ผู้บริหาร | ผู้นำ | |
ทิศทางขององค์กร |
|
|
การจัดการองค์กร |
|
|
ความสัมพันธ์ |
|
|
คุณลักษณะ |
|
|
ผลลัพธ์ |
|
|
จาก ลักษณะบุคคลที่เป็น รูปแบบผู้บริหาร และ รูปแบบผู้นำ จะเห็นได้ว่า มีพฤติกรรมของบุคคลของคนที่ทำงาน อาจจะมีวิถีในการดำเนินชีวิตในการทำงาน มีทั้งสองแบบปะปนกัน จะมีส่วนไหนมากกว่ากันไม่สามารถกำหนดได้ จากนั้นเราลองมีสังเกตเพื่อนร่วมงานรอบข้างเป็นอย่างไรจะให้เราเข้าใจพฤติกรรมเพื่อนร่วมงานได้ดีขึ้น
ส่วนเรื่องผู้บังคับบัญชาจะต้องพิจารณาเอาเอง ถ้าเป็นแบบ ผู้บริหาร ลูกน้องทำงานขอแรงมากหน่อยและเสี่ยงต่อการถูกตำหนิ ถ้าเป็นแบบ ผู้นำ ลูกน้องก็ต้องออกแรงสมองมากหน่อย
แต่แนวความคิดในการทำงานจริง ไม่ว่า ลูกน้องหรือผู้บังคับบัญชาที่แท้จริง เพราะทุกคนต้องการดำรงชีวิตอย่างผู้ที่ประสบแต่ความประสบสำเร็จและมีความสุขในการดำรงชีวิต ทังสิ้น
ดังนั้น การอยู่ร่วมกัน ระหว่าง ผู้บังคับบัญชา กับ ลูกน้อง ถ้าเราสังเกตุเห็น ผู้บังคับบัญชา เป็นพฤติกรรม เป็น หัวหน้า หรือ แบบ ผู้นำ ก็จะสะท้อนพฤติกรรมการทำงานขององค์กร สะท้อนถึงศักย์ภาพการแข็งขันขององค์กร นอกจากนี้ ยังสะท้อนถึง พฤติกรรมการทำงานของบุคลากรในองค์กร นั้น
ดั่งสำนวนว่า ผู้บริหาร ระดับ CEO เลือก ผู้บริหาร ระดับรองลงมา สะท้อน ความต้องการของ CEO ประสงค์ขององค์กรเป็นเช่นนั้น
เมื่อเราเข้าใจ องค์กร เราจะเลือกอยู่ ในองค์กรอย่างมีความสุข เนื่องการปรับพฤติกรรมตัวอย่าง ง่ายกว่า การประพฤติกรรมผู้อื่น หรือ ปรับพฤติกรรมองค์กร……. จบ เรื่อง ผู้บังคับบัญชา สำคัญ อย่างไร…..
หน้าแรก
Articles All
People Management
Talent Management
ความสามารถผู้นำ
การทำงานเป็นกลุ่มจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอาศัยหัวหน้ากลุ่มหรือผู้บังคับบัญชาที่มีประสิทธิภาพ ผู้นำหรือผู้บังคับบัญชานั้นจะต้องเป็นคนที่มีความรู้และศิลปะ จะต้องเป็นผู้รู้จักกลุ่มที่ตนเป็นผู้นำรู้ความสามารถของสมาชิกแต่ละคนว่าทำอะไรได้บ้างและเรียนรู้ที่จะทำอะไรได้บ้าง
ต้องรู้ว่าตนมีความสามารถที่จะช่วยให้กลุ่มทำงานที่มีประสิทธิภาพในการทำงานมากน้อยเพียงใด
การเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพ จะต้องใช้ความสามารถสำหรับงานดังต่อไปนี้
1. ทำให้คนร่วมมือทำงานด้วยความเต็มใจ (ความมีมนุษย์สัมพันธ์)
2.
