ถ้าบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่เกิน ฿5,000,000 และรายได้จากการขายสินค้าหรือให้บริการตลอดทั้งปี (รอบระยะเวลาบัญชี) ไม่เกิน ฿30,000,000 จะได้รับอัตราภาษีพิเศษสำหรับ SME ดังนี้12
กำไรสุทธิอัตราภาษีภาษีสะสม≤ ฿300,000ยกเว้น฿0> ฿300,000 – ฿3,000,00015%>฿0 – ฿405,000> ฿3,000,00020%> ฿405,000อัตราทั่วไป
ในกรณีที่ไม่ใช่ SME จะเสียภาษีในอัตราคงที่ 20% ของกำไรสุทธิตั้งแต่บาทแรก
กำไรสุทธิอัตราภาษี> ฿020%ติดต่อ iTAX sme เพื่อรับบริการวางแผนภาษีธุรกิจ ตั้งบริษัท ทำบัญชี จด VAT ภาษีเงินได้นิติบุคคล และอื่นๆ โทร. 062-486-9787
ท่านใดต้องการบริการรับทำบัญชี ทางเรามีโปรแกรมบัญชีออนไลน์ให้ใช้ฟรี สามารถออกเอกสารหน้าตาสวยงามผ่านโปรแกรมได้ ดูรายละเอียดที่นี่ : รับทำบัญชี
ประวัติผู้เขียน / ผู้สอน
- ปริญญาตรีบัญชี ธรรมศาสตร์
- ปริญญาโทเศรษฐศาสตร์การเงิน NIDA
- ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต (CPA)
- ประกาศนียบัตรการรายงานทางการเงินไทย (DipTFR)
- Audit Manager ที่ EY (ประสบการณ์ 8 ปี ใน Big4)
- ดูใบประกาศทางวิชาชีพ
- ดูรีวิวจากลูกค้า
- About me
สารบัญ
- ฐานภาษีคืออะไร
- ประเภทของฐานภาษี
- ฐานภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
- ฐานภาษีเงินได้นิติบุคคล
- ฐานภาษีมูลค่าเพิ่ม
- ฐานภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย
- สรุป
ฐานภาษีคืออะไร
ฐานภาษีเป็นฐานจำนวนเงินที่ใช้ในการคำนวณเพื่อเสียภาษี ยกตัวอย่างเช่น ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ฐานภาษีคือ เงินได้สุทธิซึ่งเกิดจากการนำเอาเงินได้พึงประเมินหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน ฐานภาษี หรือกรณีภาษีมูลค่าเพิ่ม ฐานภาษีมูลค่าเพิ่มคือ มูลค่าของสินค้าและบริการ เป็นต้น
ประเภทของฐานภาษี
ฐานภาษีหากเราลองแบ่งตามที่มาในการจัดเก็บจะสามารถแบ่งได้ออกเป็น 3 ประเภทหลักๆดังนี้
- ฐานภาษีจัดเก็บจากฐานรายได้ : กรณีนี้หากผู้ประกอบการมีรายได้มากก็จะต้องเสียภาษีมาก ยกตัวอย่างเช่น ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ที่เก็บภาษีจากฐานเงินได้สุทธิ หรือ ภาษีเงินได้นิติบุคคล ที่เก็บจากฐานกำไรสุทธิ
- ฐานภาษีจัดเก็บจากฐานการบริโภค : กรณีนี้หากผู้เสียภาษีบริโภคมาก ก็จะต้องเสียภาษีมาก เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่เสียภาษีจากมูลค่าสินค้าหรือบริการ ภาษีสรรพสามิต ภาษีศุลกากร
- ฐานภาษีจัดเก็บจากทรัพย์สิน : กรณีนี้หากผู้ประกอบการมีทรัพย์สินมากก็จะต้องเสียภาษีมาก เช่น ภาษีรถยนต์ ภาษีที่ดิน เป็นต้น
ฐานภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ฐานภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เป็นฐานภาษีที่เรียกเก็บจากเงินได้สุทธิ ซึ่งมีวิธีในการคำนวณดังนี้
