ไทยรัฐ สำนักข่าวอันดับ 1 ของไทย | ไทยรัฐออนไลน์ ไทยรัฐออนไลน์
- ข่าว
- พระราชสำนัก
- ทั่วไทย
- ในกระแส
- การเมือง
- เศรษฐกิจ
- ต่างประเทศ
- อาชญากรรม
- ยานยนต์
- เทคโนโลยี
- ราคาทองคำ
- รายงานพิเศษ
- วิดีโอ
- หนังสือพิมพ์
- ไทยรัฐทีวี
- ดูย้อนหลัง
- ผังรายการ
- Live
- ไลฟ์สไตล์
- กีฬา
- ฟุตบอลต่างประเทศ
- ฟุตบอลไทย
- Sport insider
- ไฟต์สปอร์ต
- กีฬาโลก
- วิดีโอ
- แกลเลอรี่
- ซีเกมส์ 2021
- บันเทิง
- ดวง
- หวย
- นิยาย
- โปรโมชั่น
- ซื้อ-ขาย
- ส่วนลด
- เช็คราคา
- ThairathPlus
เกียร์ออโต้ ขับยังไงไม่ให้เกียร์พังเร็ว!
LiveLive
วิธีการขับรถยนต์เกียร์อัตโนมัติ
การขับรถเกียร์ Auto
ตำแหน่งของเกียร์ออโต้
1. P ( Parking ) ใช้สำหรับจอดรถ ซึ่งจะล็อคล้อไว้ไม่ให้รถเคลื่อน โดยเราจะเปลี่ยนเกียร์มาที่ P เมื่อจอดรถนิ่งสนิทแล้ว และต้องการดับเครื่อง
เลิกใช้งาน หรือเมื่อต้องการจอดรถบนทางลาดชัน (ข้อแนะนำ : ควรดึงเบรกมือ เสริมด้วย เพื่อป้องกันเกียร์เสียหาย ถ้าถูกชนท้าย) นอกจากนั้น ก่อนสตาร์ทรถตำแหน่งเกียร์ควรจะอยู่ที่ P เช่นเดียวกัน
2. R ( Reverse ) คือ เกียร์ถอยหลัง โดยเมื่อเกียร์มาอยู่ที่ตำแหน่ง R นี้แล้ว รถจะถอยหลังไปได้เองอย่างช้าๆ
โดยไม่ต้องเหยียบคันเร่งเลย (ข้อแนะนำ : ขณะกำลังถอยหลัง ไม่ควรเหยียบคันเร่ง เพราะจะทำให้รถถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว อาจจะชนคนได้ ดังนั้นควรวางเท้าไว้ที่บนแป้นเบรค เพื่อเตรียมพร้อมในการเหยียบเบรคขณะทำการถอยหลัง)
อ้างอิงรูปภาพ www.hugger-thai.com/wizContent.asp?wizConID=134&txtmMenu_ID=7
3. N ( Neutra ) คือ เกียร์ว่างใช้เมื่อต้องการจอดรถไว้ชั่วคราว เช่น ขณะจอดรถติดไฟแดง และเมื่อเกียร์อยู่ในตำแหน่ง N นี้ รถจะสามารถถูกเข็นไปได้ (เวลาที่เราจอดรถขวางหน้ารถคันอื่นๆ ตามห้างควรใส่เกียร์ว่างและปลดเบรคมือออกด้วย)
4. D ( Drive ) เป็นตำแหน่งเกียร์เดินหน้าและใช้ในการขับขี่ตามปกติ โดยตำแหน่งเกียร์จะปรับเปลี่ยนเองตามคำสั่งของสมองกลที่ควบคุม
ยกเว้นรถยนต์บางรุ่นที่มีสวิทช์ปรับเปลี่ยนระบบเกียร์และผู้ใช้เปิดสวิทช์เพื่อใช้งานในการปรับตำแหน่งเกียร์ด้วยตัวเอง
อ้างอิงรูปภาพ //fhamazda.blogspot.com/2015/02/n-d_73.html
