ใช้แอพนี้เพื่อปรับแต่งการตั้งค่าของคุณสำหรับลำโพงและหูฟัง Marshall Bluetooth บางรุ่น ปรับแต่งเสียง เปลี่ยนชื่ออุปกรณ์ของคุณ เข้าถึงคู่มือผู้ใช้ รับการอัปเดตซอฟต์แวร์ และอื่นๆ รองรับผลิตภัณฑ์ Marshall ดังต่อไปนี้: ความปลอดภัยเริ่มต้นด้วยความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีที่นักพัฒนาแอปรวบรวมและแชร์ข้อมูล แนวทางปฏิบัติด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลอาจแตกต่างกันไปตามการใช้งาน ภูมิภาค และอายุของคุณ นักพัฒนาแอปได้ให้ข้อมูลนี้ไว้และอาจอัปเดตข้อมูลในส่วนนี้เมื่อเวลาผ่านไป แอปนี้อาจแชร์ข้อมูลประเภทต่างๆ เหล่านี้กับบุคคลที่สาม ข้อมูลส่วนบุคคล แอปนี้อาจรวบรวมข้อมูลประเภทต่างๆ เหล่านี้ ตำแหน่ง กิจกรรมบนแอป และข้อมูลและประสิทธิภาพของแอป ระบบจะเข้ารหัสข้อมูลขณะส่ง
เกี่ยวกับแอปนี้
Acton III Bluetooth
Stanmore III Bluetooth
Woburn III Bluetooth
เอ็มเบอร์ตัน II
วิลเลน
โมทีฟ เอ.เอ็น.ซี.
โหมดII
มอนิเตอร์ II A.N.C.
Acton II
Bluetooth
Stanmore II Bluetooth
Woburn II Bluetoothความปลอดภัยของข้อมูล
การให้คะแนนและรีวิว
เชื่อมต่อได้ครั้งเดี่ยวหลังจากนั้นใช้ไม่ได้เลย ไม่คุ้มราคา
1 คนพบว่ารีวิวนี้มีประโยชน์
Zound Industries International AB
30 สิงหาคม 2565
Hello Narada, thank you for your review. What Marshall product do you have and what OS version is it using? Can you try a factory reset to see if it helps to resolve the issue?
Acton 3 ไม่สามารถกดปุ่มย้อนกลับได้ครับแอด แก้ไขหน่อยครับ🤔🤔🤔
1 คนพบว่ารีวิวนี้มีประโยชน์
Zound Industries International AB
19 สิงหาคม 2565
I understand you are having issues concerning track switching with your Acton III. I am very sorry to hear this. We would really like to personally assist you in the matter. Please join us for a live support chat from our main website. We have agents on standby who would really like to assist you in this matter.
หลัง ๆ อัพเดตแล้วก็เอ๋อ
Zound Industries International AB
4 ตุลาคม 2565
Hello, thanks for your review. What Marshall product do you have? Is all working well after the update?
มีอะไรใหม่
* Put your hands together for Emberton II and Willen, the newest additions to the app family.
* Host an amplified listening session with Stack Mode – connect multiple Willen and Emberton II speakers for a bigger sound.
* It’s rubbish talking to yourself – we want to hear what you think (and we promise we’re not fishing for compliments). Rate, review and keep flagging bugs so we can smash them.
