Network มองไม่เห็นเครื่องอื่น windows 7

วันนี้จะมาแนะนำวิธีแก้ปัญหา Windows 10 แชร์ไฟล์ให้เครื่องคอมพิวเตอร์ในวงแลนที่เป็น Windows 7 แล้วเด้งรหัสผ่านตลอด แม้ว่าจะตั้งสิทธิ์ everyone แล้วก็ตาม ก็ยังมีหน้าต่างตาม password อยู่เหมือนเดิม และอีกกรณีก็คือกรอก User / Pass ถูกต้องแล้วก็ยังเข้าใช้งานไม่ได้ซะที

สำหรับโพสนี้จะแนะนำสำหรับคนที่ต้องการแชร์ให้เครื่องในวงแลนจำนวนผู้ใช้งานน้อยๆ และจะตั้งค่าแบบ everyone โดยให้เข้าใช้งานได้ทุกคน และไม่ให้ถามรหัสผ่าน สำหรับการแก้ไขปัญหานี้ จะแนะนำให้ตรวจสอบการตั้งค่าทีละอย่าง

1. ตรวจสอบการตั้งค่า Sharing ว่ากำหนดสิทธิ์ได้ถูกต้องไหม คลิกดูตัวอย่าง

2. ตรวจสอบในส่วนของ Network and Sharing ว่าได้ปิด password หรือยัง คลิกดูตัวอย่าง

3. กรณีตั้งแบบให้กรอก Username และ Password ก็ให้ตรวจสอบว่าถูกต้องไหม

4. เปิดใช้งาน smb v1.0 ในเครื่อง windows 10 ไว้แล้วหรือยัง เพราะเครื่อง Windows 7 จะรองรับ SMB v.1 เท่านั้น คลิกดูตัวอย่าง

หากครบทั้ง 4 ข้อนี้แล้วก็หวังว่าจะสามารถใช้งานกันได้แล้วนะครับ

หลังจาก Windows Update คอมพิวเตอร์ที่มีการแชร์ทรัพยากรร่วมกันบางเครื่อง อาจประสบปัญหา เข้าแชร์ Network (Windows cannot access) ขึ้น Error The Network path was not found Error code: 0x80070035 ดังภาพประกอบด้านบน ลองแก้ปัญหาทุกวิถีทางแล้วก็ยังไม่ได้ สามารถลองแก้ไขได้ด้วยวิธีต่อไปนี้

1. เข้าไปที่ RUN แล้วพิมพ์ regedit เพื่อเปิด Registry Editor
2. จากนั้น ไปที่ HKEY_LOCAL_MACHINE/ SYSTEM/CurrentControlSet/ Services/LanmanWorkstation/Parameters
3. หาไฟล์ที่มีชื่อว่า AllowInsecureGuestAuth หากพบไฟล์นี้ให้ เปลี่ยน value data เป็น 1 หากไม่พบไฟล์ดังกล่าวให้สร้างไฟล์แบบ DWORD32 ตั้งชื่อว่า AllowInsecureGuestAuth แล้วใส่ value data เป็น 1

โดย นายกุลางกูร พัฒนเมธาดา

ร่วมแสดงความคิดเห็น

เอกสารนี้ระบุข้อมูลเกี่ยวกับ PC ของ HP และ Compaq ที่ติดตั้ง Windows 7 โดยใช้เครือข่ายภายในต่อสาย (LAN)

ใช้ขั้นตอนในเอกสารนี้เพื่อแก้ไขปัญหาเครือข่ายต่อสายใน Windows 7 ทดสอบการเชื่อมต่อเครือข่ายหลังจากดำเนินขั้นตอนแต่ละขั้น หากไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ให้ทำตามขั้นตอนต่อไป

ขั้นตอนที่ 1: ตรวจสอบการเชื่อมต่อเครือข่ายตามรายการตรวจสอบเพื่อแก้ไขปัญหาเครือข่าย

ปัญหาการเชื่อมต่อเครือข่ายหลายอย่างเกิดจากปัญหากับสายสัญญาณหรือค่าไฟร์วอลล์ ใช้รายการตรวจสอบต่อไปนี้เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้กับเครือข่ายในบ้าน:

• ตรวจสอบสายสัญญาณและสายไฟทั้งหมดสำหรับระบบเครือข่าย สายต่อที่หลวมหรือหลุดจะทำให้เกิดปัญหาการเชื่อมต่อเครือข่ายหรือใช้งานอินเทอร์เน็ต ตรวจสอบการเชื่อมต่อต่อไปนี้

  • สายเครือข่ายจากโมเด็มไปฮับเครือข่าย (หรือเราเตอร์)

