6. ประเภทของห้องสมุด
ห้องสมุดเป็นสถาบันสารสนเทศอันดับแรกที่เก่าแก่และคุ้นเคยเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย โดยแบ่งตามเป้าหมายในการให้บริการ แบ่งออกเป็น 5 ประเภท ดังนี้
6.1 ห้องสมุดโรงเรียน (School Libraries) คือ ห้องสมุดที่จัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนการเรียนการสอนในโรงเรียน ตั้งแต่ระดับอนุบาล ระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษา มีทรัพยากรสารสนเทศเกี่ยวกับการเรียนการสอนตามหลักสูตร และนอกเหนือหลักสูตรให้มีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายของหลักสูตร เป็นแหล่งปลูกฝังการมีนิสัยรักการอ่านและใฝ่หาความรู้ด้วยตนเองให้แก่เยาวชน สามารถใช้เป็นพื้นฐานในการใช้ห้องสมุดและแหล่งสารสนเทศอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขนาดของห้องสมุดโรงเรียนจะเล็กหรือใหญ่โตเพียงใด ขึ้นอยู่กับจำนวนนักเรียนในโรงเรียนและจำนวนหนังสือในห้องสมุด ห้องสมุดควรจัดไว้ในที่ที่อยู่เป็นศูนย์กลางของนักเรียนและครู เพื่อจะได้เข้าใช้บริการได้สะดวก ซึ่งจะเพาะนิสัยในการอ่านและการค้นคว้าให้แก่นักเรียน ห้องสมุดโรงเรียนควรจัดดังนี้
6.1.1 สนับสนุนให้เด็กรักการอ่านหนังสือ เด็กต้องอ่านหนังสือเป็น ครูรู้จักเลือกอ่านหนังสือที่ดีและอ่านแล้วรู้จักคิดวิเคราะห์ได้
6.1.2 ฝึกให้เด็กรู้จักค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเอง เพราะหนังสือสนองความต้องการได้ ทั้งความรู้ สติปัญญา การสังคม การใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และได้ความสนุกเพลิดเพลินเด็กต้องรู้จักเลือกอ่าน และแสวงหาความรู้เองแทนที่จะคอยเรียนรู้จากครูเท่านั้น
6.1.3 ส่งเสริมให้เด็กมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องราวต่าง ๆ รอบตัวอย่างกว้างขวางขึ้น เข้าใจคนที่แวดล้อม เข้าใจชีวิตความเป็นอยู่ของผู้อื่นตั้งแต่เล็ก ๆ เท่าที่จะสามารถเข้าใจได้ เพราะมนุษย์แต่ละคนเป็นส่วนหนึ่งของสังคมจะอยู่โดดเดี่ยวไม่ได้ ทุกคนมีสิ่งแวดล้อม มีครอบครัว ญาติมิตรและคนอื่น ๆ ที่เราต้องพบปะเกี่ยวข้องด้วย จะทำให้เด็กเกิดความเห็นใจ เข้าใจและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น เป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีในอนาคต และดำรงชีวิตอยู่ได้ในสังคมอย่างเป็นสุข เช่น อ่านหนังสือพิมพ์ได้ทราบข่าวความเคลื่อนไหว รู้เหตุการณ์ต่างๆ ที่ทันสมัยทันโลก หนังสือชีวประวัติ และนวนิยายช่วยให้เข้าใจผู้อื่น อ่านหนังสือภูมิศาสตร์ได้รู้โลกกว้างขวางขึ้นทำให้จิตใจเด็กตื่นตัวอยู่เสมอ มีความอยากรู้อยากเห็นในทางที่เหมาะสมและถูกต้อง ช่วยให้เด็กค้นพบตนเองว่าต้องการอะไร มีความถนัดและชอบสิ่งใดบ้าง
