หนึ่งในการลงทุนที่ได้รับความนิยมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ยังไงก็คงหนีไม่พ้น หุ้น แน่นอนว่าก่อนการที่เราจะซื้อขายหุ้นได้ ก็ต้องเปิดบัญชีสำหรับการซื้อขายหุ้นซะก่อน สำหรับใครที่กำลังมองหาบัญชีหุ้นดีดีสักที่หนึ่ง พี่ทุยแนะนำให้ “เปิดพอร์ตหุ้น SBITO” ที่ไม่ต้องใช้เงินทุนมาก และใช้งานได้แบบสะดวกสบาย
ทำไมการ “เปิดพอร์ตหุ้น SBITO” ถึงเหมาะสำหรับมือใหม่ ?
SBITO มีจุดเด่นที่ค่าธรรมเนียมในการซื้อขายต่ำ เริ่มต้นเพียง 0.075% เท่านั้น ที่สำคัญเลยก็คือไม่มีขั้นต่ำต่อวัน เราจะซื้อขาย 1,000 หรือ 5,000 บาทก็คิดค่าธรรมเนียมตามจริง
“เปิดพอร์ตหุ้น SBITO” ต้องทำอย่างไรบ้าง ?
วันนี้พี่ทุยจะพาทุกคนไปดูกันว่าการเปิดบัญชีกับทาง SBITO ต้องทำอย่างไร พี่ทุยแอบกระซิบเลยว่า ง่าย สะดวก รวดเร็วทำผ่านออนไลน์ได้ทั้งหมดเลย
1. ยืนยันตัวตนผ่าน National Digital ID (NDID) หรือ ผ่านเคาท์เตอร์ เซอร์วิส 7-11
1.1 ยืนยันตัวตนผ่าน NDID
ขั้นตอนนี้เราจะต้องยืนยันตัวตนผ่าน NDID กับแอปพลิเคชั่นของธนาคารที่เราใช้งานอยู่ประจำให้เรียบร้อย
ซึ่งประโยชน์การยืนยันผ่าน NDID ไม่ได้มีเฉพาะการเปิดบัญชีกับทาง SBITO เท่านั้น แต่ในอนาคตการทำธุรกรรมทางการเงินเกือบทั้งหมดน่าจะใช้วิธีการยืนยันตัวตนผ่านช่องทางนี้ พี่ทุยแนะนำว่าเปิดบริการไว้ยังไงก็ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเราได้แน่นอน ส่วนเรื่องความปลอดภัยไม่ต้องเป็นกังวลเลย ยังไงก็ปลอดภัยแน่นอน การบริการ NDID อยู่ภายใต้การดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทยสบายใจได้เลย
สำหรับขั้นตอนการเปิดบริการ NDID พี่ทุยรวบรวมเอาไว้ 9 ธนาคารหลักสามารถดูได้ตามนี้เลย
- ธนาคารกสิกรไทย
- ธนาคารไทยพาณิชย์
- ธนาคารกรุงเทพ
- ธนาคารกรุงศรีฯ
- ธนาคารกรุงไทย
- ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย
- ธนาคารออมสิน
- ธนาคารเกียรตินาคินภัทร
- ธนาคารอาคารสงเคราะห์
สำหรับคนที่ยืนยันตัวตนผ่าน NDID ก็สามารถไปดูวิธีการต่อในขั้นตอนที่ 2 ได้เลย
1.2 ยืนยันตัวตนผ่านเคาท์เตอร์ เซอร์วิส 7-11
ส่วนตัวพี่ทุยมองว่าการยืนยันแบบนี้สะดวกรวดเร็วกว่ามาก โดยสิ่งที่ต้องเตรียมมีเพียง 2 อย่าง คือ
- บัตรประชาชนตัวจริง
- QR Code (จากอีเมลหลังจากกรอกข้อมูลเปิดบัญชีสำเร็จ)
เพียงแค่นี้แล้วไปที่ 7-11 ใกล้บ้าน เพื่อแจ้งกับพนักงานว่าจะมายืนยันตัวตนได้เลย
