โรคเบาหวาน คือโรคที่เกิดจากความผิดปกติของตับอ่อนซึ่งไม่สามารถหลั่งอินซูลิน เพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือดได้
โรคเบาหวานมี 2 ชนิดคือ
- โรคเบาหวานชนิดที่ 1 เบาหวานชนิดที่พึ่งพาอินซูลินส่วนมากเกิดในเด็ก
- โรคเบาหวานชนิดที่ 2 ไม่ต้องพึ่งพาอินซูลิน เกิดจากกรรมพันธุ์ ความอ้วน โดยเฉพาะอ้วนลงพุงจากพฤติกรรมการกิน และสาเหตุอื่นๆ
รู้ได้อย่างไรว่าเป็นโรคเบาหวาน
- มีอาการกินจุ หิวน้ำบ่อย ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะเวลากลางคืน อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ผู้หญิงมักมีอาการคันบริเวณช่องคลอดหรือขาหนีบ
- โดยการตรวจเลือด (หลังอดอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมง) สูงเกิน 126 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
กินอย่างไร ห่างไกลโรคเบาหวาน
กินอาหารให้ครบ 5 หมู่และหลากหลาย ตามโภชนาการ
- ปฏิบัติตามโภชนบัญญัติ 9 ประการ
- หลีกเลี่ยงอาหาร ที่มีรสเค็ม
- หลีกเลี่ยงอาหารมันๆ หวานๆ
- ออกกำลังกายสัปดาห์ละ 3 ครั้งๆ ละ 30 นาที
การเลือกอาหารเพื่อควบคุมเบาหวาน
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
- ขนมหวานทุกชนิด เพราะปรุงจากแป้ง น้ำตาล ไข่ เนยสด มาการีน กะทิ
- ทองหยิบ ทองหยอด ขนมที่มีกะทิเป็นส่วนประกอบไอศกรีม เบเกอรี่ต่างๆ เช่น เค้ก คุกกี้
- อาหารทอด อาหารมัน เช่น ปาท่องโก๋ กล้วยแขกทอด ถั่วลิสงทอด อาหารชุบแป้งทอด แกงกะทิ ข้าวเกรียบทอด มันฝรั่งทอด เมล็ดมะม่วงหิมพานต์อบ
- น้ำหวาน น้ำอัดลม น้ำผลไม้ผสมน้ำตาล เครื่องดื่มชูกำลัง เครื่องดื่มแอลกฮอล์
- นมรสหวาน เช่น นมเปรี้ยว นมปรุงแต่งรสต่างๆ ไมโลชนิด UHT โอวัลตินชนิด UHT นมข้นหวาน ยาคูลย์ นมถั่วเหลือง รสหวาน
- ผลไม้รสหวานจัด เช่น ลำไย ลิ้นจี่ ทุเรียน น้อยหน่า ละมุด ขนุน อ้อย
- ผลไม้เชื่อม กวน ดอง แช่อิ่ม ตากแห้ง อบน้ำผึ้ง รวมทั้งผลไม้กระป๋อง
- อาหารหมักดอง อาหารตากแห้ง อาหารรสเค็มจัด อาหารบรรจุกระป๋องหรือถุง เช่น เต้าเจี้ยว เต้าหู้ยี้ ปลาร้า ผักดอง
อาหารที่รับประทานได้ แต่จำกัดปริมาณ
- กลุ่มนม ควรทาน นมรสจืด นมพร่องมันเนย นมขาดมันเนย นมถั่วเหลือง สูตรไม่มีน้ำตาล ปริมาณที่เหมาะสม 1-2 แก้ว/วัน(ปริมาณ 250 ซี ซี)
- กลุ่มข้าว แป้ง และธัญพืช ควรทาน ข้าวกล้อง ธัญพืชไม่ขัดสี ขนมปังโฮลวีท ปริมาณที่ เหมาะสม 8-9 ทัพพี/วัน
- กลุ่มเนื้อสัตว์ชนิดต่างๆ ควรทาน เนื้อปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไม่ติดหนัง ไข่โดยเฉพาะไข่ขาว ปริมาณที่เหมาะสม 12 ช้อนทานข้าว/วัน (ไข่ทั้งฟอง สามารถทานได้ ในผู้มีโคเลสเตอรอลใน เลือดไม่สูง โดยทานได้ 2-3 ฟอง/วัน)
- กลุ่มผลไม้ ควรทานผลไม้สด รสไม่หวานจัด เช่น ฝรั่ง มะละกอ แอ๊ปเปิ้ล ส้มเขียวหวาน ส้มโอ ชมพู่ เป็นต้น ปริมาณที่เหมาะสม 3-4 ส่วน/วัน (1 ส่วนผลไม้ เท่ากับ 6-8 ชิ้นคำ)
