เงินเดือน ผู้จัดการ ธนาคารกรุงเทพ

11 ก.พ. 2564 เวลา 21:30 น. 44.9k

จ๊อบส์ ดีบี  เผย 10 สายงานที่มีเงินเดือนมากสุดในระดับ “ผู้บริหาร”  กฎหมาย-อีคอมเมิร์ซ ครองแชมป์

นางสาวพรลัดดา เดชรัตน์วิบูลย์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จ๊อบส์ ดีบี ได้จัดทำรายงานอัตราเงินเดือนของพนักงานไทยประจำปี 2564 (Salary Report 2021) ใน 4 ระดับตำแหน่งงาน ประกอบด้วย ระดับเจ้าหน้าที่ (Officer Level) ระดับหัวหน้างาน (Supervisor Level) ระดับผู้จัดการ (Manager Level) ระดับผู้บริหาร (Top Level) โดยพบข้อมูลฐานเงินเดือนต่ำที่สุด-สูงที่สุดแบ่งตามประเภทงาน

โดย 10 สายงานที่มีเงินเดือนมากที่สุดในระดับผู้บริหาร (Top Level)  ได้แก่

1. สายงานบริการเฉพาะทาง มีเงินเดือน ระหว่าง 113,563 - 164,071 บาท

2. สายงานอีคอมเมิร์ซ มีเงินเดือนระหว่าง 113,271 - 161,588 บาท

3. สายงานธนาคาร  มีเงินเดือน ระหว่าง 112,917 - 165,114 บาท

4. สายงานวิทยาศาสตร์และงานวิจัยพัฒนา  มีเงินเดือน ระหว่าง 109,726 - 160,753 บาท

5. สายงานการผลิต มีเงินเดือนระหว่าง 109,566 - 161,045 บาท

6. สายงานบริการด้านการแพทย์ มีเงินเดือน ระหว่าง 106,630 - 158,478 บาท

7. สายงานไอที มีเงินเดือน ระหว่าง 105,135 - 160,033 บาท

8. สายงานบัญชี มีเงินเดือน ระหว่าง 104,978 - 159,970 บาท

9. สายงานธุรการและงานทรัพยากรบุคคล มีเงินเดือน ระหว่าง 104,714 - 156,134 บาท

ขณะที่ 10. สายงานวิศวกรรม  มีเงินเดือน ระหว่าง 102,298 - 153,763 บาท

10 สายงานที่มีเงินเดือนมากที่สุดในระดับผู้จัดการ (Manager Level) ได้แก่

1. สายงานประกันภัย มีเงินเดือน ระหว่าง 55,762 - 90,716 บาท

2. สายงานไอที  มีเงินเดือน ระหว่าง 54,435 - 93,324 บาท

3. สายงานธนาคาร มีเงินเดือน ระหว่าง 52,993 - 94,481 บาท

4. สายงานโทรคมนาคม มีเงินเดือน ระหว่าง 52,353 - 94,607 บาท

5. สายงานบริการเฉพาะทาง มีเงินเดือน ระหว่าง 52,274 - 90,941 บาท

6. สายงานบัญชี มีเงินเดือน ระหว่าง 52,061 - 86,158 บาท

7. สายงานธุรการและงานทรัพยากรบุคคล มีเงินเดือน ระหว่าง 51,803 - 85,079 บาท

8. สายงานวิทยาศาสตร์และงานวิจัยพัฒนา มีเงินเดือน ระหว่าง 51,615 - 88,427 บาท

9. สายงานขนส่ง มีเงินเดือน ระหว่าง 51,302 - 80,680 บาท

10. สายงานวิศวกรรม มีเงินเดือน ระหว่าง 51,237 - 84,776 บาท

อย่างไรก็ดีในรายงานอัตราเงินเดือนข้างต้น พบว่า กลุ่มงานสายงานไอที-ดิจิทัล ทุกระดับงานไต่อันดับขึ้นเมื่อเทียบกับผลการสำรวจประจำปี 62 โดยเฉพาะในระดับเจ้าหน้าที่ (Officer Level) ที่ขึ้นแท่นอันดับ 1 จากอันดับ 3 อีกทั้งระดับหัวหน้างาน (Supervisor Level) และ ระดับผู้บริหาร (Top Level) ที่ติดโผสายงานหน้าใหม่ที่มีเงินเดือนสูง จากที่เคยอยู่ในอันดับ 13 และ 12 ตามลำดับ ในเวลาเพียงสองปี     

