ประสบการณ์ เรียนต่อเยอรมัน

แต่มันต่างออกไปเลย ปาร์ตี้ในเยอรมนีคือการไปที่บาร์ด้วยกัน ดื่มเบียร์นิดหน่อย และก็คุยเรื่องทั่วๆไป อาจจะมีการเจอเพื่อนใหม่บ้าง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีปาร์ตี้สุดเหวี่ยงเลย เพียงแต่มันเกิดขึ้นน้อยกว่ามากแค่นั้น

2. ความสัมพันธ์แบบเชื่องช้า
หากจะจีบสาวหรือหนุ่มนักศึกษาในเยอรมนี เราจะได้เห็นความสัมพันธ์แบบอนุรักษ์นิยมที่ค่อยๆคืบคลานไป เริ่มจากเป็นเพื่อน เป็นเพื่อนสนิท และเป็นแฟน ซึ่งมีน้อยมากที่อยู่ดีๆจะชวนเดทแบบในอเมริกา

3. ระวังหัวข้อสนทนาให้มาก
ในฐานที่เราเป็นนักศึกษาต่างชาติและคนต่างถิ่น มีหลายเรื่องที่เราไม่ควรเริ่มต้นพูดก่อนเพราะจะเสียมารยาท ยกตัวอย่างเช่น การเงิน ความสัมพันธ์ของเพื่อน
และที่สำคัญอย่างเรื่องของ นาซี ซึ่งถ้าคนเยอรมันไม่เอ่ยปากขึ้นมาก่อน แล้วเราไปพูดเข้า ถือว่าเสียมารยาทและอาจจะนำไปสู่การทะเลาะวิวาทได้

4. หาเพื่อนใหม่ใน Wohngemeinschaften
นักศึกษาเยอรมันส่วนใหญ่เลือกจะอยู่มหาวิทยาลัยใกล้บ้าน พวกเขาจะได้อยู่บ้านได้ หรือบางทีก็อยู่ในหอพักราคาถูก ไม่ก็หอพักมหาวิทยาลัย (ซึ่งจริงๆเป็นเหมือนหอพักเอกชนในมหาวิทยาลัย) แต่เราสามารถมีเพื่อนได้ในการอยู่ WG ซึ่งย่อมาจาก Wohngemeinschaften เป็นคล้ายแฟลตแบบแชร์กันนั่นเอง

5. อย่าลืม…. พูดเยอรมัน
ถึงแม้ว่านักศึกษาเยอรมันอาจจะดูเย็นชา แต่พวกเขาก็ดีใจที่ได้พบเพื่อนใหม่ นอกจากนี้เขายังประทับใจอีกถ้าได้เจอเพื่อนใหม่ต่างชาติ ที่สามารถพูดภาษาเขาได้ดี ลองเล่าเรื่องของเราเองในภาษาเยอรมัน รับรองว่าจะเป็นที่ชื่นชอบของเพื่อนๆแน่

ที่มา: topuniversities

ร่วมแสดงความคิดเห็น...

SHARE

Facebook

Twitter

• tweet

WeGoInter

เตรียมตัวไปเรียนต่อเมืองนอกกับ www.WeGoInter.com เว็บดีๆที่จะทำให้การเรียนไกลบ้าน เป็นเรื่องง่ายนิดเดียว... :)

Schritt 0: จุดเริ่มต้น // แนะนำตัว

สวัสดีครับ อันนี้เป็นการเขียนบล็อกครั้งแรกของผม ไม่รู้ว่าเขียนแล้วทุกคนจะง่วงรึปล่าว 555 จะพยายามเขียนให้ไม่น่าเบื่อละกัน (เพราะชีวิตจิงๆของผม ค่อนข้างน่าเบื่อนะ 55) ยังไงก่อนอื่น ก็ต้องขอแนะนำตัวคร่าวๆก่อนเนอะ

ผมชื่อเจมส์ จบม.6 ที่ประเทศไทย แล้วใฝ่ฝันอยากจะมาเรียนต่อที่เยอรมนี เพราะเบื่อชีวิตเดิมๆ แล้วก็อยากหาประสบการณ์ใหม่ๆให้กับตัวเอง ตอนนี้เป็นนักเรียน(หรือนักศึกษาก็ไม่รู้ 555) ที่ Studienkolleg KIT (Karlsruhe Institut für Technologie) เป้าหมายคือ การเรียนต่อป.ตรี Mathematik ที่ Universität Bonn ครับ