6.1.4 ฝึกให้เด็กรู้จักรักความสวยงาม ฝึกความเป็นระเบียบ และมีวินัยโดยการจัดหาต้นไม้ ดอกไม้ประดับ ม่านหรือภาพสวยงามไว้ตกแต่งเพื่อแลดูสวยงามสบายตา หนังสือสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ จัดวางเป็นระเบียบบนชั้น โต๊ะ เก้าอี้ สะอาดจัดวางเข้าที่เรียบร้อยไม่เกะกะช่วยฝึกให้เด็กเป็นคนมีระเบียบ กฎข้อบังคับของห้องสมุด ซึ่งเด็กต้องปฏิบัติตามจะฝึกให้เด็กรู้จักเคารพสิทธิของผู้อื่น รู้จักหน้าที่ของตนเองที่พึงปฏิบัติ รู้จักระวังรักษาสมบัติของส่วนร่วมและฝึกการมีมารยาทในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น
6.1.5 ส่งเสริมการสอนของครู และการเรียนของเด็ก โดยจัดหาหนังสือและโสตทัศนวัสดุต่าง ๆ ดังนี้
6.1.5.1 จัดหาให้สอดคล้องกับการเรียนการสอนตามหลักสูตร ทั้ง 8 สาระการเรียนรู้
6.1.5.2 จัดหาหนังสืออ่านเพิ่มเติมนอกเวลา
6.1.5.3 จัดหาหนังสือสารคดีต่างๆ ที่ไม่ยากจนเกินไป หนังสือทางด้านภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และการท่องเที่ยวประเทศต่าง ๆ หนังสือวรรณคดี
6.1.5.4 จัดหาหนังสืออ้างอิงต่าง ๆ เช่น พจนานุกรม สารานุกรม ฯลฯ
6.1.5.5 จัดหาหนังสือความรู้ทั่วไป หนังสือที่ช่วยให้รู้จักคิด รู้จักประพฤติตนช่วยให้เด็กปรับแนวความคิด และบุคลิกลักษณะของตน หนังสือที่แนะนำเรื่องกิริยามารยาท รู้สิ่งที่ควรประพฤติหรือสิ่งที่ไม่ควรประพฤติ ชี้แนะแนวทางแก้ไขนิสัยที่ไม่ดีบางประการ เพราะเด็ก ในวัยนี้กำลังอยู่ในระยะสร้างอุปนิสัย ยังไม่เข้าใจชีวิตและสิ่งแวดล้อมเพียงพอ
6.1.5.6 จัดหาหนังสือทางศาสนา หนังสือชีวประวัติ และนวนิยายบางเล่มที่มีส่วนในการจูงใจเด็กให้เป็นคนดี ใฝ่ในทางดี รู้จักคิดและประพฤติตนได้ถูกต้อง
6.1.5.7 จัดหาหนังสือที่แนะแนวในการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์เกี่ยวกับงานอดิเรก เช่น การประดิษฐ์สิ่งของเครื่องใช้เล็ก ๆ น้อย ๆ จากวัสดุเหลือใช้ การปลูกไม้ดอกไม้ประดับ การวาดภาพ งานเย็บปักถักร้อย การสะสมสิ่งต่าง ๆ ทำให้เด็กได้ทราบว่ามีอะไรที่น่าสนใจ
6.1.5.8 จัดหาหนังสือที่ให้ความเพลิดเพลินสนุกสนาน ช่วยให้อารมณ์แจ่มใส จิตใจเบิกบาน หายเมื่อยล้าจากการเรียน เช่น นิทานต่างๆ เรื่องชวนขัน
6.1.5.9 จัดหาหนังสือสำหรับครู และสิ่งพิมพ์อื่น ๆ ได้แก่ หลักสูตรใหม่ ๆ หนังสือแนะนำสถานที่ที่นักเรียนจะเข้าศึกษาต่อ วารสาร จุลสาร และหนังสือพิมพ์
6.1.5.10 จัดหาโสตทัศนวัสดุต่าง ๆ เช่น ภาพต่าง ๆ แผนที่ ลูกโลก แผนผัง แผนภูมิ ของเลียนแบบ เป็นต้น
