพชื เวลาทใี่ ชใ้ น 45 นาที การทำ� กิจกรรม วสั ดแุ ละอุปกรณ์ -ไม่มี- การเตรยี มลว่ งหนา้ • ครูเตรียมแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับการปลูกผักกาดหอม และมะเขือเทศ ซ่ึงระบุธาตุอาหารที่พืช ทั้ง 2 ชนิดนตี้ ้องการในการเจริญเติบโตระยะต่าง ๆ ส่ือการเรยี นรู้/ • หนังสอื เรียนวทิ ยาศาสตรร์ ะดบั มัธยมศึกษาปีท่ี 1 สสวท. แหลง่ เรียนรู้ • หนงั สือหรือเอกสารเผยแพรเ่ ก่ยี วกับการจัดการดนิ หรือธาตอุ าหารพชื สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

หน่วยที่ 4 | การดำรงชีวิตของพืช 331 คมู่ อื ครรู ายวชิ าพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ตัวอยา่ งผลการทำ�กิจกรรม ตาราง ธาตอุ าหารท่ีจำ� เป็นในการปลกู ผกั กาดหอมและมะเขือเทศ พืช ธาตุอาหารทจี่ ำ� เปน็ ปริมาณท่ตี ้องการ ประโยชนข์ องธาตุอาหาร ผกั กาดหอม ไนโตรเจน มาก ช่วยให้เจริญเติบโตเร็ว ลำ� ตน้ และใบอ่อนกรอบ มเี สยี้ นนอ้ ย ฟอสฟอรสั มาก ช่วยให้ต้นตั้งตวั ได้เรว็ ขึ้นในช่วงแรกของ การเจรญิ เตบิ โต และมีรสดขี ้ึน โพแทสเซียม มาก ช่วยใหใ้ บบางกรอบ ไม่มีจดุ บนใบ ใบหอ่ ตวั ไดด้ ี ใบไมเ่ หย่ี วเฉา แคลเซียม มาก ชว่ ยให้ลำ� ตน้ แข็งแรง มะเขอื เทศ ไนโตรเจน มาก ชว่ ยการเจรญิ เตบิ โตของตน้ และใบ ทำ� ใหส้ งั เคราะห์ ด้วยแสงได้ดี ช่วยในการเจริญของดอก และการ พฒั นาของผล ฟอสฟอรสั นอ้ ย ชว่ ยในการเจริญเติบโตของราก ช่วยให้รากดูดน้�ำ และธาตุอาหารได้ดี โพแทสเซียม มาก ช่วยในการเจริญเตบิ โตของผล เนือ้ เย่อื ผลเหนยี ว ชว่ ยเพม่ิ ขนาดผล ทนทานต่อโรค แคลเซียม มาก เพมิ่ ความแข็งแรงของโครงสรา้ งต้น รวมทัง้ ผล และช่วยใหพ้ ืชนำ� โพแทสเซยี มไปใชไ้ ดด้ ขี ึ้น ผลการวิเคราะหส์ ถานการณ์ สาเหตุท่ที ำ� ให้ผักกาดหอมเจริญเตบิ โตไดด้ ี แต่มะเขอื เทศแสดงอาการผิดปกติ ผกั กาดหอม ผกั กาดหอมเป็นพชื ท่ีรับประทานใบ ซ่ึงเจริญเติบโตไดด้ ี น่าจะเปน็ เพราะดนิ ที่ใชป้ ลูกพืชมี ไนโตรเจน ในปรมิ าณ ที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของใบ เนื่องจากไนโตรเจนมีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตของใบพืช ท�ำให้มีสีเขียว และสงั เคราะหด์ ้วยแสงได้ดี มะเขือเทศ มะเขือเทศเป็นพืชท่ีนิยมรับประทานผล สาเหตุที่แสดงอาการผิดปกติช่วงออกดอก และก้นผลเน่า น่าจะเป็น เพราะดนิ ขาดธาตอุ าหารทจี่ ำ� เปน็ ตอ่ การเจรญิ เตบิ โตของผล เชน่ แคลเซยี ม โพแทสเซยี ม ซงึ่ ชว่ งทมี่ ดี อกและสรา้ งผล สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