ฝึกให้คนในบังคับบัญชามีความรู้และความชำนาญในการทำงาน (ความสามารถในการฝึกอบรม)
3. จัดทีมงานให้สอดคล้องกับบรรยากาศในการทำงาน ทุกคนทำงาน “ เข้าขา” กัน (ความสามารถในการสร้างบรรยากาศที่ดีสำหรับการทำงาน)
4. จัดทีมงานให้มีประสิทธิภาพในการทำงาน ไปสู่จุดมุ่งหมายเดียวกัน (ความสามารถในการทำให้งานสำเร็จโดยอาศัยทีมงาน)
5.
ทำการพัฒนาทีมงานให้ก้าวหน้าต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อที่จะให้เกิดผลตามที่กล่าวมาแล้วนั้น
1) ทำงานให้สำเร็จลุล่วงโดยอาศัยประสิทธิภาพของลูกน้อง การบริหารที่ถูกต้องนั้นคือ การรู้จักใช้ประโยชน์ เงิน วัสถุ และเวลาที่มีอยู่ เพื่อทำงานให้บรรลุถึงเป้าหมายโดยมีประสิทธิภาพและประหยัดที่สุด ดังนั้นผู้บังคับบัญชาจะต้องเข้าใจผู้ใต้บังคับบัญชาว่าพวกเขามีอะไรเหมือนกัน มีอะไรแตกต่างกัน เพื่อที่ว่าเราจะใช้วิธีการที่ถูกต้องในการนำพวกเขา
2) มอบหมายงานที่เหมาะกับความรู้ความสามารถของผู้ใต้บังคับบัญชา
3) รู้จักสอนให้เริ่มทำงานได้ การเริ่มต้นที่ดีทำให้พนักงานมีกำลังใจ และทำให้เกิดความรู้สึกที่ว่าเป็นพวกเดียวกัน ตลอดจนทำให้เขาเป็นพนักงานที่ดีในเวลาอันสั้น
4) รู้จักกำหนดว่าต้องการอะไรจากการทำงานนั้น สามารถบอกได้ว่าจะต้องทำงานให้ได้จำนวนเท่าไรคุณภาพเท่าใด โดยใช้วิธีอะไร
5) รู้จักวางแผนสำหรับการถกปัญหากับพนักงาน การวางแผนดังกล่าวเริ่มต้นด้วย
ก. ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับพนักงาน
ข.
เลือกสถานการณ์ที่เหมาะสม
ค. มีความเป็นมิตร และเปิดโอกาสให้ผู้ใต้บังคับบัญชาออกความเห็น
ง.
รู้จักตัดสินใจให้ถูกต้องตามสถานการณ์
จ. พยายามติดตามผล
6) รู้จักวิธีการให้คนทำงานให้ได้ผลสูงสุด โดยการใช้ประโยชน์จากหลักมนุษย์สัมพันธ์ต่าง ๆ
ก. ให้ลูกน้องทุกคนรู้ “ จุดยืน” ของตน
ข. ให้การยอมรับหรือตอบแทนเมื่อถึงเวลา
ค.
แจ้งเรื่องราวต่าง ๆ ที่ควรรู้ให้ลูกน้องทราบ
ง. ส่งเสริมให้ลูกน้องมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
จ.
ทำให้ลูกน้องเกิดความมั่นใจ
7) ส่งเสริมให้มีการร่วมกันแก้ปัญหา
8) ปรับปรุงแก้ไขข้อผิดพลาดของพนักงาน โดยการพิจารณาจัดให้มีสถานการณ์ต่าง ๆ ดังนี้
ก. ทำด้วยอารมณ์ปกติ
ข. ทำเป็นการส่วนตัว
ค. ทำเมื่อควรทำ
ง. พิจารณาข้อเท็จจริงทั้งหมด
จ. เปิดโอกาสให้เขาอธิบาย
ฉ. ให้กำลังใจ
ช. ช่วยชี้แนะให้เขากระตือรือร้นที่จะปรับปรุงตนเอง
ที่มา : //www.moodythai.com