6.2 ห้องสมุดวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย (College and University Libraries) คือ ห้องสมุดระดับอุดมศึกษา ซึ่งตั้งอยู่ในวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ปัจจุบันส่วนมากใช้คำว่าสำนักหอสมุด หรือสถาบันวิทยบริการ แทนคำว่า ห้องสมุด นับได้ว่าเป็นศูนย์รวมของแหล่งข้อมูลที่ใช้ในการค้นคว้าด้านการเรียนการสอน และการวิจัยของอาจารย์และนักศึกษา ให้บริการทางวิชาการแก่ชุมชน ตลอดจนส่งเสริมทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม ห้องสมุดมหาวิทยาลัยอาจเป็นห้องสมุดกลาง หรือห้องสมุดคณะ หรือห้องสมุดเทียบเท่าคณะที่มีชื่อเรียกเป็นอย่างอื่น ในสังกัดมหาวิทยาลัย และจะต้องมีวัตถุประสงค์สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ และนโยบายของมหาวิทยาลัย หนังสือ โสตทัศนวัสดุ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ในห้องสมุดประเภทนี้ประกอบด้วย
6.2.1 หนังสือและสิ่งพิมพ์อื่น ๆ โสตทัศนวัสดุ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอนตามสาขาวิชาที่เปิดสอนและตรงตามความต้องการของอาจารย์และนักศึกษา สำหรับการค้นคว้าวิจัย
6.2.2 หนังสืออ้างอิง ฐานข้อมูลอ้างอิงในสาขาวิชาต่างๆ ที่มหาวิทยาลัยเปิดสอนรวมทั้งจัดให้มีหนังสืออ้างอิง ฐานข้อมูลอ้างอิงเฉพาะด้านการศึกษาทั่ว ๆ ไป
6.2.3 หนังสือที่ให้ความจรรโลงใจต่าง ๆ เพื่อให้ผู้อ่านเป็นผู้เจริญ และหนังสือที่อ่านแล้วได้รับความเพลิดเพลิน เช่น หนังสือวรรณคดี ชีวประวัติ ศาสนา ปรัชญา จิตวิทยา ข้อคิดเกี่ยวกับศีลธรรม หนังสือท่องเที่ยว นวนิยายที่มีคุณภาพสูงและจัดหาในจำนวนจำกัด
6.3 ห้องสมุดประชาชน (Public Libraries) คือ ห้องสมุดที่จัดตั้งขึ้นเพื่อให้บริการแก่ประชาชนทั่วไป ไม่จำกัด เพศ วัย ศาสนา อาชีพ และระดับความรู้ในชุมชนท้องถิ่นนั้น ๆ โดยไม่เรียกร้องค่าตอบแทนใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าบำรุงห้องสมุด ค่าเช่าหนังสือ ทั้งนี้เพราะถือว่าประชาชนได้เสียภาษีให้แก่รัฐแล้วห้องสมุดประชาชนแห่งแรกของไทย คือ ห้องสมุดวัดพระเชตุพนฯ หรือ วัดโพธิ์ ให้บริการส่งเสริมการอ่านแก่ประชาชนในท้องถิ่น ประชาชนสามารถเลือกรับข้อมูลข่าวสารได้ตามความต้องการได้อย่างอิสรเสรี ซึ่งในปัจจุบันห้องสมุดประชาชนขยายขอบเขต การให้บริการกว้างขวางออกไป ขยายสาขาไปยังชุมชนที่ห่างไกล มีทั้งห้องสมุดประชาชนระดับอำเภอ ระดับตำบล จัดบริการห้องสมุดเคลื่อนที่โดยใช้รถยนต์ หรือเรือไปยังที่ต่างๆ เป็นการให้บริการที่สอดคล้องกับความต้องการของชุมชนแต่ละแห่ง เพื่อช่วยยกระดับชีวิต และสติปัญญาทำให้เป็นพลเมืองดีมีความรับผิดชอบ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งดังนี้