332 หนว่ ยท่ี 4 | การดำ�รงชวี ิตของพชื คมู่ อื ครูรายวชิ าพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ตวั อย่างผลการทำ�กิจกรรม มะเขือเทศต้องการแคลเซียมสูงเพ่ือให้ผลมีความแข็งแรง ถ้าขาดแคลเซียมจะท�ำให้ผนังเซลล์ของผลไม่แข็งแรง ฉีกขาดง่าย ก้นผลปริแตก ท�ำให้เชื้อโรคเข้าไปท�ำลายจนผลเน่าได้ นอกจากนี้การขาดแคลเซียมท�ำให้มะเขือเทศ ดดู โพแทสเซียมไดน้ อ้ ยจงึ ส่งผลต่อผลของมะเขอื เทศเชน่ กัน แนวทางการปรบั ปรงุ ดนิ เพือ่ แกอ้ าการผิดปกติของมะเขือเทศ สามารถปรบั ปรงุ ดนิ โดยมขี ้ันตอนดังนี้ 1. ก่อนปลูกมะเขือเทศให้ใส่ปุ๋ยคอกในดิน และอาจใส่แคลเซียมซิลิคอน หรือปูนขาวเพ่ือเพ่ิมแคลเซียมในดิน หรืออาจใสป่ ุย๋ สูตร 15-15-15 ประมาณ 1 ชอ้ น ต่อหลุม 2. เมอ่ื มะเขือเทศอายุ 15 วันหลงั ปลกู ซงึ่ เป็นช่วงการเจรญิ เติบโตของตน้ และใบ ใหใ้ สป่ ยุ๋ สตู ร 15-15-15 หรือ 46-0-0 3. ระยะออกดอกไปจนถึงเก็บเก่ียวใส่ปุ๋ยที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น ปุ๋ยสูตร 13-13-21 หรือสูตร 0-0-60 และ อาจฉีดพ่นแคลเซียมโบรอน ทกุ อาทติ ยจ์ นกวา่ จะเกบ็ เก่ยี วหมด เฉลยคำ�ถามท้ายกจิ กรรม 1. เพราะเหตุใด ผักกาดหอมจึงเจริญเติบโตไดด้ ี แต่มะเขอื เทศแสดงอาการผดิ ปกติ แนวคำ� ตอบ การทผี่ กั กาดหอมเจรญิ เตบิ โตไดด้ ี แตม่ ะเขอื เทศแสดงอาการผดิ ปกติ นา่ จะเปน็ เพราะดนิ ทใี่ ชป้ ลกู พชื มธี าตอุ าหารทเ่ี หมาะสมตอ่ การเจรญิ เตบิ โตของใบในปรมิ าณทพ่ี อเหมาะ เชน่ โนโตรเจน ทำ� ให้ พชื กนิ ใบอยา่ งผกั กาดหอมเจรญิ เตบิ โตไดด้ ี แตพ่ ชื ทกี่ นิ ผลอยา่ งมะเขอื เทศแสดงอาการผดิ ปกตชิ ว่ ง ออกดอก และมผี ลผดิ ปกติ นา่ จะเปน็ เพราะดนิ ขาดธาตอุ าหารทจ่ี ำ� เปน็ ตอ่ การเจรญิ เตบิ โตของผล เช่น แคลเซยี ม โพแทสเซียม 2. ถ้าต้องการปลกู มะเขอื เทศ ให้ไดผ้ ลผลิตท่ดี ี ควรปรบั ปรุงดินอยา่ งไร แนวค�ำตอบ เนอื่ งจากอาการผดิ ปกตขิ องมะเขอื เทศนา่ จะเปน็ ผลมาจากการขาดธาตแุ คลซยี ม ควรแกป้ ญั หาโดย การใสป่ ยุ๋ ทม่ี แี คลเซยี มสงู ในชว่ งเตรยี มดนิ และอาจฉดี พน่ ปยุ๋ ทมี่ สี ว่ นประกอบของแคลเซยี มในชว่ ง ทต่ี ดิ ดอกและสรา้ งผล เพราะแคลเซยี มเปน็ องคป์ ระกอบสำ� คญั ของผนงั เซลล์ ชว่ ยรกั ษาสภาพของ เยอื้ หมุ้ เซลล์ ทำ� ใหเ้ นอ้ื เยอื่ ผลของพชื มคี วามแขง็ แรง ผลไมป่ รแิ ตกงา่ ย ทำ� ใหท้ นทานตอ่ โรค และยงั ชว่ ย ในการซ่อมแซมบาดแผลของเน้อื เยือ่ ได้ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

หนว่ ยที่ 4 | การดำรงชวี ิตของพืช 333 ค่มู ือครูรายวชิ าพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ เ ฉลยแบบฝึกหดั ท้ายบท 1. นักเรียนคนหนงึ่ ปลกู พืชในสารต่าง ๆ ดงั น้ี ก. นำ�้ กล่นั ข. นำ�้ กลนั่ เติมฟอสฟอรัสและโพแทสเซียม ค. นำ�้ กลั่น เตมิ ไนโตรเจนและฟอสฟอรัส ง. นำ�้ กลั่น เติมไนโตรเจนและโพแทสเซียม จ. นำ�้ กลั่น เติมไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม หลงั จากปลูกพชื หนง่ึ ในสภาพแวดล้อมเดียวกนั ไปเป็นระยะเวลาหนงึ่ ไดผ้ ลดงั ภาพ นกั เรยี นคนนจ้ี ะอธบิ ายผลการ ปลกู พืชนีไ้ ด้ว่าอยา่ งไร** ก. ข. ค. ง. จ. แนวคำ� ตอบ ถา้ ปลกู ในน�้ำกลน่ั อาจมอี าหารไมเ่ พยี งพอตอ่ ความตอ้ งการของพชื พชื จะเจรญิ เตบิ โตไมด่ ี ตน้ แคระแกรน็ และถ้าในสารที่ใช้ปลูกพืชไม่มีไนโตรเจนแต่มีธาตุชนิดอื่น ๆ ต้นพืชจะมีขนาดเล็กกว่าต้นท่ีปลูกใน สารละลายท่ีมีไนโตรเจน ถ้าปลูกพืชในสารละลายที่ไม่มีแมกนีเซียมแต่มธาตุขนิดอื่น ๆ ต้นพืชจะเจริญ เตบิ โตไดแ้ ตใ่ บจะมสี ีเหลืองซดี และถา้ ปลูกพชื ในสารละลายทไ่ี ม่มฟี อสฟอรสั แตม่ ธี าตชุ นิดอ่นื ๆ ต้นพชื จะไมเ่ จรญิ เตบิ โตและใบจะเหลืองซีด ดงั น้นั การปลูกพืชจ�ำเปน็ ตอ้ งให้พืชได้รบั ธาตอุ าหารครบตามความ ต้องการในปรมิ าณท่เี หมาะสม สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