- กลุ่มไขมัน ควรทาน น้ำมันรำข้าว น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันข้าวโพด หลีกเลี่ยง น้ำมันจากสัตว์ น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว กะทิ ครีมเทียม ปริมาณที่เหมาะสม 6-7 ช้อนชา/วัน
- กลุ่มน้ำตาล เกลือ เครื่องปรุงรส ควรทาน โดยหลีกเลี่ยงการเติมน้ำตาล เกลือ และเครื่อง ปรุงรสมากเกินความจำเป็น สำหรับผู้ที่ติดหวานอาจใช้น้ำตาลเทียมให้ความหวานแทน น้ำตาลทรายได้
อาหารที่รับประทานได้ ไม่จำกัดปริมาณ
กลุ่มพืชผักชนิดต่างๆ เนื่องจากกลุ่มผักให้สารประเภทแป้งน้ำตาลน้อยและมีเส้นใยสูง ช่วยในการขัดขวางการดูดซึมของน้ำตาลและไขมัน ควรทานผักใบเขียวชนิดต่างๆ เช่น ผักบุ้ง ผักคะน้า ผักตระกลูผักกาด แตงกวา กะหล่ำปลี ดอกกะหล่ำมะระ ผักตระกลูถั่ว มะเขือเทศ มะเขือยาว เป็นต้น ปริมาณที่เหมาะสม 4-6 ทัพพี/วัน
โรงพยาบาลธนบุรี
แผนกโภชนาการ โทร. 0-2412-0020 ต่อ 2180-1
โรคเบาหวาน คือ ภาวะที่ร่างกายผลิต อินซูลิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนทำหน้าที่รักษาระดับน้ำตาลในเลือดได้น้อยหรือไม่ได้เลย ทำให้เมื่อเรากินอาหารเข้าไปแล้ว ร่างกายไม่สามารถนำอาหารนั้นไปใช้ได้อย่างเหมาะสม จนทำให้มีน้ำตาลอยู่ในกระแสเลือด หากปล่อยไว้นานก็จะทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่ออวัยวะต่างๆ เช่น ตา ไต หรือระบบประสาท
โรคเบาหวานเป็นโรคที่ถ่ายทอดได้ทางพันธุกรรม หากที่บ้านของคุณมีผู้ป่วยเบาหวาน การดูแลคนในครอบครัวเป็นเรื่องที่ควรระวังและคอยติดตามผลเป็นพิเศษ ควรใช้ เครื่องวัดน้ำตาล ตรวจเบาหวานเป็นประจำเพื่อให้ไม่พลาด
ควบคุมอาหาร
การดูแลผู้ป่วยเบาหวานที่สำคัญมาก คือ การเลือกอาหารที่ดีให้กับผู้ป่วย โดยขอแนะนำดังนี้
- เลือกอาหารที่มีพลังงานต่ำ มีใยอาหารสูง
- เลือกผลไม้ไม่หวานจัด เช่น กล้วย ฝรั่ง ผัก ธัญพืชเต็มเมล็ด ขนมปังโฮลวีท นมพร่องมันเนย โดยให้กินแทนขนมวันละ 2-3 ครั้ง
- ดื่มน้ำเปล่าแทนน้ำผลไม้ หรือน้ำอัดลม
- ใช้น้ำมันถั่วเหลืองหรือน้ำมันรำข้าวปรุงอาหาร
- ใช้น้ำตาลเทียมแทนน้ำตาล
- เลี่ยงอาหารใส่กะทิ อาหารทอด ขนมอบ
- ให้ผู้ป่วยกินอาหารรสอ่อน
ดูแลเท้าของผู้ป่วย
เท้าเป็นอวัยวะที่ผู้ป่วยเบาหวานต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพราะหากเส้นเลือดส่วนปลายที่มาเลี้ยงขาและเท้าตีบ ก็อาจทำให้เกิดบาดแผลหายยาก และอาจรุนแรงถึงขั้นต้องตัดเท้า
- อย่าให้ผู้ป่วยเบาหวานเดินเท้าเปล่าในบ้านหรือนอกบ้านเพื่อเลี่ยงอุบัติเหตุ
- ตัดเล็บเท้าตรงๆ แทนการตัดโค้งๆ และอย่าตัดลึกจนโดนเนื้อ
- เลือกรองเท้าที่พอดีให้ผู้ป่วย โดยเลือกที่ไม่คับเกินไป อาจเป็นรองเท้าหน้ากว้าง และหลีกเลี่ยงรองเท้าส้นสูง
- ให้ผู้ป่วยสวมถุงเท้าหรือถุงน่อง ลดการเสียดสีของเท้ากับรองเท้า
- ตรวจเท้าผู้ป่วยทุกวันว่า มีบาดแผล หรือจุดบวมแดงไหม หากมีแล้วแผลไม่หายได้เอง ให้รีบไปพบแพทย์
ดูแลช่องปากให้สะอาดเสมอ