แล้วถ้าถามว่าทำไมไม่ อังกฤษ อเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย อะหรอ... มันแพง!!
เผื่อใครยังไม่รู้ ว่าที่นี่ เรียนฟรี!! รวมถึงชาวต่างชาติด้วย อาจมีค่าใช้จ่ายแบบว่า ค่าธรรมเนียมนิดหน่อย ซึ่งรวมๆแล้ว ก็ไม่แพงไปกว่าค่าเทอมที่ไทยมากหรอกนะ

ตัวผมเองไม่ใช่นักเรียนทุน ดังนั้นการมาเรียนต่อที่นี่ จึงต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ซึ่งกว่าจะหาข้อมูล หรือทำเอกสารต่างๆได้ มันลำบากมากกกกกกก เพราะหาข้อมูลตามเน็ต มันก็แทบจะไม่มี แล้วส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับป.โท
ผมจึงอยากจะสร้างบล็อกเล่าประสบการณ์ เพื่อช่วยเป็นแนวทาง กับคนที่ยังสงสัยเกี่ยวกับการมาเรียนป.ตรีที่นี่ และหวังว่าเพื่อนๆ น้องๆ ทุกคนได้หันมาสนใจเรียนต่อที่นี่กันเยอะๆนะ

อ๋อ และผมก็อยากแนะนำแหล่งข้อมูลดีๆ ที่คอยช่วยเป็นแนวทางให้กับตัวเองด้วย (Link อยู่ด้านข้างนะจ้ะ) :)
- Petch in Deutschland บล็อกเล่าเรื่องราวของพี่เพชร กว่าจะได้มาเรียนเยอรมัน แล้วก็ประสบการณ์ท่องเที่ยว เหมือนไดอารี่ส่วนตัว แล้วก็สาระอื่นๆ เกี่ยวกับเยอรมันและยุโรป  ตอนนี้พี่เขาเรียนที่KIT เหมือนกัน มีประโยชน์มากจริงๆ แนะนำเลย ใครจะมาเรียนต่อป.ตรี เพราะมันคือแหล่งข้อมูลเดียวในตอนนี้ (และของผมจะเป็นที่ที่2 ในอนาคตไง อิอิ)

- EINS by DAO ทั้งเพจ Facebook และคลิป Youtube ที่คอยบอกเล่าเกร็ดภาษาเยอรมัน ประเทศเยอรมัน และข้อมูลการเรียนต่อระดับมหาลัย โดยครูดาว รวมทั้งมีคลิปสัมภาษณ์ของคนจากหลายๆสาขา ทำให้รู้ลึกถึงชีวิตการเรียน การใช้ชีวิตในเยอรมัน เรียกได้ว่า ดูได้เพลินๆ แต่ได้ความรู้ และแง่มุมใหม่ๆมาแบบเต็มจริงๆ

- DAAD เป็นหน่วยงานด้านการศึกษาและการทำวิจัยต่อที่ประเทศเยอรมนี มีออฟฟิศอยู่ตึกข้างๆสถาบันเกอเธ่แหละ ถ้ามีคำถามอะไรเฉพาะทาง หรือสอบถามทุน ลองไปขอคำปรึกษาดูได้ แต่ตัวเองต้องมีจุดมุ่งหมายนะ ไม่ใช่ไปแบบ "พี่ค่ะ หนูโง่เลข มหาลัยไหนสอนเลขไม่ยากค่ะ" อันนี้อาจจะโดนจิกหัวออกมาได้ เพราะเค้าไม่ใช่เอเจนซี่ที่คอยทำเอกสารเราให้ หรือรู้ทุกรายละเอียดของแต่ละมหาลัยนะ เค้าแค่ให้คำแนะนำว่าเราควรเตรียมตัวอย่างไรเฉยๆ

สุดท้ายนี้ ฝากคติประจำใจไว้หน่อย "มาเรียนเยอรมัน ต้อง.อด.ทน."... (เดี๋ยวจะเล่าวีรกรรมให้ฟังนะ ว่าทำไม อิอิ)
ถ้ามีอะไรเพิ่มเติม จะมาแก้ไขเรื่อยๆ ยังไงก็ฝากบล็อกแรกของผมไว้ด้วยนะครับ :D

Email ThisBlogThis!Share to TwitterShare to FacebookShare to Pinterest