334 หนว่ ยท่ี 4 | การดำ�รงชีวิตของพืช คมู่ อื ครรู ายวชิ าพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ 2. ถา้ ต้องการปลกู คะนา้ นักเรยี นจะเลอื กใช้ ปุ๋ยสูตรใดระหวา่ ง 25-5-5 กบั 15-15-15 เพราะเหตุใด* แนวคำ� ตอบ เลอื กปยุ๋ สตู ร 25-5-5 เพราะคะนา้ เปน็ ผกั กนิ ใบ การปลกู จงึ ควรใหค้ ะนา้ ไดร้ บั ธาตไุ นโตรเจนเปน็ ปรมิ าณสงู เพราะไนโตรเจนเป็นส่วนประกอบของคลอโรฟิลล์ท�ำให้ใบคะน้ามีสีเขียว และมีส่วนช่วยในการเจริญ เตบิ โตของใบคะน้า 3. ถา้ นำ� พืชไปแช่น�้ำสแี ดง ส่วนใดจะติดสีแดง เพราะเหตุใด* แนวคำ� ตอบ สว่ นที่ติดสีแดงจะเปน็ ดังภาพ เพราะเป็นสว่ นเนือ้ เย่ือลำ� เลยี งน้�ำหรอื ไซเลม็ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

หน่วยที่ 4 | การดำรงชวี ิตของพืช 335 คมู่ ือครรู ายวชิ าพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ 4. รา้ นดอกไมต้ อ้ งการเพมิ่ มลู คา่ ใหก้ ลว้ ยไม้ โดยการนำ� กลว้ ยไมด้ อกสขี าวไปแชใ่ นนำ้� สนี ำ� เงนิ เมอื่ เวลาผา่ นไปดอกกลว้ ยไม้ บางสว่ น เปลย่ี นจากสขี าวเปน็ สนี ำ้� เงนิ ดงั ภาพ นกั เรยี นจะอธบิ ายสาเหตกุ ารเปลยี่ นสขี องดอกกลว้ ยไมน้ ไ้ี ดอ้ ยา่ งไร* กอ่ นแช่นำ้� สีน้ำ� เงิน หลงั แชน่ ำ้� สีนำ�้ เงนิ แนวคำ� ตอบ สาเหตทุ ่ีดอกกล้วยไมบ้ างส่วนเปลีย่ นเปน็ สีน�้ำเงนิ หลงั จากแชใ่ นนำ�้ สนี ำ้� เงนิ เพราะวา่ น้�ำสนี �้ำเงนิ สามารถ แพร่เข้าสู่เซลล์ของก้านกล้วยไม้ได้ แล้วล�ำเลียงต่อไปตามไซเล็มข้ึนสู่ไซเล็มของกลีบเล้ียงและกลีบดอก และแพร่ออกสเู่ ซลล์อน่ื ๆ ของดอก จนทำ� ให้ดอกบางสว่ นทีเ่ คยเป็นสีขาวกลายเป็นสีนำ�้ เงนิ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