6.3.1 เพื่อให้การศึกษา ห้องสมุดประชาชนถือได้ว่าเป็นมหาวิทยาลัยชาวบ้าน เพราะทุกคนสามารถศึกษาหาความรู้ให้กับตนเองได้แม้ว่าจะไม่มีโอกาสเข้าศึกษาในระบบโรงเรียนหรือผู้ที่เรียนจบจากการศึกษาในระดับสูง ๆ แล้ว ก็ยังต้องแสวงหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ เพื่อพัฒนาตนเองไปจนตลอดชีวิต ส่วนผู้ที่มิเคยได้เข้าโรงเรียนเลย แม้จะอ่านหนังสือไม่ออกก็อาจเข้าชมกิจกรรมส่งเสริมการอ่านต่างๆ ที่ห้องสมุดจัดขึ้น เช่น ฟังเล่านิทาน ฟังปาฐกถา หรือดูภาพยนตร์
6.3.2 เป็นศูนย์รวมข่าว เป็นที่พบปะของชุมชน จะได้รับรู้เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทั้งภายในและภายนอกประเทศ รู้ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการประดิษฐ์คิดค้น การค้นพบทางวิทยาศาสตร์ใหม่ ๆ
6.3.3 เพื่อสนับสนุน ส่งเสริมให้ประชาชนได้รู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ โดยการอ่านหนังสือและสื่อความคิดอื่น ๆ เป็นการปลูกฝังและส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน เพราะการอ่านให้ประโยชน์มากมายที่จะเกิดการพัฒนาทางอาชีพ ให้แนวคิดอันถูกต้อง เกิดการตัดสินใจอย่างมีเหตุผล เกิดการปรับปรุงบุคลิกลักษณะส่งผลให้คิดและทำแต่สิ่งที่ดีงาม ช่วยในการพัฒนาจิตใจให้มีทัศนคติอันถูกต้อง ช่วยในการแก้ปัญหาต่างๆ อันจะเป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคม
ในปัจจุบันได้มีห้องสมุดประชาชน จัดให้บริการอยู่ตามชุมชนต่างๆ ตั้งแต่ระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล ไปจนถึงเป็นที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน สถานที่ตั้งของห้องสมุดประชาชน ควรตั้งอยู่ในที่คนไปมาได้สะดวกอยู่ใจกลางชุมชน เช่น ตลาด โรงเรียน วัด อีกทั้งยังสามารถจัดบริการ หน่วยห้องสมุดเคลื่อนที่ออกไปตามแหล่งชุมชนซึ่งอยู่ห่างไกลออกไปยังที่ต่าง ๆ โดยใช้ รถ รถไฟ เรือ เครื่องบิน เกวียน หรือยานพาหนะอื่น ๆ ตามความเหมาะสมกับลักษณะภูมิประเทศนั้น ๆ แล้วหาที่ซึ่งเป็นศูนย์รวมของชุมชนสักแห่ง ใช้เป็นที่เก็บหนังสือ อาจเป็นศาลาวัด ห้องใดห้องหนึ่งในอาคารเรียน สหกรณ์ของหมู่บ้าน หน่วยเคลื่อนที่นี้จะต้องมีเส้นทางแน่นอน และทำเป็นประจำ ห้องสมุดประชาชนในต่างจังหวัด อยู่ในความดูแลของกรมการศึกษานอกโรงเรียน กระทรวงศึกษาธิการ
สำหรับห้องสมุดประชาชนในกรุงเทพมหานคร ได้เปิดบริการขึ้นหลายแห่ง เช่น ห้องสมุดประชาชนซอยพระนาง ห้องสมุดประชาชนสวนลุมพินี อยู่ในการกำกับดูแลของสำนักสวัสดิการสังคม กรุงเทพมหานคร ห้องสมุดประชาชนของหน่วยงานเอกชน องค์กรระหว่างประเทศ เช่น ห้องสมุดบริติชเคาน์ซิล ห้องสมุด เอ.ยู.เอ. เป็นต้น หนังสือในห้องสมุดประชาชนควรจัดหา ดังนี้
6.3.3.1 จัดหาให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้แต่ละคน และผู้ใช้ทั่ว ๆ ไป
6.3.3.2 จัดหาให้เหมาะสมกับพื้นความรู้และความสามารถของผู้อ่านหรือผู้ใช้บริการ
