การรักษาภาวะประสาทหูเสื่อมเฉียบพลัน (Idiopathic Sudden Sensorineural Hearing Loss : ISSNHL) ร่วมกับการรักษาด้วยออกซิเจนแรงดันสูง (Hyperbaric Oxygen
Therapy : HBOT) ออกซิเจนแรงดันสูงจะช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนที่หูชั้นใน ช่วยลดความเสื่อมของเซลล์ประสาทหูที่ขาดออกซิเจนและขาดเลือดไปเลี้ยง ผู้ป่วยต้องได้รับการรักษาหลัก
จากแพทย์หูคอจมูกเสียก่อน โดยการให้ยา สเตียรอยด์ เพื่อลดการอักเสบของประสาทหูชนิดรับประทาน และการฉีดยาสเตียรอยด์ผ่านเยื่อแก้วหูเข้าไปในหูชั้นกลางอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้อาจให้ยาขยายหลอดเลือดเพื่อให้เลือดไปเลี้ยงหูชั้นในมากขึ้น ในปี 2563 มีผู้ป่วย ISSNHL ส่งต่อจากแผนกหูคอจมูก มาเข้ารับการรักษาด้วย HBOT จ้านวน 10 ราย จากการ
ประเมินการได้ยินและผลการตรวจ Audiogram พบว่า หายเป็นปกติ 3 ราย (Onset ไม่เกิน 7 วัน ) อาการดีขึ้น 6 ราย (Onset 15 วันขึ้นไป) อาการคงเดิม 1 ราย กระบวนการดูแล ตรวจคัด
กรองโดยแพทย์ ให้ความรู้เกี่ยวกับโรค ค้าแนะน้าการปฏิบัติตัวขณะรักษา การดูแลผู้ป่วยขณะรักษา สังเกตอาการผิดปกติ แนะน้ารักษาด้วย HBOT ต่อเนื่องตามแผนรักษาของแพทย์ และให้
ความรู้การปฏิบัติตัวหลังจำหน่าย
Views: 2,505
Vachira Phuket2021-01-26T15:12:23+07:0026 มกราคม 2021|เวชศาสตร์ใต้น้ำ|
Share This Story, Choose Your Platform!
FacebookTwitterLinkedInRedditWhatsAppTumblrPinterestVkXingEmail
Related Posts
ผลลัพธ์ทางการรักษาGallery
ผลลัพธ์ทางการรักษา
26 มกราคม 2021
กระดูกและเนื้อเยื่อตายจากรังสีรักษา osteoradionecrosis : ORNGallery
กระดูกและเนื้อเยื่อตายจากรังสีรักษา osteoradionecrosis : ORN
26 มกราคม 2021
ขั้นตอนการดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินโรคจากการดำน้ำ ( Decompression sickness: DCS)Gallery
ขั้นตอนการดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินโรคจากการดำน้ำ ( Decompression sickness: DCS)
24 มกราคม 2021
การจำแนกประเภทผู้ป่วย งานเวชศาสตร์ใต้น้ำGallery
การจำแนกประเภทผู้ป่วย งานเวชศาสตร์ใต้น้ำ
24 มกราคม 2021
รศ.พญ.สุวิชา แก้วศิริ
รหัสเอกสาร PI-IMC-037-R-00
อนุมัติวันที่ 16 กรกฎาคม 2561
โรคประสาทหูเสื่อมเฉียบพลัน (Sudden Sensorineural Hearing Loss)
หมายถึง การเสื่อมของหูชั้นในข้างเดียวหรือสองข้างอย่างรวดเร็วภายในช่วงเวลาเป็นนาที ชั่วโมงหรือวัน โดยมีผลตรวจการได้ยินของหูข้างเดียวหรือสองข้างอยู่ที่ระดับ 30 เดซิเบลขึ้นไป ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น มีเสียงดังรบกวนในหู เวียนศีรษะหมุน อาเจียน หรือเซ เสียการทรงตัว โรคนี้ถือเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์
สาเหตุ
ส่วนใหญ่ยังไม่ทราบสาเหตุชัดเจน แต่มีหลักฐานว่าอาจเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อไวรัสบางชนิด หรือการเสื่อมของหลอดเลือดที่มาเลี้ยงหูชั้นใน มีส่วนน้อยที่ทราบสาเหตุ ได้แก่ สาเหตุจากการกระแทกที่ศีรษะ การติดเชื้อซิฟิลิส เนื้องอกของประสาทหู ฯลฯ การซักประวัติ การตรวจร่างกายอย่างละเอียด การตรวจการได้ยิน และการตรวจพิเศษเพิ่มเติม ทำให้พบสาเหตุได้ 10-30 %