336 หน่วยที่ 4 | การดำ�รงชีวติ ของพืช คู่มือครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ เฉลยแบบฝกึ หดั ทา้ ยหน่วย บทท่ี 1 การสืบพนั ธุ์และการขยายพันธ์ุพชื ดอก 1. จากภาพ เขยี น  ลอ้ มรอบคำ� วา่ “ใช”่ หรอื “ไม่ใช”่ ในแตล่ ะข้อความทเี่ ก่ียวข้องกบั การสืบพนั ธ์แุ บบอาศยั เพศ ของพชื ดอก ถา้ ไมใ่ ชใ่ ห้แก้ไขให้ถูกตอ้ ง * A B C ใช่ หรอื ไม่ใช่ D ใช่ ไม่ใช่ ใช่ ไม่ใช่ ขอ้ ความ ใช่ ไมใ่ ช่ สว่ นทเี่ กี่ยวขอ้ งกับการสรา้ งเซลลส์ ืบพนั ธ์ุเพศผู้ คอื สว่ น A ใช่ ไม่ใช่ สว่ นที่เกย่ี วข้องกบั การสรา้ งเซลลส์ บื พนั ธุ์เพศเมีย คือส่วน B ใช่ ไม่ใช่ การปฏิสนธเิ กดิ ข้ึนทสี่ ว่ น C หลงั จากเกิดการปฏิสนธิ สว่ น D จะพัฒนาไปเปน็ เมล็ด ใช่ หรือไมใ่ ช่ ถ้าตอ้ งการถ่ายเรณใู ห้กับพืชชนิดน้ี ตอ้ งนำ�เรณูจากส่วน A ไปวางบนส่วน B ใช่ ไมใ่ ช่ ใช่ ไมใ่ ช่ เฉลย ใช่ ไม่ใช่ ข้อความ ใช่ ไม่ใช่ ใช่ ไม่ใช่ ส่วนทเี่ ก่ียวข้องกับการสร้างเซลล์สบื พันธ์เุ พศผู้ คือ สว่ น A สว่ นท่ีเก่ียวข้องกับการสร้างเซลลส์ บื พันธเ์ุ พศเมยี คอื สว่ น B การปฏิสนธเิ กิดขนึ้ ทส่ี ว่ น C หลังจากเกดิ การปฏิสนธิ สว่ น D จะพัฒนาไปเปน็ เมล็ด ถา้ ต้องการถา่ ยเรณใู ห้กบั พชื ชนดิ น้ี ต้องนำ�เรณจู ากส่วน A ไปวางบนสว่ น B สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

หน่วยที่ 4 | การดำรงชวี ติ ของพืช 337 คมู่ อื ครรู ายวชิ าพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ 2. การสืบพนั ธแ์ุ บบอาศัยเพศของพชื ดอกมีขัน้ ตอนเรียงตามลำ� ดับอย่างไร* ก. การเกดิ เมลด็ การถ่ายเรณ ู การปฏิสนธิ ข. การถ่ายเรณู การปฏสิ นธ ิ การเกดิ เมลด็ ค. การปฏิสนธิ การถา่ ยเรณ ู การเกิดเมลด็ ง. การถา่ ยเรณ ู การเกิดเมล็ด การปฏิสนธิ เฉลย ตอบ ข. 3. ในการทดลองเพอื่ ศกึ ษาการเกดิ เมลด็ โดยแบง่ พชื ชนดิ เดยี วกนั ออกเปน็ 4 กลมุ่ แตล่ ะกลมุ่ ปลกู หา่ งกนั ทดลองโดยเดด็ สว่ นประกอบบางสว่ นของดอกออกไปแตบ่ างสว่ นยงั คงไว้ ดงั ตาราง จากนน้ั ปลอ่ ยใหเ้ กดิ การผสมพนั ธต์ุ ามธรรมชาติ กลุม่ กลีบเลย้ี ง กลบี ดอก เกสรเพศผู้ เกสรเพศเมยี 1 P P O P 2 P P O O 3 O O P O 4 O O P P เคร่ืองหมาย Pแสดงส่วนประกอบท่ยี งั คงอยู่ เครือ่ งหมาย O แสดงส่วนประกอบที่ถกู เดด็ ออกไป ข้อความใดไม่ถกู ตอ้ ง** ก. พืชกลมุ่ ท่ี 1 ตดิ ผล เพราะเกดิ การถา่ ยเรณมู าจากดอกของพืชกลุม่ อ่นื ข. พืชกลุม่ ท่ี 2 ไมต่ ดิ ผล เพราะไมม่ ีกลบี ดอกดึงดดู แมลงจงึ ไมม่ กี ารถา่ ยเรณู ค. พืชกลุ่มที่ 3 ไมต่ ิดผล เพราะไม่มีรงั ไข่ จึงไม่เกิดการปฏิสนธิ ง. กลุม่ ที่ 4 ติดผล เพราะเกดิ การถ่ายเรณไู ดจ้ ากอับเรณูในดอกเดยี วกัน เฉลย ตอบ ข. สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

338 หนว่ ยที่ 4 | การดำ�รงชวี ิตของพชื คู่มือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ อา่ นข้อความแล้วตอบคำ� ถามข้อ 4-5 บัวหลวงเปน็ พชื นำ้� ที่มปี ระโยชน์หลายอย่าง ทัง้ เพอ่ื เป็นไมป้ ระดบั และเพ่อื น�ำส่วนตา่ ง ๆ มาใช้ ประโยชน์ เชน่ นำ� ไหล และเหงา้ มาเปน็ อาหาร ใชใ้ บในการหอ่ อาหาร รวมทง้ั ยงั มกี ารนำ� ดบี วั หรอื ตน้ ออ่ นในเมลด็ มาทำ� เปน็ สว่ นผสมของยาโบราณ อีกดว้ ย ดบี วั ใบเลี้ยง 4. จากภาพ ข้อใดกลา่ วถกู ตอ้ ง* ก. ดีบวั เปน็ ส่วนหน่ึงของเอม็ บรโิ อ ข. ดบี ัวเปลยี่ นแปลงมาจากผนงั ออวลุ ค. ดบี ัวเปน็ แหลง่ อาหารขณะเมล็ดงอก ง. ดบี วั เปน็ ส่วนทจี่ ะงอกออกมาจากเมลด็ เปน็ อบั ดบั แรก เฉลย ตอบ ก. 5. จากภาพ เขียน  ลอ้ มรอบคำ� ว่า “ใช”่ หรอื “ไม่ใช่” ในแตล่ ะข้อความทีเ่ กย่ี วขอ้ งกับบวั หลวง ถ้าไม่ใช่ใหแ้ กไ้ ขให้ ถูกต้อง* ราก ไหล เหงา้ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