6.3.3.3 จัดหาวัสดุการอ่านให้ครบทุกประเภท เช่น สารคดี นวนิยาย วารสาร หนังสือพิมพ์ หนังสือวิชาการ หนังสืออ้างอิง และจัดหาให้ทันสมัยอยู่เสมอ
6.4 ห้องสมุดเฉพาะ (Special Libraries) คือห้องสมุดที่เก็บรวบรวมสารนิเทศ เพื่อสนองตอบ ความต้องการของบุคคลเฉพาะสาขาวิชาวิชาใดวิชาหนึ่งและวิชาที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้บริการแก่ผู้ใช้เฉพาะกลุ่ม ซึ่งเป็นสมาชิกในหน่วยงานที่ห้องสมุดสังกัดอยู่ และการให้บริการของห้องสมุดเฉพาะนี้จะช่วยส่งเสริมให้กิจการของหน่วยงานนั้นๆ เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้ ห้องสมุดเฉพาะนี้มักจะสังกัดอยู่ในหน่วยราชการ องค์การ บริษัท สมาคมวิชาชีพ ธนาคาร พิพิธภัณฑ์ มหาวิทยาลัย องค์การระหว่างประเทศ และหน่วยงานอื่น ๆ เป็นต้น สำหรับชื่อห้องสมุดเฉพาะมีชื่อแตกต่างกันมากกว่าห้องสมุดประเภทอื่น ขึ้นอยู่กับหน่วยงานที่ห้องสมุดนั้นสังกัด รวมทั้งลักษณะ ของการดำเนินงานและการให้บริการ เช่น ในปัจจุบันใช้คำว่า ศูนย์ข่าวสาร ศูนย์เอกสาร ศูนย์บริการเอกสาร เป็นต้น เช่น ห้องสมุดคณะต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัย ห้องสมุดวัดบวรนิเวศฯ (รวบรวมหนังสือที่ระลึกในโอกาสพิเศษของบุคคลและหน่วยงานต่าง ๆ) ห้องสมุดของสภาพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ห้องสมุดการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ห้องสมุดสยามสมาคม ห้องสมุดการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ห้องสมุดเนติบัณฑิตยสภา เป็นต้น หนังสือที่มีอยู่ในห้องสมุดประเภทนี้มีแต่หนังสือซึ่งเกี่ยวกับหน่ายงานนั้น ๆ เป็นส่วนใหญ่ เพราะวัตถุประสงค์หลักของห้องสมุดประเภทนี้มีไว้เพื่อช่วยการค้นคว้าและวิจัยในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานเท่านั้น สิ่งพิมพ์ส่วนมากจะเป็นรายงานเกี่ยวกับการวิจัย เอกสารของรัฐบาล รายงานทางวิชาการของสมาคมซึ่งสิ่งพิมพ์เหล่านี้จะหาได้จากแหล่งผลิตเท่านั้นไม่มีวางจำหน่ายทั่วไป โดยทั่วไปจะให้บริการ แก่บุคลากรของหน่วยงาน หรือนักศึกษาของคณะนั้น ๆ
6.5 หอสมุดแห่งชาติ (National Libraries) คือ ห้องสมุดประจำชาติหรือประเทศ หอสมุดแห่งชาติของไทยเดิมชื่อว่า หอสมุดวชิรญาณสำหรับพระนคร ปัจจุบันตั้งอยู่ ณ ท่าวาสุกรี ถนนสามเสน สร้างขึ้นในสมัยรัฐบาลจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ วางศิลาฤกษ์เมื่อ พ.