สวัสดีคร้าบบบ เนื่องจากปัจจุบันนี้ ลำโพง Bluetooth ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะสามารถตอบสนองการใช้งาน ในชีวิตประจำวันได้อย่างดี วันนี้ผมจะขอมาแนะนำลำโพง Bluetooth น้องเล็กตัวใหม่ จาก Marshall นั่นก็คือ ACTON ครับ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ออกรุ่นใหญ่อย่าง Stanmore กับ Woburn มาแล้ว มาคราวนี้ผมขอจับน้องเล็กมารีวิวให้อ่านกัน ซุ่มเสียงและการใช้งานจะเป็นอย่างไรกันบ้างตามมาอ่านกันได้เลยจ้าาา
ก่อนอื่นผมคงต้องขอกล่าวถึงประวิติคร่าวๆของของค่าย Marshall กันก่อนเลยครับ แรกเริ่มนั้นได้ก่อตั้งโดยลุง Jim Marshall ซึ่งแต่ก่อนนั้นได้ขายเครื่องดนตรี อยู่ในวงการเพลง Rock'n roll ซึ่งสนิทกับนักดนตรีอย่างมากมาย จนกระทั่งนักดนตรีเหล่านั้น ร้องขอให้ลุง Jim ลองทำแอมป์ออกมาตอบสนองความต้องการของพวกเค้า ซึ่งลุง Jim ก็เลยลองทำออกมา ซึ่งผลที่ได้นั้น ทำให้นักดนตรีพึงพอใจมาก ว่าเป็นแอมป์กีต้าร์ที่ให้เสียงดีที่สุดที่เคยใช้มา จนปี 1962 ลุง Jim ก็ได้เริ่มผลิตอย่างจริงจัง จนมีนักดนตรีชื่อดังใช้ผลิตภัณฑ์ของ Marshall อย่างมากมาย อาทิเช่น Jimi Hendrix และ Eric Clapton เป็นต้นครับ
จนมาถึงปัจจุบันวิถีการใช้ชีวิตของคนเราเปลี่ยนไป ในปี 2010 ทางลุง Jim ก็เลยได้แตกไลน์บริษัทออกมาเป็น Marshall Headphone เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ทั่วๆไป เพื่อให้ได้สัมผัสกับเสียงสไตล์เป็นเอกลักษณ์ของ Marshall โดยบริษัทในกลุ่มของ Marshall Headphone นั้น จะมีสินค้าประเภทหูฟัง และในปี 2012 ก็เริ่มทำลำโพง Active Bluetooth ออกมาทำตลาด ซึ่งหูฟังและ ลำโพงของเค้า ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ด้วยสไตล์เสียงที่ไม่เหมือนใคร และการดีไซน์ที่ดู Vintage สวยงาม โดยถ้านับจากที่เปิดบริษัท Marshall มา นี่ก็ราวๆ 50 ปีแล้วครับ ถือว่าเป็นบริษัทที่เก๋ามากๆเจ้าหนึ่งในวงการ
ลำโพงรุ่นที่ผมนำมารีวิวนี้มีชื่อว่า ACTON ซึ่งจากที่ผมได้สัมผัสมา ขอบอกว่าเป็นลำโพงที่ให้เสียงเซอร์ไพรซ์ผมมากๆตัวนึงเลยครับ อย่าได้ดูแต่ขนาดตัวเชียว เปิดเสียงให้ฟังรับรองว่าต๊กกกะใจทุกคนสิ โดยเจ้า ACTON นั้นออกแบบมาเป็นลำโพง Active ที่สามารถ เขื่อมต่อ Bluetooth ไร้สายกับมือถือ หรืออุปกรณ์ฟังเพลงอื่นๆ และยังสามารถต่อ Input เข้าช่อง Aux ได้อีกหนึ่งช่องครับ
จำนวนลำโพงมีทั้งหมด 3 ดอก คือ Driver Woofer ขับเสียงต่ำ ขนาด 4" และ Driver เสียงแหลมขนาด 3/4” แบบโดมอีก 2 ตัว ภาคแอมป์ Class D กำลังขับ 2X8W(ขับเสียงแหลม)+1X25W (ขับเสียงต่ำ) กำลังขับรวมเป็น 41 วัตต์ RMS แท้ๆครับ งานดีไซน์ถอดมาจากตู้แอมป์รุ่นพี่เป๊ะๆ ทั้งสวยงามทันสมัย และคลาสสิคอยู่ในตัวเดียวจ้าา
