พระมงคลทิพย์มุนี (ท่านเจ้าจุ้ย) วัดสามปลื้ม ท่านเป็นลูกศิษย์ของท่านเจ้ามา วัดสามปลื้ม ,มีความเชี่ยวชาญทางวิปัสสนากรรมฐาน แต่เป็นที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งที่พระของท่านขาดคนรู้จัก ทั้งๆที่เนื้อหา มวลสารก็ดี มีส่วนผสมจากพระเนื้อผงที่นำมาจากกรุวัดสามปลื้ม ที่แตกหัก และท่านยังผสมผงใบลานลงไปด้วย จึงพบทั้งพระเนื้อดำ และเนื้อขาว ในส่วนของพระเนื้อขาว จะหายากกว่าเนื้อที่ผสมผงใบลานครับ องค์นี้สภาพสวยเดิมมากๆเลยครับ
คลิกดูวิธีการสั่งซื้อ
หลังจากท่านโอนเงินเรียบร้อยแล้วรบกวนท่านแจ้งมาทางเว็บในช่อง
สั่งซื้อจอง/ชำระเงิน หัวข้อ(ด้านบนของหน้าแรกเว็บ) พร้อมกรอกรายละเอียด เมื่อทางเราตรวจสอบเรียบร้อยจะจัดส่งของภายใน 2 วันทำการไปรษณีย์ แล้วจะแจ้งหมายเลขจัดส่งให้ท่านทราบใน e-mail ของท่าน
วัดสามปลื้ม หรือ วัดจักรวรรดิราชาวาส วรมหาวิหาร เป็นวัดเก่าแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เป็นอีกวัดหนึ่งที่มีพระกรุอันลือชื่อคือ พระกรุวัดสามปลื้มสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2414 ในสมัยที่พระธรรมานุกูล (ด้วง) ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ท่านเจ้าอาวาสรูปนี้เป็นพระในสายวิปัสสนากรรมฐาน ท่านจึงได้ส่งเสริมการปฎิบัติวิปัสสนาสมถกรรมฐานแก่พระภิกษุสามเณรจนคณะ “กุฎิ” เป็นคณะสงฆ์ที่รุ่งเรืองมากในยุคนั้น ในบรรดาพระภิกษุเหล่านี้มีพระเถราจารย์ท่านหนึ่ง คือ ท่านพระอาจารย์ช้าง เป็นผู้ที่มีศีลาจารวัตรที่น่านับถือและแก่กล้าในด้านวิทยาอาคมได้ร่วมกับพระภิกษุสงฆ์แห่งคณะกุฎิและฆราวาสอีกหลายท่านช่วยกันสร้างพระกรุวัดสามปลื้มนี้
พระกรุวัดสามปลื้ม ได้แตกกรุออกมารวม 3 ครั้ง คือ ครั้งแรกพบอยู่ในซากพระเจดีย์ พบเจอโดยลูกศิษย์วัด ครั้งที่ 2 และ ครั้งที่ 3 พบโดยการรื้อพระเจดีย์ ในสมัยที่ท่านพระคุณาจารวัตร (ใช้ สุวณฺโณ) เป็นเจ้าอาวาสเมื่อปี พ.ศ. 2463
และปี พ.ศ. 2483 พระกรุนี้แตกออกมาจากพระเจดีย์รวมกัน 3 พระเจดีย์มีจำนวนพระประมาณ ๘๔,๐๐๐ องค์ พิมพ์ทรงมีมากหลายสิบพิมพ์ มีทั้งพระ เนื้อผงขาว-ผงดำ และเนื้อชินเงิน
พระผงรัศมีท่านเจ้าจุ้ย วัดสามปลื้ม กรุงเทพฯ
พระมงคลทิพย์มุนี (ท่านเจ้าจุ้ย) วัดสามปลื้ม ท่านเป็นลูกศิษย์ของท่านเจ้ามา แห่งวัดสามปลื้ม ปรามาจารย์ผู้สร้างพระชัยวัฒน์อันลือลั่น ท่านเจ้าจุ้ยนั้น เป็นพระสงฆ์ที่เชี่ยวชาญทาง วิปัสสนากรรมฐานเป็นที่เลื่องลือมาก
วัตถุมงคลที่ท่านสร้าง และเป็นที่รู้จักและนิยม เล่นหากันอย่างขว้างขวางได้แก่พระชัยวัฒน์ พระผง โดยด้านหลังจะปั๊มยันต์ลึกตัว (อัง) สร้างปี พ.ศ.2475 มวลสารหลักในการสร้างพระท่านเจ้าจุ้ยจะเป็นผงใบลานเก่า เผาไฟผสมกับชิ้นส่วนของพระกรุของพระวัดสามปลื้ม ที่แตกหักจำนวนมาก