ศ. 2506 เปิดให้ประชาชนเข้าใช้บริการ ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2509 มีฐานะเป็นสำนักหอสมุดแห่งชาติ สังกัดกรมศิลปากร กระทรวงศึกษาธิการ เปิดบริการให้ประชาชนเข้าอ่านได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 9.30-19.30 น. เว้นวัดหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ แต่ไม่อนุญาตให้ยืมทรัพยากรสารนิเทศออกนอกห้องสมุด หอสมุดแห่งชาติเก็บรวบรวมสิ่งพิมพ์ที่พิมพ์ขึ้นภายในประเทศไว้อย่างสมบูรณ์ และอนุรักษ์ให้คงทนถาวร จัดให้ใช้ประโยชน์ในด้านประกอบการค้นคว้าวิจัย หอสมุดแห่งชาติจะต้องได้รับสิ่งพิมพ์ทุกเล่มที่พิมพ์ขึ้นภายในประเทศตามกฎหมาย เก็บรวบรวมทรัพยากรสารนิเทศทุกชนิดโดยเฉพาะทรัพยากรสารนิเทศที่ผลิตในประเทศนั้นๆ จัดทำบรรณานุกรมทรัพยากรสารนิเทศแห่งชาติ[1] กำหนดเลขมาตรฐานสากลประจำหนังสือ (ISBN = International Standard Book Number) ส่วนบรรณานุกรม[2] ประเภทอื่น ๆ ที่หอสมุดแห่งชาติจัดทำ ได้แก่ บรรณานุกรมเฉพาะวิชา[3] บรรณานุกรมผู้แต่ง[4] โดยจะทำเฉพาะผู้แต่งที่มีชื่อเสียง และแต่งหนังสือไว้หลายชื่อ และนอกจากนี้หอสมุดแห่งชาติยังมีหน้าที่รวบรวมสารนิเทศที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย ซึ่งผลิตที่ต่างประเทศ รวบรวมสิ่งพิมพ์ที่มีคุณค่า มีราคาสูงทั้งของไทยและของต่างประเทศ ซึ่งห้องสมุดอื่นไม่มี
หนังสือและสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ในหอสมุดแห่งชาตินั้นได้รับมาจากหลายทาง เช่น หนังสือที่พิมพ์ในประเทศไทย จะได้รับตามพระราชบัญญัติการพิมพ์ที่ระบุไว้ว่า “บรรดาหนังสือที่มีกรรมสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ ผู้มีกรรมสิทธิ์จะต้องมอบให้เพื่อเก็บรักษาไว้ในหอสมุดแห่งชาติ 2 ฉบับ” อีกทั้งยังได้จัดหาหนังสือประเภทมีคุณค่าหายาก มีราคาแพงจากต่างประเทศทั่วโลก อาจจัดหาโดยวิธีการซื้อด้วยเงินงบประมาณของหอสมุด หรือแลกเปลี่ยนกับหน่วยงานราชการ ห้องสมุด และสมาคมต่าง ๆ ในต่างประเทศหรือมีผู้บริจาคให้ จึงทำให้หอสมุดแห่งชาติมีหนังสือสำคัญต่าง ๆ อยู่เป็นจำนวนมากและมีหนังสือหลากหลายภาษา อีกทั้งยังเก็บรวบรวมหนังสือฉบับตัวเขียนด้วยมือ เหรียญกษาปณ์ เหรียญตราต่างๆ แผนที่ รูปภาพและวัสดุย่อส่วนนานาชนิด
การให้บริการจะเน้นทางด้านช่วยเหลือในการอ่าน การค้นคว้าและวิจัยภายใน ห้ามยืมออก เพื่อให้ทุกคนได้ใช้หนังสือโดยทั่วถึงกัน บริการช่วยค้นคว้ามีหลายอย่าง เช่น ช่วยค้นหาหนังสือ และสิ่งพิมพ์ ช่วยรวบรวมรายชื่อหนังสือในเรื่องที่ผู้ใช้ต้องการ จัดทำดรรชนีค้นเรื่อง เป็นศูนย์รวมบัตรรายการ หรือสหบัตรรายการ (Union Catalog) คือ รวบรวมบัตรรายการหนังสือของห้องสมุดอื่นๆ มาไว้เพื่อให้ผู้ที่ต้องการจะค้นเรื่องได้ทราบว่า หนังสือที่ตนต้องการถ้าไม่มีในหอสมุดแห่งชาติแล้วจะมีอยู่ที่ใด แล้วหอสมุดแห่งชาติจะทำหน้าที่ขอยืมมาให้เรียกบริการนี้ว่า “การยืมระหว่างห้องสมุด” (Inter Library Loan Service)