มาเริ่มแกะกล่องกันเลยดีกว่าครับ เจ้า ACTON นั้นบรรจุมาในกล่องสีขาว ล็อคตัวลำโพงด้านในกล่องด้วยโฟมประกบสองด้าน และห่อมาด้วยผ้าสักกะหลาดนุ่มมือสีออกเทาดำ แกะห่อผ้าออกมาก็ผมกับลำโพงหน้าตาจิ้มลิ้ม ขนาดกำลังน่ารักครับ งานสวยมากๆ
ในกล่องจะมี Accessories แถมมาเป็นสาย 3.5mm ใช้หัวชุปทอง 24k ขดเป็นเกลียวคล้ายๆสายโทรศัพท์แบบโบราณ สะดวกต่อการใช้งาน ซึ่งจะทำให้สายไม่เกะกะ หรือยาวจนไปพันกันยุ่งเหยิง แล้วก็มีสายไฟแบบท้าย C7 มาให้อีกสองชุดคือแบบยุโรปแบบปลั๊กกลม แล้วก็ฝั่งอเมริกา หัวแบนๆแบบบ้านเราครับ แล้วก็มีคู่มือมาให้อีกหนึ่งเล่มหนาๆ มีทุกภาษา ยกเว้นภาษาไทยคร้าบบ 555
ดูที่ด้านหน้าลำโพงกันก่อนเลยครับ ตรงกลางด้านหน้าลำโพงจะมีโลโก้ของ Marshall สีทองเด่นชัด และผ้าบุด้านหน้าเป็นวัสดุที่ใช้ในการ จูนเสียงของลำโพง Marshall ทุกรุ่น ซึ่งจะดูหนาและทึบกว่าหน้ากากของลำโพงทั่วๆไป แต่นี่ก็คือเคล็ดลับเด็ดของลุง Jim ที่ทำให้ลำโพง ของเค้าปล่อยเสียงที่มีพลังเข้มข้น หนักแน่น และเสียงใหญ่กว่าขนาดตัวมันครับ ซึ่งใช้หลักการณ์นี้มานานมากแล้ว ตั้งแต่สมัยทำแอมป์กีต้าร์
ส่วนตัวตู้รอบๆนั้นใช้หนังแบบ PVC สีดำบุทั้งตัวครับ ซึ่งการเก็บงานของตัวตู้ และรอยต่อต่างๆนั้นทำออกมาได้เนียนมากๆ และตัวตู้นั้นใช้ไม้ MDF หนาถึง 16mm. ช่วยให้ตัวตู้แข็งแรง ปล่อยเสียงต่ำๆแล้วไม่สั่นคราง อ่อ!!! ผมเกือบลืมบอกไป เจ้า ACTON นั้นมีให้เลือกสองสีครับ คือสีดำที่ผมรีวิวอยู่นี้ กับสีครีมขาวๆ สามารถเลือกได้ตามความต้องการจ้าา
มาต่อกันที่ตัวตู้ด้านบนครับ เป็นแผงควมคุมการทำงานต่างๆของลำโพง ซึ่งเป็นแผงอลูมิเนียมปัดลาย ชุปทองด้วยกระบวนการอะโนไดซ์ หรือการชุปสีแบบไฟฟ้า ให้ตัวแผงนั้นมีสีทองกลมกลืนกับปุ่มและลูกบิดต่างๆ ซึ่งเป็นสีทองทั้งหมดเลยครับ งานเนี๊ยบมากๆ ไม่ว่าใครได้เห็น ก็ต้องอยากลองกด ลองหมุนกันทั้งนั้นเลยครับ 5555
ที่ด้านขวาของแผงคอนโทรล จะเป็นสวิชต์โยก เปิด-ปิดเครื่อง ที่ออกแบบมาได้อารมณ์วินเทจมากๆเลยโยกกันมันส์เลย ส่วนปุ่มข้างๆ ก็คือปุ่มเลือก Source ที่ป้อนเข้ามาระหว่าง Blutooth กับ Analog Input และทำหน้าที่เปิดเครื่องอีกครั้งจาก Mode Powersaver ซึ่งจะขอกล่าวอีกทีในช่วงต่อไปครับ ส่วนปุ่มล่างที่เขียนกำกับว่า Pair เอาไว้กดเมื่อเราต้องการยกเลิกการจับคู่เครื่องเล่นปัจจุบัน เพื่อทำการจับคู่กับอุปกรณ์อื่นๆใหม่อีกครั้งจ้าา
ส่วนฝั่งซ้ายเป็นช่องเสียบ Analog Input แบบสาย 3.5 mm. ซึ่งสามารถใช้สายที่แถมมาต่อมือถือ หรือจากเครื่องเล่นอื่นๆก็ย่อมได้ครับ ถัดมาด้านข้างเป็นไฟ LED สีแดงบอกสถานะการเชื่อมต่อครับ ซึ่งถ้าอยู่ใน Mode Bluetooth แล้วยังไม่ได้ทำการเชื่อมต่อ ไฟจะกระพริบถี่ๆ แต่เมื่อจับคู่กับมือถือ หรือเครื่องเล่นแล้ว มันจะเป็นไฟสีแดงติดค้าง แสดงว่าพร้อมใช้งานเปิดเพลงฟังได้เลยครับ