ตอกย้ำให้เห็นถึงความต้องการในการปฏิรูปที่เกิดจากการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Disruption) นอกจากนี้ยังมีอีกสองสายงานที่น่าจับตามอง ได้แก่ สายงานโทรคมนาคม ที่ขึ้นมาติดอันดับ 1 ใน 5 ในระดับเจ้าหน้าที่ (Officer Level) ระดับหัวหน้างาน (Supervisor Level) และ ระดับผู้จัดการ (Manager Level) สายงานธนาคาร ที่ปรับขึ้นมาติดอันดับ 1 ใน 10 ของรายงานในทุกระดับตำแหน่งงาน

สะท้อนให้เห็นถึงโอกาสการเติบโตของทั้งสองสายงานหลังการปฏิรูปที่เกิดจากการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Disruption) เห็นได้จาก ธนาคารต่าง ๆ ที่หันมาให้ความสำคัญกับ Digital Banking จนมียอดธุรกรรมออนไลน์เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว และปรับรูปแบบการให้บริการของธนาคารสู่ดิจิทัลเต็มตัว เป็นเหตุให้สายงานธนาคาร มีความต้องการใช้บุคคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญทางด้านไอที

การวิเคราะห์ข้อมูล การสร้างบริการใหม่ ๆ มาช่วยพัฒนาระบบ Digital Banking และ สายงานโทรคมนาคม ที่พบว่า ไม่ได้มีเพียงแค่องค์กรยักษ์ใหญ่ในสายงานเท่านั้นที่มีสถิติฐานเงินเดือนที่สูงขึ้น แต่ยังรวมถึง องค์กรขนาดกลางและเล็กที่มีการแข่งขันที่สูงขึ้น และมองหาบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้านไอทีมาช่วยพัฒนารากฐานระบบต่าง ๆ ขององค์กรเพื่อให้พร้อมต่อการประยุกต์ใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีในภาคเศรษฐกิจ ประกอบกับ สถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบัน ที่สร้างปรากฏการณ์นิวนอร์มอล (New Normal) ทำให้หลายองค์กรต้องหันมาปรับตัวพึ่งพาแพลตฟอร์มดิจิทัลต่าง ๆ มากขึ้นอีกด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เช็คเลย 10 สายงานที่ตลาดต้องการมากสุดปี 64

กางโผ 4 อาชีพดาวรุ่งยุค"โควิด"พ่นพิษ

เงินเดือนในไทยปี64 ยังเพิ่มขึ้น แม้มีโควิด-19

ซีอีโอใหม่ jobsDB รับลูก ตลาดแรงงานฟื้น

“จ๊อบส์ ดีบี” เผยครึ่งปีหลังผู้ประกอบการ 88% เตรียมจ้างงานกลับ    

​​​ค่าตอบแทนกรรมการและผู้บริหาร

ค่าตอบแทนของกรรมการ

ธนาคารได้กำหนดนโยบายค่าตอบแทนกรรมการไว้อย่างชัดเจนและโปร่งใส มีคณะกรรมการทรัพยากรบุคคลและกำหนดอัตราค่าตอบแทนทำหน้าที่ทบทวน โดยพิจารณาถึงความเหมาะสมและสอดคล้องกับขอบเขตหน้าที่ความรับผิดชอบและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง กลยุทธ์และเป้าหมายระยะยาว และเทียบเคียงกับอัตราค่าตอบแทนกรรมการในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่อยู่ในระดับเดียวกัน

ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 109 เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2564 ได้อนุมัติอัตราค่าตอบแทนกรรมการและเงินบำเหน็จ โดยให้มีผลใช้บังคับไปจนกว่าที่ประชุมผู้ถือหุ้นจะกำหนดเป็นอย่างอื่น ซึ่งกรรมการที่ได้รับมอบหมายให้เป็นกรรมการในคณะกรรมการชุดย่อยได้รับค่าตอบแทนเพิ่มตามปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น ยกเว้นกรรมการที่เป็นผู้บริหารและผู้บริหารจะไม่ได้รับค่าตอบแทนจากการเป็นกรรมการชุดย่อย สรุปดังนี้