หนว่ ยที่ 4 | การดำรงชวี ิตของพืช 339 คมู่ ือครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ ขอ้ ความ ใช่ หรือไม่ใช่ ไหลเปน็ ส่วนของรากบัว ใช่ ไมใ่ ช่ บวั ใช้ไหลในการสืบพันธ์ุแบบไม่อาศัยเพศ ใช ่ ไม่ใช่ เมลด็ บัวสามารถกระจายไปได้โดยนำ้� ใช ่ ไมใ่ ช่ เฉลย ใช่ หรอื ไมใ่ ช่ ขอ้ ความ ไหลเป็นส่วนของรากบัว ใช่ ไม่ใช่ แก้ไข ไหลเป็นสว่ นของลำ� ต้นบัว บวั ใช้ไหลในการสืบพนั ธแุ์ บบไมอ่ าศัยเพศ ใช ่ ไมใ่ ช่ เมลด็ บวั สามารถกระจายไปได้โดยนำ�้ ใช่ ไม่ใช่ 6. เมลด็ พชื ชนดิ หนงึ่ สามารถงอกได้ดีทอ่ี ุณหภมู ิ 25 องศาเซลเซียส เม่ือนำ� เมลด็ พชื ชนิดน้ใี สใ่ นหลอดทดลองดงั ภาพ เมล็ดในหลอดใดมีโอกาสงอกได้ * A BCDE ก. หลอด A และ D นำ้� สำ� ลชี ุบน�้ำ ไขมัน สำ� ลชี บุ น้�ำ ข. หลอด B และ C วางท่ีอณุ หภมู ิห้อง ค. หลอด B และ D นำ้� มนั ง. หลอด C และ E วางในตูเ้ ยน็ เฉลย ตอบ ข. สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

340 หนว่ ยท่ี 4 | การดำ�รงชวี ิตของพืช ค่มู อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ ขอ้ ความตอ่ ไปนใี้ ชต้ อบคำ� ถามขอ้ 7 และ 8 “เนื้อและนำ้� มะพรา้ ว เป็นอาหารสะสมในเมล็ด ซึง่ ต้นอ่อนของมะพร้าวจะใช้เป็นแหล่งอาหารในขณะงอก แตม่ ะพรา้ ว บางผลมีเนอื้ และนำ้� แตกต่างจากมะพรา้ วท่วั ไปโดยมเี นือ้ ฟู หนานมุ่ มีน�้ำข้นเหนียว เรียกวา่ มะพรา้ วกะทิ ท�ำให้ต้นอ่อนของ มะพร้าวกะทไิ มส่ ามารถใชเ้ น้อื ของมะพรา้ วกะทิเปน็ แหลง่ อาหารสำ� หรับการเจรญิ เติบโตได้ ในธรรมชาตจิ ึงไม่มีตน้ มะพร้าว ที่เจริญจากเมลด็ ของมะพร้าวกะทิ” 7. นำ้� และเนื้อของมะพร้าว คอื ส่วนประกอบใดของเมลด็ * ก. เอม็ บรโิ อ ข. รากแรกเกิด ค. เอนโดสเปิรม์ ง. เปลือกหุ้มเมลด็ เฉลย ตอบ ค. 8. ถา้ ต้องการขยายพันธ์มุ ะพรา้ วกะทิ ควรใช้วิธใี ด* ก. ปกั ชำ� ข. ตอนกง่ิ ค. เพาะเมลด็ ง. เพาะเลี้ยงเนื้อเยอ่ื เฉลย ตอบ ง. ภาพตอ่ ไปนใ้ี ช้ตอบคำ� ถามข้อ 9 - 10 แสง CB D A สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