ผู้ป่วยเป็นเบาหวานมักมีปัญหาเกี่ยวกับช่องปาก และเป็นโรคเหงือกอักเสบได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคุมระดับน้ำตาลไม่ดี มักจะทำให้ปากแห้ง เกิดฟันผุ แผลในช่องปาก อาการป่วยต่างๆ ตามมา
- ให้ผู้ป่วยแปรงฟันวันละอย่างน้อย 2 ครั้ง
- ใช้ไหมขัดฟันอย่างถูกวิธี
- ดื่มน้ำเปล่าสะอาดวันละอย่างน้อย 6 แก้ว
- พาผู้ป่วยไปพบทันตแพทย์ทุกๆ 6 เดือน
ออกกำลังกายสู้เบาหวาน
มีการวิจัยที่เชื่อถือได้ออกมาแล้วว่า การออกกำลังกายในผู้ป่วยเบาหวาน สามารถช่วยเพิ่มการทำงานของอินซูลินที่มีอยู่ในร่างกายได้ เพราะฉะนั้น การพาผู้ป่วยเบาหวานไปออกกำลังกายบ้าง จึงเป็นอีกวิธีที่อยากแนะนำ
ขั้นตอนการออกกำลังกายสำหรับคนเป็นเบาหวาน
- ปรึกษาคุณหมอ เพื่อจัดโปรแกรมการออกกำลังกายที่เหมาะสม
- ออกกำลังกายหลังกินอาหารมื้อหลักไปแล้ว1-2 ชั่วโมง
- ควรควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้สูงเกินไปก่อนการออกกำลังกาย โดยผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 1 ระดับน้ำตาลไม่ควรเกิน 250 มิลลิกรัม/เดซิลิตร และผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ระดับน้ำตาลไม่ควรเกิน 300 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
- ใส่รองเท้าที่เหมาะกับการออกกำลังกาย รวมทั้งตรวจดูเท้า ก่อนและหลัง การออกกำลังกายทุกครั้ง
- ออกกำลังกายสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก
ศึกษาข้อมูลเรื่องโรคเบาหวาน
ผู้ป่วยเบาหวานและคนรอบข้างก็ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับโรคเบาหวานเพื่อดูแลผู้ป่วย และควรปฏิบัติตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยขอแนะนำดังนี้
- กินยาสม่ำเสมอตามคำสั่งแพทย์ แม้ว่าผู้ป่วยจะรู้สึกสบายดีหรือไม่ก็ตาม
- ไม่สูบบุหรี่และไม่ดื่มสุรา
- ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดเองที่บ้าน และจดบันทึกไว้ เพื่อนำไปแสดงให้แพทย์ดูในนัดครั้งต่อไป
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- ไปพบแพทย์ตามนัดเสมอ
ข้อควรระวังสำหรับการออกกำลังกายในผู้ป่วยเบาหวาน
- หากเป็นเบาหวานที่ยังควบคุมไม่ได้ควรงดออกกำลังกายก่อน
- ไม่ควรออกกำลังกาย หากมีความดันโลหิตสูงเกิน 200/100 มม.ปรอท ขณะพัก
- ไม่ควรออกกำลังกาย หากผู้ป่วยมีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะและยังควบคุมไม่ได้
- ไม่ควรออกกำลังกาย หากผู้ป่วยมีอาการเจ็บหน้าอก
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่มีแรงกระแทก
บทความสุขภาพ
- วิธีจัดบ้าน สำหรับการพักฟื้นของผู้ป่วยและผู้สูงอายุ
- วิธีดูแลคนในครอบครัวที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน
- วิธีเตรียมตัวเอง รับมือสังคมผู้สูงอายุ
ขอรับคำปรึกษาจากเภสัชกร หรือหาซื้อผลิตภัณฑ์ได้ที่ร้านสาขาที่ ฟาสซิโนใกล้บ้าน (คลิ๊ก)
สอบถามทีมงานผ่านช่องทางต่างๆ ได้ที่ Facebook / Line