ตัวขยายสัญญาณ wifi ใช้ได้จริงไหม

การเลือกใช้ WIFI Repeater เพื่อขยายระยะสัญญาณ WIFI

[20/01/2564] ในปัจจุบัน อุปกรณ์ MESH WIFI ราคาลงมาค่อนข้างเยอะมากครับ การทำ MESH จะดีกว่าการทำ Repeater เพราะได้เรื่องการ Roaming ที่มีประสิทธิภาพ แนะนำหัวข้อนี้ครับ  ขยายสัญญาณ WIFI ให้ครอบคลุมในบ้านง่ายๆด้วย WIFI-MESH

ปัญหาที่ผมเจอบ่อยๆจากลูกค้าเลยคือ สัญญาณ WIFI ตรงตำแหน่งที่จะใช้งาน รับสัญญาณได้น้อยมากหรือรับไม่ได้เลย ผลกระทบคือ เล่น net ไม่ได้ จะเดินสาย Lan ไปต่อกับ Access Point อีกตัวตรงตำแหน่งที่ต้องการ เราก็ต้องเจาะผนังบ้าน เดินสายลอย วุ่นวายกันพอสมควร และ ปัจจุบันถึงจะมีระบบ MESH Wireless ราคาก็ค่อนข้างแรงไป

หัวข้อนี้จะเป็นการแนะแนวทาง การแก้ปัญหาโดยการใช้อุปกรณ์ที่ทำ Repeater หรือ WIFI Extender มาขยายสัญญาณ WIFI ให้ไกลขึ้นครับ

ก่อนจะซื้อ Repeater ต้องมีการวัดระดับสัญญาณจากตัวต้นทางตรงตำแหน่งที่จะเอาตัว Repeater ไปตั้งไว้ด้วยนะครับ เพราะถ้ามันไม่มีสัญญาณ WIFI ซะเลย การทำ Repeater จะใช้ไม่ได้ครับ

ให้ทำตามขั้นตอนเบื้องต้นตามนี้ก่อนนะครับ

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม

Smartphone Android + ลง App Wifi Analyzer (ของผมใช้ App Wifi Overview 360) เพื่อวัดระดับสัญญาณ WIFI ถ้าเป็น iPhone จะไม่มี App พวกวัดระดับสัญญาณ WIFI ให้ใช้ครับ ต้องนับจากขีดสัญญาณเอา

จากรูปด้านบน จะเห็นว่าสัญญาณ WIFI จะส่งไปไกลได้ระดับนึง ปลายๆหางของสัญญาณจะได้ประมาณ 2 ขีด แต่ตำแหน่งที่ Device อยู่ จะรับสัญญาณไม่ได้เลย ถ้าวัดจาก Software จะอยู่ประมาณ -80dBm

(แนะนำให้วัดด้วย Software ครับ จะได้ค่าที่ละเอียดกว่า)

ค่าระดับสัญญาณหน่วย dBm ยิ่งติดลบมาก หมายถึงสัญญาณน้อยมาก ระดับสัญญาณที่พอจะใช้งานได้ ไม่ควรติดลบกิน -75 ครับ

รูปนี้เป็นระดับสัญญาณ WIFI ตรงตำแหน่ง A ครับ วัดระดับได้ -79dBm

ลอง Test Speed ได้ 18Mbps (เน็ทที่ Office ผม 200Mbps)

ถ้าเราจะซื้อ Repeater มาใช้ หมายถึงต้องวางตำแหน่งแถวๆระดับสัญญาณที่ไม่ต่ำกว่า -80dBm ไม่อย่างนั้น ตัว Repeater จะไม่สามารถจับสัญญาณแล้วมาขยายต่อได้ครับ

ลักษณะจะเหมือนกับรูปนี้ ถ้าเราไปว่าง Repeater ที่ตำแหน่ง B ซึ่งไม่มีสัญญาณ WIFI มาจาก Wireless Router ตัวต้นทาง ตัว Repeater ก็จะทำงานไม่ได้ครับ เราต้องหาตำแหน่งที่ประมาณจุด A หรือถ้าให้ดี ต้องเป็นตำแหน่ง X เพื่อให้การรับส่งสัญญาณได้ดีที่สุด

ทีนี้มาดูการเลือกตัว Repeater หรือ Extender

ดูใน Datasheet ได้เลยครับ จะต้องมีคำที่บอกว่า รองรับ Mode Repeater หรือ Range Extender หรือ จะดูจากใน Web ของทางร้านก็ได้ครับ มีหัวข้อ WIFI Repeater ให้เลือก

แต่ถ้าง่ายสุด..โทรสอบถามที่ร้านได้เลยนะครับ

ผมขอยกตัวอย่าง Wireless Repeater ของ TOTOLink รุ่น A3002RU รองรับ Mode Repeater สามารถเปลี่ยนชื่อสัญญาณ WIFI อันใหม่ออกมาเป็นชื่ออื่น หรือ จะเป็นชื่อเดิมก็ได้ครับ