หน่วยที่ 4 | การดำรงชีวิตของพืช 341 ค่มู อื ครรู ายวชิ าพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ 9. จากภาพ และขอ้ มลู ต่อไปนี้ ขอ้ ใดถูกตอ้ ง* 1. สง่ิ ทพ่ี ืชใชใ้ นการสังเคราะหด์ ้วยแสง คอื A และ D 2. ผลผลติ ท่ีได้จากการสังเคราะห์ดว้ ยแสง คือ B และ C 3. พืชล�ำเลียง C ผ่านไซเลม็ 4. พืชล�ำเลียง D ผา่ นโฟลเอม็ ก. ขอ้ 1 และ 2 ข. ขอ้ 1 และ 3 ค. ขอ้ 2 และ 3 ง. ขอ้ 3 และ 4 เฉลย ตอบ ก. 10. A B C D คอื อะไร ตามลำ� ดบั ก. น้�ำตาล นำ้� แกส๊ ออกซเิ จน แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ข. แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ แก๊สออกซเิ จน นำ้� น้ำ� ตาล ค. แกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์ แกส๊ ออกซิเจน นำ�้ ตาล นำ้� ง. แกส๊ ออกซิเจน น้�ำตาล แกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์ น้�ำ เฉลย ตอบ ค สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

342 หน่วยที่ 4 | การดำ�รงชีวิตของพืช คูม่ ือครูรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ใชส้ ถานการณ์ตอ่ ไปนี้ ตอบคำถามข้อ 11-12 นกั เรียนคนหน่ึงทดลองวางต้นพืชทป่ี ลกู ในกระถางไว้ในที่มืด 2 วัน จากน้ันนำกระดาษทบึ เจาะรูปดาวไปปดิ ทับ กับด้านบนและดา้ นลา่ งของใบ โดยให้ชอ่ งทเ่ี จาะเปน้ รปู ดาวอย่ดุ า้ นบนของใบ ดงั ภาพ นำต้นพืชไปวางกลางแดด 3 ชัว่ โมง จากน้ันเด็ดใบพชื มาสกัดคลอโรฟลี ลอ์ อกแล้วทดสอบแปง้ ดว้ ยสารละลายไปโอดนี CC AB D แถบกระดาษทึบ 11. หลังการทดสอบแป้งด้วยสารละลายไอโอดีน ส่วนใดบ้างท่ีสีของสารละลายไอโอดีนเปลี่ยนจากสีน�้ำตาลเป็น สนี ำ�้ เงนิ เข้ม* ก. สว่ น A และ B ข. ส่วน A และ C ค. ส่วน B และ C ง. ส่วน B และ D เฉลย ตอบ ง. 12. จุดประสงค์ของการทดลองนคี้ อื ข้อใด * ก. แปง้ เกดิ ขน้ึ ในระหวา่ งการสังเคราะห์ด้วยแสง ข. คลอโรฟิลลแ์ ละแสง จำ� เปน็ ต่อการสังเคราะหด์ ้วยแสง ค. แก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์ จ�ำเป็นต่อการสงั เคราะห์ด้วยแสง ง. ไอโอดนี ใช้ทดสอบแปง้ ในกระบวนการสังเคราะหด์ ว้ ยแสง เฉลย ตอบ ข. สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

หนว่ ยที่ 4 | การดำรงชีวิตของพืช 343 คูม่ อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ ใช้สถานการณใ์ นการทดลองของโจเซฟ พริสตล์ ีย์ (Joseph Priestley) ตอบคำ� ถามขอ้ 13 ครอบแก้ว สักครตู่ ่อมา หลายวันตอ่ มา a. b. c. d. 13. เขียน  ล้อมรอบคำ� ว่า “ใช”่ หรือ “ไมใ่ ช”่ ในแตล่ ะขอ้ ความท่เี กีย่ วขอ้ งกบั สถานการณ์ในภาพ ถ้าไมใ่ ชใ่ ห้แกไ้ ข ให้ถูกตอ้ ง** ข้อความ ใช่ หรอื ไม่ใช่ เหตุท่หี นใู นภาพ b ตายเพราะในครอบแกว้ ไม่มแี กส๊ ออกซิเจน ใช ่ ไมใ่ ช่ เหตทุ หี่ นูในภาพ d ไม่ตายเพราะในครอบแก้วมีแกส๊ ออกซิเจน ใช่ ไม่ใช่ ภาพ c และ d มกี ารสังเคราะหด์ ้วยแสงเกดิ ขน้ึ ใช ่ ไม่ใช่ เฉลย ข้อความ ใช่ หรือไม่ใช่ หนูในภาพ b ตายเพราะในครอบแกว้ ไมม่ ีแกส๊ ออกซเิ จน ใช ่ ไม่ใช่ หนูในภาพ d ไม่ตายเพราะในครอบแกว้ มีแก๊สออกซเิ จน ใช่ ไม่ใช่ ภาพ c และ d มีการสังเคราะห์ด้วยแสงเกดิ ขน้ึ ใช่ ไมใ่ ช่ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