  1. ค่าตอบแทนกรรมการสำหรับการประชุมคณะกรรมการ

    • ประธานกรรมการ 250,000 บาทต่อเดือน
    • รองประธานกรรมการ 200,000 บาทต่อเดือน
    • กรรมการ 150,000 บาทต่อคนต่อเดือน
  2. ค่าตอบแทนกรรมการอิสระ

    • ประธาน 100,000 บาทต่อเดือน
    • กรรมการ 70,000 บาทต่อคนต่อเดือน
  3. ค่าตอบแทนกรรมการชุดย่อย

    1. คณะกรรมการตรวจสอบ

      • ประธาน 90,000 บาทต่อเดือน
      • กรรมการ 60,000 บาทต่อคนต่อเดือน
    2. คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการ

      • ประธาน 50,000 บาทต่อเดือน
      • กรรมการ 36,000 บาทต่อคนต่อเดือน
    3. คณะกรรมการทรัพยากรบุคคลและกำหนดอัตราค่าตอบแทน

      • ประธาน 50,000 บาทต่อเดือน
      • กรรมการ 36,000 บาทต่อคนต่อเดือน
    4. คณะกรรมการกำกับความเสี่ยง

      • ประธาน 50,000 บาทต่อเดือน
      • กรรมการ 36,000 บาทต่อคนต่อเดือน
  4. ค่าตอบแทนที่ปรึกษากฎหมาย 300,000 บาทต่อเดือน

  5. เงินบำเหน็จคณะกรรมการ ในอัตราร้อยละ 0.5 ของเงินปันผล

รายละเอียดค่าตอบแทนของกรรมการ ในรอบปี 2564 ประกอบด้วย

  1. ค่าตอบแทนที่เป็นตัวเงิน

    คณะกรรมการธนาคารได้รับค่าตอบแทนในฐานะกรรมการ กรรมการอิสระ กรรมการตรวจสอบ กรรมการกำกับดูแลกิจการ กรรมการทรัพยากรบุคคลและกำหนดอัตราค่าตอบแทน กรรมการกำกับความเสี่ยง ที่ปรึกษากฎหมายของธนาคาร รวมถึงเงินบำเหน็จในอัตราร้อยละ 0.5 ของเงินปันผล รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 91,357,913.89 บาท

  2. ค่าตอบแทนอื่น

    ไม่มี


ค่าตอบแทนของผู้บริหาร

คณะกรรมการทรัพยากรบุคคลและกำหนดอัตราค่าตอบแทนเป็นผู้พิจารณาและนำเสนอค่าตอบแทนของผู้บริหารที่เหมาะสมต่อคณะกรรมการธนาคาร เพื่อพิจารณาอนุมัติค่าตอบแทนตามนโยบายของธนาคาร โดยค่าตอบแทนของผู้บริหารรวมถึงค่าตอบแทนของประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการเชื่อมโยงกับผลการดำเนินงานของธนาคารทั้งในระยะสั้นและระยะยาวที่สะท้อนการเป็นธนาคารแห่งความยั่งยืน และสอดคล้องกับผลการปฏิบัติงานของผู้บริหารแต่ละคน โดยผ่านตัววัดที่กำหนดในบาลานซ์สกอร์การ์ด (Balanced Scorecard) 4 ด้าน ได้แก่ ด้านการเงิน ด้านลูกค้า ด้านการพัฒนากระบวนการทำงานและการบริหารความเสี่ยง และด้านการพัฒนาบุคลากร และตัววัดในการเป็นธนาคารแห่งความยั่งยืน ได้แก่ ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม และด้านสิ่งแวดล้อม เช่น กำไรสุทธิต่อสินทรัพย์ กำไรสุทธิต่อส่วนของเจ้าของ ผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ การเติบโตของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่นๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ การเติบโตของเงินให้สินเชื่อ ความพึงพอใจของลูกค้า การเติบโตของเงินสินเชื่อเพื่อสิ่งแวดล้อม การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ความพึงพอใจของพนักงาน ฯลฯ รวมถึงผลการดำเนินงานเมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานของบริษัทที่อยู่ในระดับเดียวกันในทุกมิติ เช่น ผลตอบแทนผู้ถือหุ้นโดยรวม การจัดอันดับในบริการธนาคารดิจิทัลแพลตฟอร์มที่ต้องการมากที่สุด การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาว ฯลฯ เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืนภายใต้หลักเกณฑ์ที่โปร่งใส และขอบเขตความรับผิดชอบของตำแหน่งงานซึ่งสะท้อนความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนความสามารถในการแข่งขันของธนาคารเมื่อเปรียบเทียบกับสถาบันการเงินชั้นนำในประเทศไทย