5. 3 หรือ D3 คือ เกียร์เดินหน้า 3 Speed ส่วนใหญ่ใช้ในการขับขึ้น-ลงเนินที่ไม่ชันมาก เช่น ขึ้นสะพาน โดยรถจะเปลี่ยนเกียร์เองอัตโนมัติ โดยเริ่มจากเกียร์ 1 แล้วไปเกียร์ 2 จนถึงสูงสุด นอกจากนี้เรายังใช้ในกรณีที่ต้องการเร่งแซงรถที่อยู่ข้างหน้าด้วย โดยขณะที่รถวิ่งด้วยตำแหน่งเกียร์ D4 เป็นระยะเวลานาน เมื่อเปลี่ยนเป็นเกียร์ D3 จะทำให้เครื่องยนต์มีกำลัง ทำให้เครื่องแรงและสามารถแซงไปได้อย่างรวดเร็ว
6. 2 หรือ D2 คือ เกียร์เดินหน้า 2 Speed ใช้เมื่อต้องการขับรถขึ้น-ลงเนิน หรือเขาที่ค่อนข้างชัน หรือ ขับขึ้น-ลงตามห้าง โดยรถจะเปลี่ยนเกียร์เองอัตโนมัติ โดยเริ่มจากเกียร์ 1 จนถึงสูงสุดที่เกียร์ 2
7. L ( Low ) คือ เกียร์ 1 ซึ่งจะใช้ในการขับขึ้น-ลงเขาที่สูงชันมากๆ เมื่อลงเขาด้วยเกียร์ L จะเป็นการใช้เครื่องยนต์ช่วยเบรค เพื่อลดการเหยียบเบรค เพราะอาจจะทำให้ผ้าเบรคหมดเร็วได้
ขั้นตอนวิธีการขับรถเกียร์อัตโนมัติ
1. การสตาร์ท ตำแหน่งเกียร์ควรอยู่ที่ P ใช้เท้าขวาเหยียบเบรคไว้ แล้วก็บิดกุญแจสตาร์ท
2. การขับเดินหน้า ขณะที่เท้ายังคงเหยียบเบรค ให้เลื่อนตำแหน่งเกียร์มาเป็นตำแหน่ง D หรือ D4 จากนั้นค่อยๆ ผ่อนเท้าออกจากเบรค ซึ่งตอนนี้รถจะแล่นไปได้เองอย่างช้าๆ แล้วเราจึงค่อยๆ
เหยียบคันเร่งเพื่อให้ได้ตามความเร็วที่เราต้องการ
3. การขับขึ้นลง ทางลาดชัน ผ่อนความเร็วรถแล้วเลื่อนเกียร์มาที่ตำแหน่ง L แล้วก็เหยียบคันเร่งไปตามความต้องการ
4. การเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ L มาเป็น D ผ่อนความเร็วแล้วเลื่อน มาที่ตำแหน่ง D แล้วขับไปตามปกติ
อ้างอิงรูปภาพ www.emdadkhodrosaipa.com
5. การจอดรถ ค่อยๆผ่อนความเร็วรถเมื่อรถจอดสนิทก็เลื่อนตำแหน่งมาที่ P ใส่เบรคมือดับเครื่อง
6. การจอดรถในลักษณะกีดขวางคันอื่น หรือการจอดแบบปลดเกียร์ว่าง เมื่อจอดปกติตามข้อ 3 แล้วแต่ไม่ต้องดึงเบรคมือขึ้นก็กดปุ่มเล็กๆ แล้วเลื่อนตำแหน่งเกียร์ไปที่ N
7. การจอดกรณีติดไฟแดง
เหยียบเบรคค้างไว้แล้วเลื่อเกียร์มาที่ตำแหน่ง N
8. การถอยหลัง เหยียบเบรคค้างไว้แล้วเลื่อนเกียร์มาที่ตำแหน่ง R ค่อยๆผ่อนเบรคเพราะรถจะได้ถอยได้เอง แต่ถ้าต้องการให้ถอยเร็วหรือกรณีถอยขึ้นที่สูงก็อาจจะเหยียบคันเร่งแบบค่อยเหยียบ
อ้างอิงรูปภาพ //siamcarweb.com
อ้างอิงข้อมูลจาก Appication สอบใบขับขี่ 2559 Driving Licence