344 หน่วยที่ 4 | การดำ�รงชวี ิตของพชื คมู่ ือครรู ายวชิ าพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ 14. เพราะเหตใุ ด เม่อื ปลูกพืชในกระถางและเจริญเตบิ โตไปได้ระยะหนึง่ จึงควรเปล่ยี นดนิ ในกระถาง* ก. เพราะรากพืชดูดน้�ำไมไ่ ด้ ข. เพราะดูแลรกั ษาพชื ยากขน้ึ ค. เพราะตน้ พืชมที รงไมส่ วยงาม ง. เพราะดนิ เดิมมธี าตุอาหารนอ้ ยลง เฉลย ตอบ ง. ใช้ภาพและข้อมูลต่อไปนี้ตอบคำ� ถามขอ้ 15 ชาวสวนขยายพนั ธ์ชุ ะอมโดยใชม้ ดี คว่ันส่วน A รอบกิ่งของชะอมออกยาวประมาณ 2 นิ้ว จากนน้ั นำ� ตุ้มตอนมาหุ้มส่วน ท่คี วนั่ ออก ไมน่ านเปลอื กตน้ ชะอมเหนือส่วนทีค่ วั่นออกมีรากงอกออกมา 15. ส่วน A มีเน้อื เย่อื ลำ� เลียงชนิดใด และการคว่นั ส่วน A ออก ส่งผลอยา่ งไรต่อก่งิ ท่ีขยายพันธุด์ ้วยวิธีน้ี * 1. สว่ น A มีไซเลม และการควน่ั สว่ น A ออกสง่ ผลใหต้ น้ ชะอมลำ� เลยี งนำ�้ จากรากข้ึนสูใ่ บของกิง่ นไี้ ม่ได้ 2. ส่วน A มีโฟลเอ็ม และการควั่นสว่ น A ออกส่งผลใหต้ น้ ชะอมลำ� เลียงนำ�้ จากใบไปสรู่ ากของตน้ นีไ้ ม่ได้ 3. สว่ น A มีไซเล็ม และการควัน่ สว่ น A ออกสง่ ผลใหต้ น้ ชะอมลำ� เลยี งอาหารจากส่วนล่างรอยควนั่ ไปสใู่ บของก่งิ น้ี ไมไ่ ด้ 4. ส่วน A มีโฟลเอม็ และการคว่ันสว่ น A ออกส่งผลใหต้ น้ ชะอมลำ� เลยี งอาหารจากใบของกง่ิ นี้ไปสสู่ ่วนลา่ งรอยคว่นั ไมไ่ ด้ เฉลย ตอบ ง. สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

345 ำ ภาคผนวก สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

346 ภาคผนวก คู่มือครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ บรรณานุกรม สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย.ี (2559). หนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 เล่ม 1 ตามมาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ช้ีวัด กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ (ฉบบั ปรบั ปรงุ 2560 ) ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551. กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พ์ สกสค. ลาดพร้าว. สารานกุ รมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู วั . (2529). เล่มท่ี 9. เร่อื งที่ 6 โรคมะเร็ง. สบื ค้นเมอ่ื วนั ท่ี 4 พฤศจกิ ายน 2560 จาก http://www.saranukromthai.or.th/sub/book/book.php?book=9&chap=6&page=t9-6-infodetail11.html สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงคใ์ นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ ัว. (2546). เลม่ ท่ี 27. เร่อื งที่ 8 พลังงานนิวเคลยี ร.์ สบื คน้ เม่อื วันที่ 4 พฤศจิกายน 2560 จาก http://www.saranukromthai.or.th/sub/book/book.php?book=27&chap=8&page=t27-8-infodetail04.html สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงคใ์ นพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว. (2559). เลม่ ที่ 40. เรื่องที่ 6 แร่เหล็ก. สืบค้นเมอ่ื วนั ท่ี 4 พฤศจิกายน 2560 จาก http://kanchanapisek.or.th/kp6/sub/book/book.php?book=40&chap=6&page=chap6.htm Barke, H. D., Hazari, A., and Yitbarek, S. (2009). Misconceptions in Chemistry. Berlin, Germany: Springer. Hershey D., R. (2004). Avoid Misconceptions When Teaching About Plants. American Institute of Biological Sciences. Kwen B., H. (2005). Teachers’ misconceptions of biological science concepts as revealed in science examination papers. Australian Association for Research in Education Conference, Parramatta, Australia. Pine K., D. Messer, and & K.St. John. (2001). Children's Misconceptions in Primary Science: A Survey of teachers' views. Research in Science & Technological Education. 19(1): 79-96. สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ภาคผนวก 347 คมู่ ือครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ คณะผ้จู ัดทำ� คณะที่ปรึกษา ลมิ ปจิ �ำนงค์ ผูอ้ �ำนวยการ สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี มุสกิ ุล รักษาการผู้ชว่ ยผอู้ ำ� นวยการ สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ศาสตรจารย์ ดร.ชูกิจ ดร.กศุ ลนิ คณะผจู้ ัดทำ� ค่มู ือครู เตมยี สถิต สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ถิรสริ ิ สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี นางชตุ ิมา คูอมรพัฒนะ สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นางสาววราภรณ ์ เหมะรตั สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี นางก่งิ แกว้ ชาลี สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี นางสาวดวงกมล แสงมงคลพิพัฒน ์ สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี นางสาวธนพรรณ ลายคราม สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี นางสาวสุนิสา จนั เลน สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี นางสาวกมลนารี หาญพิพัฒน์ สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดร.นพิ นธ์ สมสมยั สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ดร.เบ็ญจวรรณ ธัญญะคปุ ต์ สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี นางสาวสณุ ิสา บวั อิน สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ดร.ชลิตา ศรนี าราง สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ดร.เสาวลักษณ ์ บรบิ ูรณ์ สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นางสาววมิ ลมาศ คมุ้ โหมด สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี นางสาวกมลชนก ดำ� แก้ว สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี นายศภุ ณฐั นายจิรวัฒน์ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