Router ตัวต้นทางผมใช้เป็นของ NETIS รุ่น WF2780 ตัวนี้ก็รองรับ Repeater เหมือนกันนะครับ

การ Config บนอุปกรณ์ Wireless Router ของ TOTOLink จะคล้ายๆกันทุกรุ่น หน้าจอประมาณนี้เลย

เลือก Mode Repeater ให้ Repeat สัญญาณ 2.4GHz เพราะ 5GHz มันไม่ค่อยทะลุครับ ถ้าซื้อมาใช้แล้ว ให้ลองทดสอบดูครับ

เลือกเกาะสัญญาณที่เราจะขยายต่อ ตัวอย่างจะเป็นชื่อ Sysnet-Office-2.4GHz ตรงช่องเหลืองให้ใส่ Password ของสัญญาณ WIFI ตัวเก่า

ถ้าต้องการให้ขยายสัญญาณ WIFI เป็นชื่อใหม่ ให้ Click [Change SSID and Password] ใส่ชื่อสัญญาณ WIFI และ Password ใหม่ในช่องเขียวครับ

Save หรือ Apply ให้เรียบร้อย

ทีนี้เราก็นำตัว Repeater ไปวางตรงตำแหน่ง A ที่เราทดสอบไว้ครับ ถ้าให้ดีวางตัว Repeater ที่ตำแหน่ง X จะได้ความเร็วสูงสุด แต่ก็จะแลกกับระยะทางของสัญญาณได้น้อยลงครับ

ตรงตำแหน่งที่ใช้ Internet วัดระดับสัญญาณที่ได้จากตัว Repeater อยู่ที่ -58dBm และตัว Router ต้นทางได้ -58dBm แล้ว Connect WIFI ของตัว Repeater

ลอง Test Speed ได้ที่ 21Mbps

สงสัยมั้ยครับว่าทำไม ตำแหน่งที่เรา Test Speed ด้วยมือถือโดยเชื่อมต่อกับตัว Repeater มันถึงได้ค่าน้อยกว่า Test Speed ด้วยมือถือที่เชื่อมต่อกับ Router ต้นทาง ทั้งๆที่มันควรจะใกล้เคียงกัน

เพราะตัว Repeater มันรับสัญญาณได้ดีกว่ามือถือครับ จะเรียกค่านี้ว่า Receive Sentivity เสาอากาศใหญ่กว่า กำลังส่งสูงกว่า รับ-ส่ง สัญญาณได้ดี ความเร็วจึงย่อมดีกว่าครับ และได้ระยะทางของสัญญาณ WIFI ที่ไกลขึ้นกว่าเดิม

การทำ Repeater

ข้อดี

เราสามารถขยายระยะของสัญญาณ WIFI ได้ง่ายๆ ไม่ต้องเดินสาย Lan ไปหาตัว Access Point

ข้อเสีย

1. ความเร็วรวม จะลดลงค่อนข้างเยอะ ยิ่งถ้ามี Device มาเกาะสัญญาณกับตัว Repeater ความเร็วที่ได้จะลดลงอย่างเห็นได้ชัด (ในตัวอย่างผมใช้มือถือเกาะแค่เครื่องเดียวครับ เลยไม่ค่อยมีผลกับความเร็ว)
2. ไม่สามารถนำตัว Repeater มาขยายกับสัญญาณ ของ Repeater ได้อีกที พูดง่ายๆคือ มีตัวที่ 3 มา Repeat สัญญาณตัวที่ 2 ถ้าจะทำแบบนี้ต้องใช้พวก MESH WIFI ครับ
3. ความเสถียรจะน้อย มีค่า Delay Time เกิดขึ้น ถ้ามีผู้ใช้งานมาเกาะกันเยอะๆ จะมีปัญหาเวลาเราให้พวก IP-Camera ที่เป็น Wireless มาเชื่อมต่อกับตัว Repeater จะทำให้ภาพที่ดูค่อนข้างกระตุกครับ
4. การทำ Repeater จะเป็นการใช้คลื่นความถี่ที่มีอยู่ช่องสัญญาณเดียว ทั้งรับ-ส่ง จากตัว Main และ ยังต้องไปรับ-ส่ง กับตัว Device เพราะเหตุนี้ ถึงได้ทำให้ช้าขึ้นครับ

กรณีที่เราต้องการความเสถียรให้มากขึ้น ความเร็วเพิ่มมากยิ่งขึ้น ต้องเลือกใช้ Wireless Access Point/ Wireless Router ที่รองรับ MESH WIFI และเป็นแบบ 3 คลื่นความถี่ครับ (Tri-Band)

เท่านี้ก่อนครับ ถ้ามีข้อแนะนำเพิ่มเติม ใส่ใน Comment ได้เลยนะครับ