ตรงกลางนั้นลูกบิดเรียงเป็นแถวอยู่สามอัน เรียงจากซ้ายไปขวาคือ Volume ไว้ปรับเสียงดัง-เบา BASS เอาไว้ปรับเร่ง-ลด ความถี่เสียงย่านต่ำๆ และสุดท้ายคือ TREBLE เอาไว้เร่งลดเสียงสูง หรือเสียงแหลมนั่นเองครับ ซึ่งจากที่ผมลองเทสปรับเสียงดูลูกบิดต่างๆให้ฟิลลิ่งหนืดมือ หมุนแล้วรู้สึกมั่นใจ และรับรู้ได้ถึงคุณภาพของลูกบิด (Potentiometer) ที่นำมาใช้งานครับ
มาต่อกันที่ด้านหลังครับอันนี้เป็นช่องเสียบสายไฟแบบหัว C8 ที่มีเหลี่ยมด้านนึงครับ อาจจะดูแปลกตากว่าทั่วๆไป แต่เราสามารถใช้สายไฟ Type C7 เสียบได้ทุกเส้นครับ ที่ช่องนี้ระบุไว้ว่ารับไฟ AC 100-240V และ 50Hz-60Hz นั่นก็หมายความว่าภาคจ่ายไฟเป็นแบบ auto Switching ครับ สามารถเอา ACTON ตัวนี้ไปใช้งานได้ทั่วโลกจ้าาา
ส่วนสวิชต์โยกตรงนี้เป็นการเลือกโหมดการทำงานของ ACTON ครับ มี Standard กับ Powersaver ต่างกันตรงที่ ถ้าเราเลือกไว้เป็น Standard ตัวลำโพงจะเปิดทำงานตลอดแม้ไม่ได้เล่นเพลงครับ ส่วน Powersaver หากว่าเราไมาได้เปิดเพลงใช้งานเป็นเวลา 20 นาที ตัวลำโพงจะปิดตัวเองเข้าสู่ Standby mode เพื่อช่วยประหยัดไฟ ในกรณีที่ลืมเปิดทิ้งไว้ และจะกลับมาใช้งานได้ปกติ เพียงแค่เรากดที่ปุ่ม Wake หรือปุ่ม Source ที่แผงหน้าปัดด้านบนครับ ไม่ต้องเปิด-ปิดใหม่จ้าา
รูวงกลมรีๆด้านหลังนี้เป็นท่อลม Bass Reflex ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของทาง Marshall ที่ช่วยจูนให้เสียงต่ำลงได้ลึก และมีพลังมากๆ ซึ่งการจูนท่อลมนั้นมีผลอย่างมากกับเสียงที่ได้ครับ หากว่าใครเจาะรูลมกันมั่วๆ รับรองว่าเสียงไม่ดีแน่ๆ อาจจะแย่กว่าเดิมด้วยซ้ำครับ
หงายท้องดูช่วงล่างกันหน่อย ในส่วนนี้ไม่มีอะไรพิเศษครับ มียางรองลำโพงยึดน็อตไว้ 4 จุด สำหรับวางใช้งานบนโต๊ะ หรือพื้นก็ย่อมได้ครับ
มาถึงช่วงทดสอบการใช้งานครับ เริ่มกันด้วยภาค Bluetooth ก่อนเลยครับ เปิดเครื่องเริ่มจับคู่ค้นหาลำโพง ก็จะเจอลำโพง ACTON ครับ สามารถกดเชื่อมต่อได้เลย เท่านี้ก็พร้อมฟังแล้วครับ ผมเปิดเพลงโดยใช้โปรแกรม Onkyo Hf Player จากมือถือ ซึ่งเท่าที่ทดสอบมา เป็นโปรแกรมที่ใช้งานง่าย และให้เสียงที่ดีกว่าเปิด itunes ในมือถือเยอะเลยครับ
เริ่มฟังเพลงของ Diana Krall กันก่อนเลย การเซ็ทติ้งของผมนั้นเปิด Volume ไปที่ตรงกลาง และ BASS กับ Treble ก็ไว้ตรงกลางเช่นกันครับ ในการปรับจูนนี้สามารถปรับเปลี่ยนตามขนาดห้อง หรือความชอบส่วนตัวของผู้ฟังได้นะครับ แต่ผมเทสตรงกลางเพราะไม่อยากให้แต่เติมมาก จะได้จับบุคคลิคเสียงของ ACTON ได้ถูกต้องครับ