ปัจจุบันหอสมุดแห่งชาติมีสาขาอยู่ตามจังหวัดต่าง ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยมากจัดไว้ในบริเวณเดียวกันกับพิพิธภัณฑสถานของจังหวัดนั้น ๆ โดยหอสมุดแห่งชาติในกรุงเทพมหานครจะเป็นผู้จัดหาหนังสือดำเนินการจัดหมวดหมู่ และทำบัตรรายการส่งให้แก่หอสมุดแห่งชาติสาขาในจังหวัดต่างๆ ทั้งหมด 17 สาขา ดังนี้
6.5.1 หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่
6.5.2 หอสมุดแห่งชาติลำพูน
6.5.3 หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี
6.5.4 หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก กาญจนบุรี
6.5.5 หอสมุดแห่งชาติอินทร์บุรี สิงห์บุรี
6.5.6 หอสมุดแห่งชาติชลบุรี
6.5.7 หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ ร.9 นครราชสีมา
6.5.8 หอสมุดแห่งชาติประโคนชัย บุรีรัมย์
6.5.9 หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
6.5.10 หอสมุดแห่งชาตินครศรีธรรมราช
6.5.11 หอสมุดแห่งชาติวัดเจริญสมณกิจ ภูเก็ต
6.5.12 หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ตรัง
6.5.13 หอสมุดแห่งชาติกาญจนาภิเษก สงขลา
6.5.14 หอสมุดแห่งชาติวัดตอนรัก สงขลา
6.5.15 หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ สงขลา
6.5.16 หอสมุดแห่งชาติ จังหวัดสุพรรณบุรี เฉลิมพระเกียรติ
6.5.17 หอสมุดแห่งชาติเขตลาดกระบัง เฉลิมพระเกียรติ
[1] รายชื่อหนังสือและสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ที่เขียนหรือตีพิมพ์ขึ้นในประเทศนั้น ๆ ตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงปัจจุบัน เป็นเครื่องมือสำคัญในการศึกษาค้นคว้า เป็นคู่มือจัดหาและคัดเลือกหนังสือ เป็นสถิติการผลิตหนังสือของชาติ [2] คือการทำบัญชีรายชื่อหนังสือ โดยให้รายละเอียดเกี่ยวกับหนังสือดังนี้ ชื่อผู้แต่ง ชื่อเรื่อง ผู้จัดพิมพ์ ปีที่พิมพ์ จำนวนหน้า [3] คือบัญชีรายชื่อหนังสือในแต่ละวิชา [4] คือบัญชีรายชื่อหนังสือทั้งหมดของผู้แต่งคนนั้น ๆ แต่งขึ้น7. ลักษณะของห้องสมุดที่ดี
ห้องสมุดที่ดีควรมีการจัดบริการที่สนองความต้องการของผู้ใช้อย่างกว้างขวาง ผู้ใช้ได้รับความสะดวก รวดเร็ว และสามารถใช้ห้องสมุดในการเพิ่มพูนความรู้และตลอดจนนำความรู้ ไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี ดังนั้น ห้องสมุดที่ดีควรจัดหาจัดระเบียบ และจัดบริการดังต่อไปนี้
7.1 มีหนังสือและวัสดุสิ่งพิมพ์โสตทัศนวัสดุ สำหรับให้บริการแก่ผู้ใช้อย่างกว้างขวางทุกประเภท
7.2 มีบริการให้ยืมหนังสือ วัสดุสิ่งพิมพ์ หรือเอกสาร แก่ผู้ใช้ห้องสมุด
7.3 จัดบริการและแนะนำการอ่าน บริการตอบคำถาม บริการช่วยการค้นคว้า จัดบริการหนังสือจอง บริการหนังสือสำรอง เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ได้ใช้หนังสือหรือวัสดุการศึกษาอื่น ๆ อย่างทั่วถึงกัน เพื่อให้ผู้ใช้ได้สิ่งที่ต้องการโดยเร็ว และตรงตามวัตถุประสงค์