รายละเอียดค่าตอบแทนของผู้บริหาร ในรอบปี 2564 ประกอบด้วย

  1. ค่าตอบแทนที่เป็นตัวเงิน

    ผู้บริหารระดับผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการหรือเทียบเท่าขึ้นไป รวมทั้งสิ้น 96 คน (รวมผู้บริหารที่ลาออกระหว่างปี 6 คน) ได้รับค่าตอบแทนในรูปของเงินเดือน ค่าครองชีพ เงินบำเหน็จพิเศษ และโบนัส รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 1,016,006,004 บาท ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับรองกรรมการผู้จัดการอาวุโสหรือเทียบเท่าขึ้นไป รวมทั้งสิ้น 11 คน (รวมผู้บริหารที่ลาออกระหว่างปี 1 คน) ได้รับค่าตอบแทนในรูปของเงินเดือน ค่าครองชีพ เงินบำเหน็จพิเศษ และโบนัส รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 267,925,013 บาท

  2. ค่าตอบแทนอื่น

    ผู้บริหารระดับผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการหรือเทียบเท่าขึ้นไป รวมทั้งสิ้น 96 คน (รวมผู้บริหารที่ลาออกระหว่างปี 6 คน) ได้รับเงินสมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในส่วนของธนาคาร รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 31,374,500 บาท ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับรองกรรมการผู้จัดการอาวุโสหรือเทียบเท่าขึ้นไป รวมทั้งสิ้น 11 คน (รวมผู้บริหารที่ลาออกระหว่างปี 1 คน) ได้รับเงินสมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในส่วนของธนาคาร รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 7,555,339 บาท นอกจากนี้ ผู้บริหารของธนาคารได้รับผลประโยชน์และสวัสดิการอื่นๆ ตามระเบียบของธนาคารเช่นเดียวกับพนักงาน เช่น สิทธิประโยชน์เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล การตรวจสุขภาพ สวัสดิการเงินกู้ประเภทต่างๆ ทั้งนี้ สัดส่วนค่าตอบแทนผู้บริหารระดับรองกรรมการผู้จัดการอาวุโสหรือเทียบเท่าขึ้นไปต่อค่าตอบแทนของพนักงานทั้งหมด คิดเป็นร้อยละ 1.21

​​

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาไทย โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv Terjemahan แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip lmyour แปลภาษา ไทยแปลอังกฤษ ประโยค แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษาอาหรับ-ไทย Bahasa Thailand app แปลภาษาไทยเป็นเวียดนาม พจนานุกรมศัพท์ทหาร ยศทหารบก ภาษาอังกฤษ สหกรณ์ออมทรัพย์กรมส่งเสริมการปกครอง ส่วนท้องถิ่น แปลภาษาเวียดนามเป็นไทยทั้งประโยค กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมีทั้งหมดกี่ภาค มัจจุราชไร้เงา 1 mono29 มัจจุราชไร้เงา 1 pantip มัจจุราชไร้เงา 3 pantip รายชื่อวิทยานิพนธ์ นิติศาสตร์ 2563 ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง แปลภาษาอิสลามเป็นไทย ่้แปลภาษา Google Drive กรมการปกครอง กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย คะแนน o-net โรงเรียน ที่อยู่สมุทรปราการ ภาษาอังกฤษ ประปาไม่ไหล วันนี้ มหาวิทยาลัยรามคําแหง เปิดรับสมัคร 2566 มัจจุราชไร้เงา 2 facebook ราคาปาเจโร่มือสอง สถาบันพัฒนาบุคลากรท้องถิ่น หนังสือราชการ ส ถ หยน ห่อหมกฮวกไปฝากป้า คาราโอเกะ อาจารย์ ตจต Google Form Info arifureta shokugyou de sekai saikyou manga online legendary moonlight sculptor www.niets.or.th ประกาศผลสอบ การบริหารทรัพยากรมนุษย์ มีอะไรบ้าง ข้อสอบภาษาอังกฤษ พร้อมเฉลย pdf