348 ภาคผนวก คมู่ ือครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ คณะผ้พู ิจารณาคู่มือครู รองศาสตราจารย์ ดร.เทียนทอง ทองพันช่ัง คณะวิทยาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั มหิดล ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.เอกภมู ิ จันทรขนั ตี คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์ ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.อคั รนิ ทร ์ อินทนเิ วศน์ วิทยาลยั พลงั งานทดแทน มหาวทิ ยาลัยแมโ่ จ้ จ.เชยี งใหม่ ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.ชุมพล คณุ วาสี นักวิชาการอสิ ระ นายพงศกร จิวาภรณ์คุปต์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ ดร.อภิชาติ พยคั ฆนิ วิทยาลยั การฝกึ หดั ครู มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั พระนคร นางสาวจฑุ ารตั น์ จริงธนสาร โรงเรียนสตรีศรสี รุ ิโยทัย กรุงเทพมหานคร ดร.พริ ุณ ศิรศิ กั ดิ ์ โรงเรียนราชินีบน กรุงเทพมหานคร นางสาววรรณวีร ์ เหมือนประยูร โรงเรียนพระตำ� หนกั สวนกหุ ลาบ กรุงเทพมหานคร นางสาวกชพร อารชั กุล โรงเรยี นบดนิ ทรเดชา (สิงห์ สงิ หเสน)ี 2 กรงุ เทพมหานคร นางเฉลิมศรี จกั ษพุ า โรงเรยี นปากเกร็ด จังหวดั นนทบุรี นางทัศนภรณ์ แสงศรีเรอื ง โรงเรียนบา้ นโนนรังวิทยาคาร จังหวดั ขอนแก่น นางพชรมน นวลด ี โรงเรยี นหันคาพทิ ยาคม จังหวดั ชัยนาท นางออ่ นพกั ร์ หนูเงนิ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 2 จังหวดั กระบ่ี นางจิตตมิ า วฒั ราช โรงเรียนโคกสวา่ งคุ้มวิทยานุสรณ์ จงั หวัดอุบลราชธานี นายรงั สิมันต์ จันทรเ์ รอื ง โรงเรยี นวดั นำ�้ พุ จังหวดั สุพรรณบุรี นายธงไชย ภถู่ นนนอก โรงเรยี นหล่มเก่าพทิ ยาคม จงั หวัดเพชรบรู ณ์ นักวชิ าการอิสระ คณะบรรณาธกิ าร ศรสำ� ราญ มหาวทิ ยาลยั ทักษณิ ประสทิ ธ์พิ งศ ์ นกั วชิ าการอิสระ รศ.เรณู แตม้ บรรจง นักวชิ าการอสิ ระ ผศ.ดร.สิงหา ทองแถม นักวิชาการอิสระ ผศ.ดร.จินดา ธนะ หม่อมหลวงพิณทอง นางสาวบุศราศิร ิ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ภาคผนวก 349 คู่มอื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ คณะผู้ทดลองใช้ พ่ึงพทิ ยานนั ต ์ โรงเรียนหันคาพิทยาคม จังหวัดชัยนาท สุขรอด โรงเรียนศรสี ำ� โรงชนปู ถัมภ์ จงั หวดั สุโขทยั นางสาวรุ่งรัตน์ ปะรา โรงเรยี นป่าพะยอมพิทยาคม จังหวัดพัทลุง นางรวีวรรณ การประสพ โรงเรียนดอนจานวิทยาคม จงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ นายภานวุ ฒั น์ ศริ สิ ทุ ธ์ิ โรงเรียนชุมชนบา้ นตาหลังใน จงั หวัดสระแกว้ นางสาวณิชชา ต๊บิ กวาง โรงเรียนนำ�้ ดิบวทิ ยาคม จงั หวัดลำ� พูน นายปกรณเ์ กียรต ิ โฮนอก โรงเรยี นนครระยองวิทยาคม (วดั โขดใต)้ จังหวดั ระยอง นางสาวอมั พิกา หลงกาสา โรงเรียนอนบุ าลบางสะพานนอ้ ย จังหวดั ประจวบคีรีขันธุ์ นายวันเฉลิม จอ้ ยจำ� รสั โรงเรียนบีคอนเฮาสแ์ ย้มสอาดรงั สิต จังหวัดปทมุ ธานี นางสาวอังสนา นายกรี ต ิ คณะทำ� งานฝา่ ยเสริมวชิ าการ นางสาวรชั ดากรณ ์ สุนาวี สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี