"ขายเนื้อสด (สัตว์) ไม่แปรรูป ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มไหม?" คำถามนี้ต้องขยายความเพิ่มเติมก่อนว่าเป็นการขายในรูปแบบเนื้อสดบรรจุใส่แพ็คซีนสูญญากาศ โดยมีขายผ่านออนไลน์ให้กับลูกค้า และมียอดขายเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี
สำหรับคนที่ยังไม่เข้าใจภาษีมูลค่าเพิ่ม สามารถดูเพิ่มเติมได้ทีคลิปด้านล่างนี้ก่อนครับ
ทีนี้มาถึงคำตอบกันบ้าง เรามักจะได้ยินว่า การขายเนื้อสัตว์ที่ไม่ผ่านการแปรรูปจะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ตามข้อกฎหมายที่ระบุไว้ดังนี้ครับ
อยากให้สังเกตคำว่า อยู่ในสภาพสด หรือ รักษาสภาพไว้มิให้เสียเป็นการชั่วคราวในระหว่างขนส่งหรือรักษาสภาพไว้เพื่อมิให้เสียเพื่อการขายปลีกหรือขายส่งตรงนี้ ซึ่งถ้ากรณีเนื้อสดบรรจุใส่แพ็คซีนสูญญากาศตรงนี้ เข้าเงื่อนไขที่ว่ามา คือ รักษาความสดเท่านั้น ย่อมถือว่าเป็นสินค้าที่ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มครับ
แต่หากมีการนำสัตว์ดังกล่าวมา ปรุงแต่งด้วยการใส่สารปรุงรสหรือสารกันเสีย หรือสารอื่นใด รวมถึงแปรสภาพเป็นอาหาร ที่บรรจุกระป๋อง ภาชนะหรือหีบห่อที่ทำเป็นอุตสาหกรรม ที่มีการบรรจุอย่างมั่นคง จะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) นั่นเองครับ
สำหรับคนที่มีคำถามเรื่องการแปรรูปอาจจะเช็คเพิ่มเติมจาก คำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 29/2535 เรื่อง การขายสัตว์ไม่ว่าจะมีชีวิตหรือไม่มีชีวิต ตามมาตรา 81(1)(ข) แห่งประมวลรัษฎากร
ข้อ 1 การขายสัตว์ไม่มีชีวิต เนื้อ ส่วนต่าง ๆ ของสัตว์ ไข่ น้ำนม และวัตถุพลอยได้จากสัตว์ในราชอาณาจักรในกรณีดังต่อไปนี้ ไม่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม
(1) การขายผลิตภัณฑ์อาหารซึ่งเกิดจากการนำเนื้อสัตว์ ส่วนต่าง ๆของสัตว์ ไข่ และวัตถุพลอยได้จากสัตว์ มาจัดทำโดยปรุงแต่งด้วยการใส่สารปรุงรสหรือสารกันเสีย หรือสารอื่นใดในลักษณะทำนองเดียวกัน และผลิตภัณฑ์อาหารดังกล่าวยังคงลักษณะเป็นเนื้อสัตว์ ส่วนต่าง ๆ ของสัตว์ ไข่ และวัตถุพลอยได้จากสัตว์ที่อยู่ในสภาพสด หรืออยู่ในลักษณะที่รักษาสภาพไว้เพื่อมิให้เสียในระหว่างขนส่ง หรืออยู่ในลักษณะที่รักษาสภาพไว้เพื่อมิให้เสียเพื่อการขายปลีกหรือขายส่ง ทั้งนี้ เฉพาะที่บรรจุกระป๋อง ภาชนะ หรือหีบห่อ ที่ผนึกในลักษณะมั่นคง
(2) การขายน้ำมันที่สกัดจากสัตว์ ไม่ว่าจะมีสารปรุงรสหรือสารกันเสีย หรือสารอื่นใดในลักษณะทำนองเดียวกันผสมอยู่ด้วยหรือไม่ ทั้งนี้ เฉพาะที่บรรจุกระป๋องภาชนะ หรือหีบห่อ ที่ผนึกในลักษณะมั่นคง
(3) การขายน้ำนมจากสัตว์ที่ได้นำมาจัดทำหรือปรุงแต่งไม่ว่าด้วยวิธีใด ๆ และไม่ว่าจะบรรจุกระป๋อง ภาชนะ หรือหีบห่อ ที่ผนึกในลักษณะมั่นคงหรือไม่แต่ไม่รวมถึงนมสดที่มิได้มีการปรุงแต่ง รสกลิ่น หรือสี
(4) การขายเนื้อสัตว์ ส่วนต่าง ๆ ของสัตว์ ไข่ น้ำนม สัตว์ไม่มีชีวิต และวัตถุพลอยได้จากสัตว์ ที่ได้แปรรูปหรือแปรสภาพเป็นอาหารหรือสินค้าอื่นที่ไม่เข้าลักษณะตาม (1) แล้ว ทั้งนี้ ไม่ว่าอาหารหรือสินค้าอื่นนั้นจะบรรจุกระป๋อง ภาชนะ หรือหีบห่อ ที่ผนึกในลักษณะมั่นคงหรือไม่
หรือลองดูแนวคำตอบเพิ่มเติมที่ขยายความไว้ตามข้อหารือที่ กค 0811/พ.4701 นี้ก็ได้ครับ
สินค้าตามมาตรา 81(1)(ข) แห่งประมวลรัษฎากรที่จะได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มต้องเป็นกรณีการขายสัตว์ไม่ว่าจะมีชีวิตหรือไม่มีชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเนื้อ ส่วนต่าง ๆ ของสัตว์ ไข่ น้ำนมและวัตถุพลอยได้จากสัตว์ ทั้งนี้ ที่อยู่ในสภาพสด หรือรักษาสภาพไว้มิให้เสียเป็นการชั่วคราวในระหว่างขนส่ง หรือรักษาสภาพไว้เพื่อมิให้เสียเพื่อการขายปลีกหรือขายส่ง แต่การขายสัตว์ดังกล่าวจะไม่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม หากมีการนำสัตว์ดังกล่าวมาแปรสภาพเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร ที่บรรจุกระป๋อง ภาชนะหรือหีบห่อที่ทำเป็นอุตสาหกรรม ฉะนั้น ผลิตภัณฑ์อาหารจึงหมายถึงอาหารสำหรับคนเท่านั้น
อ้อ ต้องแยกเรื่องให้ดีด้วยนะครับ เพราะกรณีนี้เราคุยกันเรื่องของภาษีมูลค่าเพิ่มอย่างเดียว ส่วนเรื่องภาษีเงินได้ ต้องเสียอยู่แล้ว โดยขึ้นอยู่กับรูปแบบของการทำธุรกิจครับว่าเป็นบุคคล หรือ นิติบุคคล
สุดท้ายนี้ พรี่หนอมฝากทุกคนติดตามบทความภาษีที่ บล็อกภาษีข้างถนน และแฟนเพจ TAXBugnoms ด้วยนะครับ ขอบคุณครับผม
ทั้งนี้ถ้าคุณเป็นผู้ประกอบการรายเล็กๆ หรือรายย่อย* ละก็ ทางสรรพากรเขาจะกำหนดจำนวนเงินไว้ นั่นก็คือ ต้องออกใบเสร็จรับเงินเมื่อขายสินค้าหรือบริการแต่ละครั้งเกิน 100 บาทขึ้นไป
แต่สำหรับผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มสรรพากรก็บอกว่าสำหรับผู้ประกอบการจดทะเบียนซึ่งได้มีการออกใบกำกับภาษีที่มีข้อความแสดงว่า “ได้รับเงิน” หรือได้ “ชำระราคา” จะถือเอาใบกำกับภาษีนั้นเป็นใบรับก็ได้นะครับ
ทำธุรกิจแบบไหน ออกใบเสร็จรับเงินอย่างไร
ใบเสร็จรับเงิน เป็นเอกสารที่ทุกธุรกิจทั้งให้ธุรกิจให้บริการ ขายส่ง และขายปลีก ต้องออกให้ลูกค้าเมื่อเราได้รับเงิน เพื่อใช้เป็นหลักฐานว่าได้มีการจ่ายเงินและได้รับเงินกันแล้ว
ธุรกิจให้บริการ ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วให้ออก ใบกำกับภาษี/ใบเสร็จรับเงิน เมื่อทำงานเสร็จและได้รับเงินจากลูกค้า
ธุรกิจขายส่ง ที่มีการส่งของและออกใบกำกับภาษีหลายรอบ สามารถใช้ FlowAccount ทำใบเสร็จรวม (Cumulative Receipt) ต่อจากใบวางบิลรวมได้เลย จะได้ไม่ต้องออกเอกสารซ้ำไปมาหลายๆ ครั้ง
ส่วนธุรกิจขายปลีก ออก ใบกำกับภาษีอย่างย่อ/ใบเสร็จรับเงิน ในตอนส่งของและรับเงินจากลูกค้าพร้อมกัน แต่ถ้ายังไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ก็ออกใบเสร็จได้เลย
ฟอร์มใบเสร็จรับเงิน
ใบเสร็จรับเงินที่สมบูรณ์ ที่ท่านมั่นใจได้เลยว่าออกให้กับคนอื่นได้อย่างถูกต้อง สามารถเอาไปหักค่าใช้จ่ายทางบัญชีและภาษีได้แน่นอนนั้น อย่างน้อยต้องมีตัวเลขและอักษรไทย และประกอบด้วยรายละเอียดดังต่อไปนี้
- เลขประจำตัวผู้เสียภาษีของผู้ออกใบรับ
- ชื่อหรือยี่ห้อของผู้ออกใบรับ
- เลขลำดับของเล่มและของใบรับ
- วันเดือนปีที่ออกใบรับ
- จำนวนเงินที่รับ
- ชนิด ชื่อ จำนวนและราคาสินค้า
โดยถ้าจัดทำใบรับ/ใบเสร็จรับเงินเป็นภาษาอังกฤษจะต้องมีภาษาไทยกำกับด้วยนะครับ
ใบเสร็จรับเงิน ภาษาอังกฤษ
กรณีที่คุณต้องออกใบเสร็จรับเงินให้กับลูกค้าต่างชาติ คุณสามารถใช้โปรแกรมบัญชี FlowAccount ออกใบเสร็จรับเงิน ภาษาอังกฤษได้เช่นเดียวกัน เพียงคลิกเปลี่ยนภาษาในระบบ แล้วเริ่มต้นกรอกรายละเอียดก็จะได้เป็นใบเสร็จรับเงิน ภาษาอังกฤษที่ถูกต้อง ไม่ต้องเสียเวลาสร้างฟอร์มเองเลยครับ
ใบเสร็จรับเงิน ต่างกับ บิลเงินสดอย่างไร
จริงๆ แล้วไม่เหมือนกันเสียทีเดียวครับ ถ้าถามคนบัญชี เขาจะอธิบายกับเราว่า เอกสารการรับเงินจริงๆ แล้ว มีการจัด Ranking ตามความน่าเชื่อถือด้วยนะครับ โดยเรียงตามลำดับแบบนี้**
- ใบรับ/ใบเสร็จรับเงิน (ผู้รับเงินยินดีออกให้ ถือว่าเป็นเอกสารที่ออกโดยบุคคลภายนอก)
- ใบสำคัญรับเงิน (เราเป็นคนออกให้บุคคลภายนอก แล้วให้เขาเซ็นยืนยัน)
- ใบรับรองแทนใบเสร็จรับเงิน (เราออกเองยืนยันเองและใช้เองภายใน)
ดังนั้นสำหรับ บิลเงินสด ที่เราได้รับมา จะจัดว่าเป็นประเภทที่ 1 หรือไม่นั้น จึงต้องมาดูตามสาระสำคัญของใบเสร็จรับเงินครับว่า มีรายละเอียดครบถ้วนหรือไม่ และที่สำคัญคือต้องระบุไว้ให้ชัดเจนเลย ว่าได้รับเงินจากเรา (ชื่อเรา หรือถ้าเป็นบริษัทก็ต้องเป็นชื่อบริษัท พร้อมเลขประจำตัวผู้เสียภาษี และที่อยู่นะครับ)
หากไม่มีรายละเอียดต่างๆ ตามที่กำหนด นักบัญชีจะช่วยเหลือท่านได้ครับ ว่าจะต้องทำเอกสารประเภทที่ 2 หรือ 3 อะไรเพิ่มเติมเพื่อประกอบบิลเงินสดของเราให้มีความน่าเชื่อถือ สมบูรณ์มากยิ่งขึ้นและเอาไปลงค่าใช้จ่ายของเราได้อย่างสบายใจ ซึ่งเราจะมาแนะนำให้ทุกคนรู้จักในบทความต่อๆ ไปของเรากันครับ
ไม่ออกใบเสร็จได้ไหม หรือแก้ไขได้หรือเปล่า
อย่างไรก็ตาม บางคนอาจจะบอกว่า อย่างนั้นไม่ออกเอกสารอะไรเลยได้ไหม เพราะก็จ่ายเงินรับเงินกันจริงๆ อยู่แล้ว เราจะบอกว่าจริงๆ แล้ว คุณมีความผิดในกรณีที่ยอมออกใบเสร็จรับเงินด้วยนะครับ อาจจะถูกปรับเป็นเงิน หรือจำคุกไม่เกิน 1 เดือนเลยทีเดียว (อ้างอิง มาตรา 127 ทวิ ตามประมวลรัษฎากร นะครับ)
ส่วนการแก้ไขใบเสร็จรับเงิน เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถให้นักบัญชีของเราใช้ประกอบการลงบัญชีไม่ผิดไปจากความเป็นจริง ก็ไม่ควรมีรอยขูด ลบ ขีดฆ่า หรือถ้าเขียนผิด ออกผิด หรือมีการแก้ไข ควรต้องลงชื่อจากผู้ออกใบเสร็จกำกับไว้ด้วยครับ
นอกจากนี้เราไม่แนะนำให้ออกใบเสร็จรับเงินโดยที่ไม่ได้รับเงินจ่ายเงินจริงนะครับ อันนี้เรื่องยาวเลย เพราะถือว่าทำหน้าที่ไม่ถูกต้องทั้งพระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543 รวมถึงประมวลรัษฎากร ซึ่งมีบทปรับและโทษที่รุนแรงครับ
และหากเราได้รับใบเสร็จรับเงินมาไม่ถูกต้องก็ควรส่งไปเปลี่ยนหรือแก้ไขทันทีเลยนะครับ (เพราะเป็นหน้าที่ของอีกฝ่ายที่ต้องออกให้ถูกต้องเหมือนกัน)
ทีนี้เราก็มั่นใจว่าถ้าได้รับใบเสร็จมาถูกต้องสมบูรณ์ ก็จะลดปัญหาในการเบิกจ่ายต่างๆ ไปได้มากเลยทีเดียวครับ และเราก็จะช่วยให้นักบัญชีหรือสำนักงานบัญชีของเราสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ และทุกๆ ฝ่ายได้รับประโยชน์สูงสุดจากการทำงานไปพร้อมๆ กันด้วยครับ
วิธีออกใบเสร็จรับเงิน ใน FlowAccount
คุณสามารถออกใบเสร็จรับเงินต่อจาก ใบส่งสินค้า/ใบแจ้งหนี้/ใบกำกับภาษี หรือ ใบวางบิล/ใบแจ้งหนี้ หรือใบวางบิลรวม ที่เคยออกไว้ในระบบบัญชี FlowAccount ได้เลยทันที โดยไม่ต้องสร้างเอกสารและพิมพ์ข้อมูลซ้ำใหม่ เพียงแค่คลิกเลือกสถานะของเอกสารรายการนั้น ก็สามารถสร้างเอกสารใบเสร็จทั้งต้นฉบับ และสำเนา ที่สามารถนำไปให้ลูกค้าเมื่อได้รับเงินได้ทันที
หรือใครที่ทำธุรกิจขายปลีก คุณออกใบกำกับภาษีอย่างย่อ/ใบเสร็จรับเงิน ใน FlowAccount ได้ ลองอ่านวิธีออกที่บทความ ออกใบเสร็จ ฟรี! ด้วย FlowAccount ช่วยขายหน้าร้าน ไม่ต้องเขียนบิลเงินสด ลดต้นทุนซื้อระบบ POS