7.4 มีหนังสืออ้างอิงซึ่งสงวนไว้ใช้เฉพาะในห้องสมุด หรือให้ขอยืมได้ในเวลาจำกัดเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ได้ใช้หนังสืออ้างอิงอย่างทั่วถึงกัน และควรจัดบริการหนังสือจองด้วย
7.5 มีการจัดหนังสือเป็นหมวดหมู่ตามระบบสากลไว้ในชั้นเปิด เพื่อให้ผู้ใช้สามารถหยิบได้ด้วยตนเองโดยสะดวก
7.6 จัดทำคู่มือ หรือเครื่องมือที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการค้นหาทรัพยากรสารนิเทศ ของห้องสมุด เพื่อเป็นการช่วยประหยัดเวลาในการค้นหาและเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้ตรงเป้าหมายที่ได้วางไว้อย่างรวดเร็ว เช่น ฐานข้อมูลทรัพยากรสารนิเทศของห้องสมุด บัตรรายการ รายชื่อหนังสือ คู่มือการใช้ห้องสมุด รายชื่อโสตทัศนวัสดุประเภทต่าง ๆ เป็นต้น
7.7 จัดบริการแนะนำหนังสือดี หรือหนังสือที่น่าสนใจ หนังสือที่จัดหาเข้าห้องสมุดใหม่ ๆ เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้ทราบเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ
7.8 จัดสถานที่สะอาดเรียบร้อยเหมาะสมเป็นห้องสมุด เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับความสะดวกสบายตามสมควร เช่น มีแสงสว่างเพียงพอ มีโต๊ะ เก้าอี้นั่งสบายปราศจากเสียงรบกวนหรือทำลายสมาธิ มีอากาศถ่ายเท หรือมีพัดลมระบายอากาศ
7.9 จัดบริการอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ตามความจำเป็น และระดับความต้องการของผู้ใช้
7.10 มีงบประมาณสำหรับการดำเนินงาน และการจัดบริการเป็นประจำและเพียงพอ
8. บริการของห้องสมุด
บริการของห้องสมุดมีทั้งทางตรงและทางอ้อม ดังนี้
8.1 บริการยืม – คืนโดยยึดระเบียบการยืม - คืนของห้องสมุด
8.2 บริการถ่ายสำเนาโดยไม่คิดค่าบริการ
8.3 บริการตอบคำถามและช่วยการค้นคว้า
8.4 บริการรวบรวมบรรณานุกรม
8.5 บริการจัดป้ายนิเทศเพื่อประกาศหรือเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจซึ่งผู้ใช้ควรทราบตามวาระต่างๆ
8.6 บริการให้ศึกษาค้นคว้าภายในห้องสมุด โดยจัดอุปกรณ์และสถานที่ให้เหมาะสมและเพียงพอต่อผู้ใช้
8.7 บริการแนะนำวิธีใช้เครื่องมือช่วยค้นต่าง ๆ เช่น อธิบายวิธีใช้บัตรรายการ วิธีการสืบค้นด้วยโปรแกรมห้องสมุด โดยใช้คอมพิวเตอร์ วิธีใช้บริการอินเทอร์เน็ต วิธีใช้เครื่องมือโสตทัศน์ต่าง ๆ
8.8 บริการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ห้องสมุดและการใช้บริการต่าง ๆ
8.9 บริการข่าวสารที่ทันสมัย คือจัดบริการความรู้ใหม่ให้ถึงตัวผู้ใช้อย่างรวดเร็วโดยให้บริการตามความสนใจของแต่ละคน หรือแต่ละกลุ่ม
8.10 บริการอื่น ๆ ที่เป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้