เปิดมาเพลงแรกผมก็ต้องรู้สึกอึ้งกับเสียงของมัน เพราะว่าเจ้า ACTON ให้เสียงที่สเกลใหญ่เกินตัวมากๆ เกือบจะรู้สึกเหมือน Stanmore รุ่นพี่เลยทีเดียว ผมไม่รู้ว่า Marshall มีเคล็ดลับอย่างไร ถึงทำให้เสียงของ Driver 4" ออกมาได้ดีถึงขนาดนี้ ส่วนของเสียงแหลมนั้นก็กลมกลืนกัน ฟังแล้วรู้สึกว่าเสียงแต่ละย่านกลืนกันดี อาจจะเป็นเพราะการออกแบบจุดตัดการทำงานของ Driver ทั้งเสียงต่ำและแหลม ที่ 4.2kHz นั้นลงตัว กับลำโพงตัวนี้มาก ฟังแล้วไร้รอยต่อ ทอเต็มผืนจริงๆครับ
การเชื่อมต่อแบบ Bluetooth ของ ACTON นั้นให้เสียงที่ดีมากๆ แม้อาจจะสู้การต่อสายตรงๆไม่ได้ แต่ถ้าเทียบกับความสะดวกสบายที่ได้ ผมว่าแจ๋วมากๆๆเลยล่ะครับ ว่าแล้วก็มาฟังแบบต่อสายต่อเลย เพลงที่ใช้เทสเป็นของ Clair Martin ครับชื่อเพลง Black Cooffe ซึ่งบันทึกเสียง มาได้ดีมาก จังหวะจะโคน ท่วงทำนองของเพลงนั้นถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างเร้าใจ เพราะเสียงโดยรวมของเจ้า Marshall ACTON นั้นจะหนักแน่น และมีพลังมากๆๆครับ ยิ่งถ้าเป็นพวกเสียงกระเดืองกลอง หรือเสียง Snare จะรับรู้ได้ถึงความตึงหนังกลองเลยครับ เร้ามากๆ
และที่ขาดไม่ได้คือเสียงกีต้าร์ และเสียงเครื่องดนตรีต่างๆ ซึ่งทาง Marshall ถนัดสุด เสียงเครื่องดนตรีต่างๆนั้นฟังดูมีชีวิตชีวา ดุจเหมือนนั่งฟัง การเล่นดนตรีสดๆ แถมนักดนตรีทุกคนเล่นเอามันส์ เหมือนกับจ้างมา 200 เล่นไป 20,000 เกินค่าตัวที่จ้างมาไปเยอะครับ เสียงทั้งหมดถูกเผยออกมาจากแผงหน้าลำโพงที่ถูกจูนมาอย่างดี ทำให้เสียงทั้งหมดนั้นกลมกลืน และดูมีพลัง ขนาดใหญ่เกินตัวไปมากๆ และผมขอแนะนำเลยว่า ถ้าต้องการให้ ACTON เสียงดีเต็มที่ของมัน ควรจะตั้งลำโพงไว้กับพื้นแข็ง หรือโต๊ะแข็งๆหน่อยครับ แล้วจะได้สัมผัสพลังของมันเต็มที่เลยจ้าา
หลังจากที่ได้ลองฟัง Marshall ACTON อยู่พักใหญ่ๆ ผมประทับใจมันมากครับ ด้วยขนาดตัวที่เล็กแบบนี้ แต่พอได้เปิดฟังเสียงเท่านั้นแหละ ให้ใครลองฟังก็ต้องประหลาดใจครับ คือเสียงเกินที่ทุกคนคาดคิดไว้เยอะ ถ้าหากท่านกำลังมองหาลำโพง Bluetooth ที่ให้เสียงใหญ่มีพลัง ฟังแล้วรู้สึกคึกคัก สนุกสนานไปกับจังหวะเพลง ใช้งานได้ทั้งในห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน หรือใช้ outdoor เบาๆ ร้านอาหาร ร้านกาแฟเล็กๆก็ย่อมได้ครับ ผมรับรองเลยว่าท่านจะประทับใจน้ำเสียง และพลังของเจ้า Marshall ACTON อย่างแน่นอนคร้าบบบ ^^
ลำโพง Marshall ACTON
Bluetooth Speaker
ราคา 11,900 บาท
รีวิวโดย : หมูหวาน 086-810-7374
//www.hifilover.com
SPEAKER SPECIFICATION
CLASS D AMPLIFIERS 2X8W+1X25W
3⁄4” DOME TWEETER 2X
4" WOOFER 1X
BASS AND TREBLE TONE CONTROLS
FREQUENCY RANGE 50- 20.000Hz
CROSSOVER FREQUENCY 4200Hz
WEIGHT 3KG
SIZE 265 X 160 X 150MM