สำหรับคนที่ยืนยันตัวตนผ่าน เคาท์เตอร์ เซอร์วิส 7-11 ข้ามไปที่ขั้นตอนที่ 3 ได้เลย
2. เตรียมเอกสาร 3 รายการ เพื่อใช้สำหรับการอัปโหลด (สำหรับคนที่ยืนยันตัวตนผ่าน NDID เท่านั้น)
สิ่งที่เราจะต้องเตรียมเพื่อไว้ใช้สำหรับขั้นตอนที่ทาง SBITO ให้เราอัปโหลดเอกสาร คือ
- สำเนาบัตรประชาชนด้านหน้า-หลัง (พร้อมลายเซ็นต์กำกับ)
- สำเนาสมุดบัญชีธนาคารหน้าแรก (Book Bank)
- ตัวอย่างลายเซ็นต์ (ให้เซ็นต์ลงกระดาษสีขาว)
ทั้งหมดนี้ พี่ทุยแนะนำว่าให้เตรียมสแกนหรือถ่ายรูปไว้ให้เรียบร้อยก่อนการกดเข้าสมัครในเว็บไซต์ในขั้นตอนต่อไป
3. เข้าไปที่หน้าเว็บไซต์ SBITO เพื่อกรอกข้อมูลส่วนตัวและยืนยันตัวตน
หลังจากที่เข้าไปยังหน้าของเว็บไซต์ SBITO เรียบร้อยแล้ว ให้ทำการกรอกชื่อ, นามสกุล, E-mail และเบอร์โทรศัพท์ จากนั้นกด “สมัครเลย” และหลังจากนั้นให้เลื่อนลงมาด้านล่างของเว็บไซต์ และกดที่ “คลิกเปิดบัญชี” เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการสมัคร
จากนั้นระบบก็พาเรามายังหน้าที่ให้กรอกข้อมูลส่วนตัว เมื่อกรอกข้อมูลครบเรียบร้อยแล้ว ให้กด “ยืนยัน”
หลังจากกด “ยืนยัน” เราจะได้รับรหัส OTP เป็นเลข 6 หลักไปยังเบอร์โทรศัพท์มือถือที่เรากรอกเอาไว้ เพื่อเป็นการยืนยันตัวตน
และเมื่อเรากรอก OTP เรียบร้อยแล้ว ให้กด “ยืนยัน” อีกครั้งเพื่ออ่านเงื่อนไขในการเปิดบัญชีทั้งหมด
โดยพี่ทุยแนะนำให้เราอ่านเงื่อนไขนี้ เพื่อให้เราเข้าใจ ซึ่งขั้นตอนนี้เป็นการยืนยันตัวตนผ่าน NDID และเมื่อเราอ่านเสร็จเรียบร้อย จากนั้นก็ให้เลื่อนลงมาด้านล่าง คลิกที่ช่อง “ยอมรับเงื่อนไข” และกด “ขั้นตอนถัดไป” ได้เลย
จากนั้นให้เราเลือกธนาคารที่เราได้ทำการยืนยันตัวแบบ NDID เอาไว้ (สำหรับคนที่เลือกยืนยันตัวตนแบบ NDID) เมื่อเลือกแล้ว ก็จะมี Notification แจ้งเตือนไปที่แอปพลิเคชั่นของธนาคารให้เราเข้าไปยืนยันตัวตนได้ทันที
สำหรับคนที่ยืนยันตัวตนผ่าน เคาท์เตอร์ เซอร์วิส 7-11 ข้ามไปที่ขั้นตอนที่ 5 ได้เลย
4. ยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชันของธนาคาร (สำหรับคนที่ยืนยันตัวตนผ่าน NDID เท่านั้น)
เมื่อเราเข้ามาที่แอปพลิเคชั่นของธนาคารที่เราเปิดบริการ NDID ไว้เพื่อยืนยันตัวตนผ่านธนาคาร (idP) ก็ทำตามขั้นตอนการยืนยันตัวตนไปจนถึงหน้ายืนยันตัวตนสำเร็จได้เลย (จากรูปในตัวอย่างเป็นการยืนยันตัวตนผ่านธนาคารกสิกรไทย)
จากนั้นให้กลับมาที่หน้าเว็บไซต์ของ SBITO คลิก “ที่นี่” เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป
5. ตรวจสอบ กรอกข้อมูล และทำแบบทดสอบความเสี่ยงบนเว็บไซต์ SBITO
หลังจากกลับมาที่เว็บไซต์ SBITO เรียบร้อยแล้ว พี่ทุยแนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลว่าถูกต้องตามที่ลงทะเบียนไว้กับทางธนาคารหรือไม่ ถ้าถูกต้องกด “ขั้นตอนถัดไป” แต่ถ้าข้อมูลไม่ถูกต้อง ให้กลับไปแก้ไขข้อมูลในแอปพลิเคชันก่อน แล้วค่อยกลับมาดำเนินการสมัครอีกครั้ง
จากนั้นให้อ่านเงื่อนไขและข้อตกลงทั้งหมด เมื่ออ่านเรียบร้อยให้คลิกในที่ช่อง “ยอมรับเงื่อนไข” และกด “ตกลง”
5.1 กรอกข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งสิ้น 4 ขั้นตอน
5.1.1 ขั้นตอนที่ 1 กรอกข้อมูลส่วนตัวให้เรียบร้อยตามช่องว่างให้กด “บันทึก” และ “ถัดไป”
5.1.2 ขั้นตอนที่ 2 กรอกข้อมูลทางการเงินให้เรียบร้อยตามช่องว่างในกด “บันทึก” และ ถัดไป
ในขั้นตอนนี้จะมีการอัปโหลดเอกสารตามที่พี่ทุยได้บอกเอาไว้ก่อนหน้านี้ นั่นก็คือ
– สำเนาบัตรประชาชนด้านหน้า-หลัง (พร้อมลายเซ็นต์กำกับ)
– สำเนาสมุดบัญชีธนาคารหน้าแรก (Book Bank)
– ตัวอย่างลายเซ็นต์ (ให้เซ็นต์ลงกระดาษสีขาว)
เมื่อกรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้วให้กด “บันทึก” และ “ถัดไป”
5.1.3 ขั้นตอนที่ 3 เป็นแบบแสดงตนทั่วไป ให้คลิกตอบคำถามตามความเป็นจริง เมื่อกรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้วให้กด “บันทึก” และ “ถัดไป”
5.1.4 ขั้นตอนที่ 4 เป็นแบบทดสอบความเสี่ยง (Suitability Test) เมื่อทำแบบทดสอบเสร็จให้กด “บันทึก” และ “ถัดไป”
จากนั้นหน้าต่างจะแสดงผล “ผลการประเมิน / Assessment Results” ว่าเราอยู่ในระดับใด และให้เลื่อนลงมาเพื่อกดที่ปุ่ม “ถัดไป”
คลิกที่ “ยอมรับข้อตกลง” และกด “ยืนยัน” อีกครั้ง
เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการ “เปิดพอร์ตหุ้น SBITO” ผ่านระบบออนไลน์เป็นที่เรียบร้อย จากนั้นให้ยืนยันตัวตนผ่าน E-Mail อีกครั้งก็เป็นอันเสร็จขั้นตอนการเปิดบัญชี
สำหรับใครที่ลองอ่านดูแต่ยังไม่ได้ลองทำตามกัน พี่ทุยบอกเลยว่าดูเหมือนจะยาก แต่จริง ๆ ถ้าทำตามขั้นตอนแบบที่พี่ทุยบอกแล้ว รับรองว่าไม่ยากเลย ไม่กี่นาทีก็เสร็จเรียบร้อย มีบัญชีลงทุนหุ้นได้ง่าย ๆ
ส่วนใครที่ตามไม่ทัน พี่ทุยแนะนำให้ขึ้นไปอ่านคอนเทนต์นี้อีกรอบ แต่ก่อนจะขึ้นไปอ่านอีกรอบ อย่าลืมเข้าไปในหน้าเว็บไซต์ของ SBITO กันก่อน
กดเข้าไปเพื่อเปิดบัญชีกับ SBITO กันได้เลย คลิกที่นี่