  • สายเครือข่ายจากฮับเครือข่ายไปพอร์ตเครือข่าย RJ-45 ที่คอมพิวเตอร์

    รูปภาพ : รูปทรงขั้วต่อ RJ-45

  • สายเครือข่ายระห่างคอมพิวเตอร์สองเครื่อง

• ตรวจสอบไฟที่ฮับเครือข่าย ไฟอาจแสดงตำแหน่งที่เกิดปัญหาการเชื่อมต่อได้

• หากคุณพยายามเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์อื่นในเครือข่าย ให้ตรวจสอบว่าคอมพิวเตอร์เปิดอยู่

• ตรวจสอบค่าไฟร์วอลล์สำหรับคอมพิวเตอร์ทั้งหมดในเครือข่าย ค่าไฟร์วอลล์อาจทำให้ไม่สามารถใช้งานเครือข่ายได้

หลังจากดำเนินการตามรายการตรวจสอบ ให้ลองทำการเชื่อมต่อเครือข่าย

หากไม่พบปัญหากับเครือข่าย แสดงว่าขั้นตอนเสร็จสิ้นแล้ว

หากยังพบปัญหากับเครือข่าย ให้ทำตามขั้นตอนถัดไปเพื่อใช้ Network and Sharing Center (เครือข่ายและศูนย์การแชร์ข้อมูล)

ขั้นตอนที่ 2: การใช้ Network and Sharing Center (เครือข่ายและศูนย์การแชร์ข้อมูล) ใน Windows 7

Network and Sharing Center (เครือข่ายและศูนย์การแชร์ข้อมูล) จะแสดงสถานะของเครือข่ายโดยคุณสามารถตั้งค่าการสืบค้นเครือข่ายและการแชร์ไฟล์ในเครือข่ายได้ตามต้องการ ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อใช้ Network and Sharing Center (เครือข่ายและศูนย์การแชร์ข้อมูล):

1. คลิก Start

   (เริ่ม) Control Panel (แผงควบคุม) จากนั้นคลิก Network and Internet (เครือข่ายและอินเทอร์เน็ต)

   รูปภาพ : Network and Internet (เครือข่ายและอินเทอร์เน็ต)

2. คลิก Network and Sharing Center (เครือข่ายและศูนย์การแชร์ข้อมูล)

3. ตรวจสอบสถานะเครือข่ายด้านบนของหน้าต่าง:

   • เส้นสีเขียวระหว่างชื่อคอมพิวเตอร์และชื่อเครือข่ายใช้แจ้งว่าการเชื่อมต่อกับเครือข่ายสัญญาณดีพอ

     รูปภาพ : การเชื่อมต่อเครือข่ายดีพอ

   • เส้นที่มี X สีแดงใช้ระบุว่าการเชื่อมต่อไม่ต่อเนื่องหรือขาดหาย

     รูปภาพ : การเชื่อมต่อไม่ต่อเนื่องหรือขาดหาย

   หากการเชื่อมต่อไม่ต่อเนื่องหรือขาดหาย คลิกที่ Connect to a network (เชื่อมต่อเครือข่าย) เพื่อพยายามเชื่อมต่อเครือข่าย

4. พื้นที่เครือข่ายแสดงการใช้งานและเชื่อมต่อเครือข่าย

   รูปภาพ : ส่วนแสดงเครือข่าย

5. เลือก Choose Homegroup and sharing options (เลือกโฮมกรุ๊ปและตัวเลือกในการแชร์)

6. จากหน้าต่างค่า Homegroup (โฮมกรุ๊ป) คลิก Change advanced sharing settings (เปลี่ยนค่าการแชร์ขั้นสูง)

   รูปภาพ : ค่า Homegroup (โฮมกรุ๊ป)

7. เปิดการสืบค้นเครือข่ายและการแชร์ไฟล์และเครื่องพิมพ์ ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเหมาะที่จะพิจารณาค่าปรับตั้งต่าง ๆ รวมทั้งเปิดหรือปิดค่าต่าง ๆ ตามความเหมาะสม

   รูปภาพ : Advanced sharing settings (ค่าการแชร์ขั้นสูง)

   บันทึก

   ค่าเหล่านี้จะต้องเปิดใช้ในคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องเพื่อแชร์ผ่านเครือข่าย เช่น หากปิดการแชร์ไฟล์ในคอมพิวเตอร์เครื่องใดในเครือข่าย คุณจะไม่สามารถสืบค้นไฟล์ในคอมพิวเตอร์เครื่องดังกล่าวผ่านเครือข่าย

   • Network discovery (การสืบค้นเครือข่าย): เปิดการสืบค้นเครือข่ายเพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถค้นหาคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่น ๆ ในเครือข่าย