พระผงรัศมีท่านเจ้าจุ้ย มีเอกลักษณ์เป็นที่รู้จักกันทั่วไปว่าเป็นพระพิมพ์เล็บมือ ด้านหลังปั๊มยันต์ ลึกลงไปในเนื้อ พุทธานุภาพเด่นด้านคงกระพัน และพุทธคุณทาง เมตตามหานิยม นับว่าเป็นพระดีราคาเบาอีกองค์หนึ่งเลยก็ว่าได้
รุ่งขึ้นเช้าวันที่ ๑๐ ตุลาคม พระพุทธศักราช ๒๔๕๗ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำสรงศพ ฝ่ายสงฆ์ที่ทรงสมณศักดิ์ มีสมเด็จพระบรมวงศ์เธอ กรมพระยาวชิรญาณวโรรส มหาสังฆนายก เสด็จเป็นปราน แล้วมีสมเด็จพระบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยาภานุพันธุวงศ์วรเดช เสด็จภายหลัง กับทั้งบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการอีกมากที่ได้เสด็จและมาในวันนั้น ส่วนศพได้รับพระราชทานโกศ ๘ เหลี่ยม ฉัตร ๕ ชั้น ๔ คัน มีกลองชนะ เครื่องอินทร์ ๕ คู่ ปี่ไฉน ๑ คัน พระสงฆ์สวดพระอภิธรรมประจำ ๑ สร้าง มีกำหนด ๑ เดือน เป็นเกียรติยศยิ่ง ประวัติย่อพอสังเขปเพียงเท่านี้ท่านเจ้ามา วัดจักรวรรดิราชาวาส (วัดสามปลื้ม) พระพุฒาจารย์ มา อินฺทสโร หรือ ที่ชาวบ้านเรียกกันว่า ท่านเจ้ามา...
Posted by ตำนานเล่าขานพระผู้ทรงฌานอภิญญา ครูบาอาจารย์ผู้เรืองวิชาอาคม on Monday, January 4, 2016พระชัยวัฒน์ ท่านเจ้ามา วัดสามปลื้ม พิมพ์หน้าครุฑ
พระชัยวัฒน์ พระพุฒาจารย์ (มา) (ท่านเจ้ามา) พิมพ์หน้าครุฑ
จะมีพุทธลักษณะจะคล้ายกับพระชัยวัฒน์คอหนอก แต่ว่าองค์พระพิมพ์นี้จะยืดออก พระพักตร์จะแหงน พระนาสิกโด่งดั่งพญาครุฑ จนทำให้เกิดการเรียกขานชื่อพิมพ์ตามพระพักตร์ว่า "พิมพ์หน้าครุฑ" องค์พระปฏิมาประทับนั่งสมาธิแบบขัดราบ
ประทับฐานบัวสองชั้น และมีฐานรองรับอีกชั้นหนึ่งทำให้ฐานแลดูสูงกว่าพระชัยวัฒน์พิมพ์คอหนอกเนื้อพระส่วนมากจะเป็นแบบเนื้อ โลหะผสมวรรณะเหลืองอมน้ำตาลแดงหรือน้ำตาลแก่
พระชัยวัฒน์ของท่านเจ้ามา ที่ได้สร้างขึ้นไว้หลายพิมพ์ เช่น
-พิมพ์ล้มลุก
-พิมพ์ฟันปลา
-พิมพ์ฐานหกเหลี่ยม
-พิมพ์ ร.ศ. 118
-พิมพ์หน้าครุฑ
-พิมพ์เศียรทุย
-พิมพ์แจกแม่ค้า
-พิมพ์คอหนอก
-พิมพ์หน้ากระบี่
-พิมพ์ฐานสูง
-พิมพ์สิงหเสนี
ท่านเจ้ามา เป็นพระเกจิอาจาร์ย (สมัยรัชกาลที่5) โดยท่านเกิดวันที่ 13 เมษายน ปี พ.ศ. 2380 (สมัยรัชกาลที่ 3) ที่ อำเภอสามเพ็ง หรือ อำเภอสัมพันธวงศ์ตอนเป็นวัยรุ่นท่านมีนิสัยเป็นนักเลงเหมือนเพื่อนๆ ในละแวกบ้านท่าน เมื่ออายุ 25 ปี ได้อุปสมบทที่ วัดสามปลื้ม โดยมีพระอาจารย์นอง วัดสามปลื้ม เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านเจ้ามา มีความตั้งใจในการศึกษาเล่าเรียนทางพุทธศาสนา จึงมีความเจริญรุ่งเรืองในธรรมะ จนได้รับตำแหน่งหน้าที่การงานในคณะสงฆ์และได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระ ราชาคณะสูงสุดที่ "พระพุฒาจารย์" จนท่านได้มรณภาพเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2457 สิริอายุ 77 ปี