การดูแลรักษา
ยาที่ใช้รักษาโรคประสาทหูเสื่อมเฉียบพลันมีหลายชนิด ตัวอย่างเช่น
- ยาสเตียรอยด์ (Prednisolone) เป็นยาที่มีประโยชน์ในการช่วยลดอาการอักเสบของหูชั้นในและเส้นประสาทหู โดยสามารถให้ในรูปแบบรับประทานหรือแบบฉีดเข้าหูชั้นกลาง ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาตามความเหมาะสม และยานี้จะมีประโยชน์เมื่อผู้ป่วยมาพบแพทย์ภายใน 4 สัปดาห์หลังจากที่เริ่มมีอาการ อย่างไรก็ตามยาแบบรับประทาน อาจทำให้ระคายกระเพาะอาหาร แพทย์จึงมักสั่งให้กินพร้อมยาลดกรด
- ยาวิตามินบี 1-6-12 บำรุงประสาท
- ยาขยายหลอดเลือด (Betahistine) / ยาเพิ่มการใช้ออกซิเจนที่หูชั้นใน (Almitrine/Raubasine)
ผู้ป่วยควรได้รับการตรวจพิเศษเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุของประสาทหูเสื่อม เช่น การเจาะเลือดเพื่อตรวจระดับเม็ดเลือด น้ำตาล ไขมัน โรคซิฟิลิส เป็นต้น นอกจากนี้ผู้ป่วยจะได้รับการตรวจการได้ยินเป็นระยะเพื่อดูการฟื้นตัวของประสาทหู หากผลตรวจการได้ยินหลังหนึ่งเดือนยังไม่ฟื้นเป็นปกติ แพทย์อาจนัดตรวจพิเศษ เช่น การตรวจการได้ยินระดับก้านสมอง (ABR) , การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) หรือคลื่นสนามแม่เหล็ก (MRI) ของประสาทหูเพื่อดูว่ามีเนื้องอกเส้นประสาทหูหรือไม่
การพยากรณ์โรค
ประมาณครึ่งของผู้ป่วย การได้ยินจะดีขึ้นภายใน 1-3 เดือน หลังหูเสื่อม โดยโอกาสฟื้นตัวของโรคประสาทหูเสื่อมเฉียบพลันจะลดลงหากผู้ป่วยมีประสาทหูเสื่อมมาก / หูหนวก / มีอาการเวียนหมุน , มีโรคประจำตัว (ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันสูง ฯลฯ) หรือมาพบแพทย์ช้าเกินไป
การป้องกันและการฟื้นฟูประสาทหู
ควรหลีกเลี่ยงการติดเชื้อหวัด รักษาและควบคุมสุขภาพทั่วไป หลีกเลี่ยงสิ่งที่จะรบกวนหรือทำลายหูชั้นใน เช่น การกระทบกระแทกที่ศีรษะ การอยู่ในที่มีเสียงดังมาก การใช้ยาที่อาจทำลายประสาทหู กรณีที่เกิดโรคกับหูทั้งสองข้างและการได้ยินไม่ดีขึ้นหลังการรักษา แพทย์อาจแนะนำให้ใช้เครื่องช่วยฟัง
เอกสารอ้างอิง
1. Arts HA.Differential diagnosis of sensorineural hearing loss.In : Cummings CW,FredericksonJM,HarkerLA,RichardsonMA,SchullerMA,eds.Otolaryngology, head and neck surgery ,3nd ed.Mosby CD online . Mosby ,Inc,1999; chap.148.
2. Snow JB,Telian SA.Sudden deafness . In:PaparellaMM,ShumrickDA,Gluckman JL, MayerhoffWL,eds.Otolaryngology,VOL II , Otology and neuro-otology,3 nded.Philadelphia : W.B.Saunders,1991:1619-28.
3. Huge GB,FreedmanMA,HaberkampTj,Guay ME.Sudden sensorineural hearing loss.Otolaryngol Chin North Am 1996;29:393-405.
4. พงศกร ตันติลีปิกร นิรมล นาวาเจริญ จรัล กังสนารักษ์ ศรีทนต์ บุญยานุกูล ประสาทหูเสื่อมเฉียบพลัน : รายงานผู้ป่วย 127 ราย. OtolaryngolHead Neck Surg(Thai) 1994;9:81-91.