เงินได้สุทธิ = เงินได้พึงประเมิน – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อน
เมื่อได้เงินได้สุทธิแล้วก็ต้องคำนวณหาภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยเอาเงินได้สุทธิไปเข้าไปคำนวณในตารางอัตราภาษีดังนี้
จะเห็นได้ว่ายิ่งมีเงินได้มาก ก็คือการมีฐานภาษีมาก ก็จะต้องเสียภาษีมากขึ้นนั่นเอง
ศึกษาเพิ่มเติมวิธีการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา : ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาคำนวณอย่างไร
ฐานภาษีเงินได้นิติบุคคล
ฐานภาษีเงินได้นิติบุคคล เป็นฐานภาษีที่เรียกเก็บจากกำไรสุทธิทางภาษี ซึ่งมีวิธีในการคำนวณดังนี้
กำไรสุทธิทางบัญชี = รายได้ – ค่าใช้จ่าย
กำไรสุทธิทางภาษี = กำไรสุทธิทางบัญชี + ค่าใช้จ่ายที่ไม่ให้ถือเป็นรายจ่ายทางภาษี – รายได้ที่ไม่ถือเป็นรายได้ทางภาษี
เมื่อได้กำไรสุทธิทางภาษีแล้วก็ต้องคำนวณหาภาษีเงินได้นิติบุคคล โดยเอากำไรสุทธิทางภาษีไปคำนวณในตารางอัตราภาษีดังนี้
ตารางอัตราภาษีข้างต้นจะแบ่งออกเป็น 2 กรณีคือกรณีที่เป็น SME และ Non SME
จะเห็นได้ว่ายิ่งมีกำไรสุทธิทางภาษีมาก ก็คือการมีฐานภาษีมาก ก็จะต้องเสียภาษีมากขึ้นนั่นเอง
ศึกษาเพิ่มเติมวิธีการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล : ภาษีเงินได้นิติบุคคลคืออะไร
ฐานภาษีมูลค่าเพิ่ม
ฐานภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นฐานภาษีที่เรียกเก็บจากการอุปโภคบริโภค นั่นคือมูลค่าของสินค้าและบริการที่ขาย ยกตัวอย่างวิธีในการคำนวณดังนี้
ภาษีขาย = ยอดขาย x 7%
ภาษีซื้อ = ยอดซื้อ x 7%
ภาษีมูลค่าเพิ่มที่นำส่งสิ้นเดือน = ภาษีขาย – ภาษีซื้อ
จะเห็นได้ว่ายิ่งมียอดขายมาก ก็คือการมีฐานภาษีมูลค่าเพิ่มมาก ก็จะต้องเสียภาษีมากขึ้นนั่นเอง
ฐานภาษีมูลค่าเพิ่มจะแบ่งออกได้เป็น 4 กรณีดังนี้
- ฐานภาษีมูลค่าเพิ่มกรณีทั่วไป
- ฐานภาษีมูลค่าเพิ่มกรณีส่งออก
- ฐานภาษีมูลค่าเพิ่มกรณีนำเข้า
- ฐานภาษีมูลค่าเพิ่มกรณีพิเศษ
ฐานภาษีมูลค่าเพิ่มกรณีทั่วไป – คือ มูลค่าทั้งหมดที่ผู้ประกอบการได้รับหรือพึงได้รับจากการขายสินค้า หรือให้บริการ รวมไปถึงภาษีสรรพสามิต แต่ไม่รวมถึง
- ส่วนลดหรือค่าลดหย่อน ที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนได้ลดให้ในขณะขายสินค้า
- ค่าชดเชยหรือเงินอุดหนุนตามที่อธิบดีกำหนดโดยอนุมัติรัฐมนตรี
- ภาษีขาย
- ค่าตอบแทนที่มีลักษณะ และเงื่อนไขตามที่อธิบดีกำหนดโดยอนุมัติรัฐมนตรี
ฐานภาษีมูลค่าเพิ่มกรณีส่งออก – ราคา F.O.B + ภาษีสรรพสามิต + ภาษีอื่นๆ + ค่าธรรมเนียมอื่น แต่ไม่รวมอากรขาออก
ฐานภาษีมูลค่าเพิ่มกรณีนำเข้า – ราคา C.I.F + ภาษีสรรพสามิต + อากรขาเข้า
หมายเหตุ : ราคา F.O.B. คือ ราคาสินค้า ณ ด่านศุลกากร ไม่รวมกับค่าขนส่ง และค่าประกันภัย ราคา C.I.F. คือ ราคาสินค้ารวมประกันภัย กับค่าระวางหรือค่าขนส่ง