   • File and printer sharing (การแชร์ไฟล์และเครืองพิมพ์): เปิดการแชร์ไฟล์เพื่อแชร์ไฟล์และโฟลเดอร์กับคอมพิวเตอร์อื่น ๆ ในเครือข่าย และเพื่อให้ผู้ใช้ในเครือข่ายสามารถเรียกใช้เครื่องพิมพ์ที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ ผู้ใช้เครือข่ายต้องทราบชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านของบัญชีผู้ใช้บนคอมพิวเตอร์เครื่องนี้เพื่อใช้งานเครื่องพิมพ์

   • Public folder sharing (การแชร์โฟลเดอร์สาธารณะ): เปิดแชร์โฟลเดอร์สาธารณะเพื่อให้คอมพิวเตอร์เครื่องอื่นสามารถเรียกค้นโฟลเดอร์สาธารณะในคอมพิวเตอร์ คุณสามารถเลือกให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์เครื่องอื่นในเครือข่ายสามารถเปิดไฟล์ เปิดและแก้ไขไฟล์ หรือปฏิเสธสิทธิ์เรียกค้นของผู้ใช้ในเครือข่ายได้ตามต้องการ

   • Media streaming (การสตรีมมีเดีย): เปิดการสตรีมสื่อมีเดียเพื่อให้ผู้ใช้ในเครือข่ายสามารถเรียกค้นเพลง ภาพและวิดีโอที่แชร์ในคอมพิวเตอร์เครื่องนี้

   • File sharing connections (การเชื่อมต่อเพื่อแชร์ไฟล์): Windows 7 ใช้การเข้ารหัส 128 บิตเพื่อป้องกันการเชื่อมต่อข้อมูลแชร์ อุปกรณ์บางตัวไม่รองรับการเข้ารหัส 128 บิต หากคุณใช้อุปกรณ์เหล่านี้ในเครือข่าย ให้เปลี่ยนค่าเพื่อเปิดใช้การเข้ารหัส 40 หรือ 50 บิต

   • Password protected sharing (การแชร์แบบป้องกันด้วยรหัสผ่าน): เปิดการแชร์แบบป้องกันด้วยรหัสผ่านเพื่อให้ผู้ใช้ในเครือข่ายกรอกชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านในบัญชีผู้ใช้ของคอมพิวเตอร์เครื่องนี้เพื่อเรียกค้นไฟล์ โฟลเดอร์และใช้งานเครื่องพิมพ์ผ่านเครือข่าย ปิดการแชร์แบบป้องกันด้วยรหัสผ่านเพื่อให้ทุกคนในเครือข่ายสามารถเรียกค้นคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ได้

   หลังจากกำหนดค่าใน Network and Sharing Center (เครือข่ายและศูนย์การแชร์ข้อมูล) และพยายามเชื่อมต่อกับเครือข่าย

   หากไม่พบปัญหาเครือข่ายอีกต่อไป แสดงว่าเสร็จสิ้นขั้นตอนแล้ว

   หากยังพบปัญหากับเครือข่าย ทำตามขั้นตอนถัดไปเพื่อใช้เครื่องมือวินิจฉัยและแก้ไขปัญหาของ Windows 7

ขั้นตอนที่ 3: การใช้เครื่องมือวินิจฉัยปัญหาและแก้ไขปัญหาของ Windows 7

Windows 7 มีชุดเครื่องมือและระบบแก้ไขปัญหาเครือข่ายจัดไว้ให้ ชุดเครื่องมือทั้งสองตัวนี้สามารถระบุปัญหาของเครือข่ายและแจ้งแนวทางแก้ไขปัญหาที่สามารถทำได้

การเรียกใช้ระบบวินิจฉัยปัญหาเครือข่ายของ Windows 7

Windows 7 จะตรวจสอบการเชื่อมต่อเครือข่ายและอินเทอร์เน็ต หากพบปัญหา Windows 7 จะแจ้งข้อความ no connection (ไม่มีการเชื่อมต่อ) หรือ limited connection (มีการเชื่อมต่ออย่างจำกัด) และแจ้งขออนุญาตจากคุณในการวินิจฉัยปัญหา คลิก OK (ตกลง) เพื่อให้ Windows 7 วินิจฉัยปัญหาและฟื้นฟูการเชื่อมต่อ

หากต้องการรันเครื่องมือวินิจฉัยด้วยตนเอง ใช้หนึ่งในตัวเลือกต่อไปนี้:

• ไม่มีข้อความแสดงข้อผิดพลาด แต่ไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต:

  คลิกขวาที่ไอคอน Network Connection (การเชื่อมต่อเครือข่าย)

  จากส่วนแจ้งเตือน แล้วคลิกที่ Troubleshoot problems (แก้ไขปัญหา) Windows Network Diagnostics ตรวจสอบปัญหา

  รูปภาพ : แก้ไขปัญหา

• ไอคอนการเชื่อมต่อเครือข่ายในพื้นที่แจ้งเตือนหายไป:

  1. คลิก Start

     (เริ่ม) จากนั้นพิมพ์ network and sharing (เครือข่ายและการแชร์ข้อมูล) ในช่องค้นหา คลิก Network and Sharing Center (เครือข่ายและศูนย์การแชร์้ข้อมูล) จากผลการค้นหา

     รูปภาพ : การเปิด Network and Sharing Center (เครือข่ายและศูนย์การแชร์ข้อมูล) จากเมนู Start (เริ่ม)

  2. จาก Network and Sharing Center (เครือข่ายและศูนย์การแชร์ข้อมูล) คลิกเครื่องหมายอัศเจรีย์สีเหลือง

     หรือเครื่องหมาย X สีแดง
     ในส่วนสถานะเครือข่ายเพื่อเรียกใช้ Windows Network Diagnostics

     รูปภาพ : สถานะเครือข่าย

ขั้นตอนที่ 4: ถอนการติดตั้งและติดตั้งซอฟต์แวร์อะแดปเตอร์เครือข่ายใน Windows 7 ใหม่

หากเครือข่ายยังมีปัญหา อาจมีปัญหากับอะแดปเตอร์เครือข่าย คุณสามารถตรวจสอบอะแดปเตอร์เครือข่ายที่ใช้ Network and Internet Troubleshooter ในขั้นตอนก่อนหน้า ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อถอนการติดตั้งและติดตั้งซอฟต์แวร์อะแดปเตอร์เครือข่ายใน Device Manager (ตัวจัดการอุปกรณ์) หรือ :

1. คลิก Start (เริ่ม)

   จากนั้นกรอก Device Manager (ตัวจัดการอุปกรณ์) ในฟิลด์ Search (ค้นหา) คลิกที่ Device Manager (ตัวจัดการอุปกรณ์)

   รูปภาพ : การเปิด Device Manager (ตัวจัดการอุปกรณ์)

2. ดับเบิลคลิกที่ Network adapters (อะแดปเตอร์เครือข่าย)

   รูปภาพ : Network adapters (อะแดปเตอร์เครือข่าย)

3. คลิกขวาที่ชื่อของอะแดปเตอร์เครือข่าย และเลือก Uninstall (ถอนการติดตั้ง)

4. จากหน้าต่าง Confirm Device Uninstall (ยืนยันการถอนการติดตั้งอุปกรณ์) คลิก OK (ตกลง)

5. หลังจากถอนการติดตั้งไดร์เวอร์อะแดปเตอร์เครือข่าย ให้รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์

6. หลังจากคอมพิวเตอร์เริ่มการทำงานใหม่และเสร็จสิ้นการติดตั้งซอฟต์แวร์ไดรเวอร์อุปกรณ์แล้ว ให้ลองเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต หากปัญหายังคงอยู่ ให้ทำตามขั้นตอนถัดไปเพื่ออัพเดตไดรเวอร์เครือข่าย

ขั้นตอนที่ 5: การอัพเดตไดร์เวอร์เครือข่าย

ค้นหาไดรเวอร์เครือข่ายสำหรับผลิตภัณฑ์ของคุณในเว็บไซต์ HP โดยใช้งานคอมพิวเตอร์เครื่องที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต หากมีไดรเวอร์ ให้ดาวน์โหลดและติดตั้งข้อมูลอัพเดตล่าสุดสำหรับฮาร์ดแวร์เครือข่ายของคุณ ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:

2. ถ้าคุณได้รับแจ้งให้ป้อนหมายเลขรุ่น ให้ระบุหมายเลขรุ่นของคุณ ตัวอย่างเช่น Pavilion p6230f หรือ TouchSmart 600-1050uk

3. เลือกเวอร์ชั่นของ Windows ที่คอมพิวเตอร์ของคุณใช้งานอยู่

4. คลิกที่ลิงค์ Driver - Network (ไดร์เวอร์ - เครือข่าย)

5. เลือกข้อมูลอัพเดตสำหรับไดรเวอร์เครือข่ายหรือโมเด็ม เช่น อัพเดตไดรเวอร์ Realtek RTL8139 LAN

6. ทำตามคำแนะนำในหน้าดาวน์โหลดเพื่อดาวน์โหลดและติดตั้งข้อมูลอัพเดต

7. เมื่อเสร็จสิ้น ให้เริ่มการทำงานของคอมพิวเตอร์ใหม่และเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอีกครั้ง