10 โรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ ที่ควรรู้จัก
เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายเริ่มมีความเสื่อมถอยทำให้มีโอกาสป่วยเป็นโรคต่างๆได้มากขึ้น ซึ่งโรคที่มักพบบ่อยใน คนชรา ที่ต้องทำความรู้จักเอาไว้เพื่อที่จะได้วางแผน ดูแลผู้สูงอายุ ที่คุณห่วงใยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดในช่วงบั้นปลายของชีวิตมีอยู่ด้วยกัน 10 โรค ดังต่อไปนี้
- ความดันโลหิตสูง มีสาเหตุมาจากการที่ผนังหลอดเลือดแดงหนาตัวขึ้น ทำให้หลอดเลือดแข็ง ความยืดหยุ่นลดลง โดยส่วนใหญ่โรคนี้จะไม่มีอาการแสดง แต่ถ้าไม่รักษาตั้งแต่ต้นก็อาจมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรงที่เป็นอันตรายได้
- หัวใจขาดเลือด มักพบในผู้สูงอายุที่มีภาวะความดันโลหิตสูง , เบาหวาน , อ้วน ,มีประวัติสูบบุหรี่ และไม่ค่อยออกกำลังกาย
- เกาต์ มักพบในผู้สูงอายุชายมากกว่าหญิง อาการที่พบคือปวดตามข้อ ข้ออักเสบ หากไม่ได้รับการรักษาจะกลายเป็นโรคเรื้อรังที่ทำให้อาการไม่หายสนิท
- เบาหวาน เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของเมตาบอลิสม ก่อให้เกิดอาการต่างๆ เช่น น้ำหนักลดดดยไม่ทราบสาเหตุ,กระหายน้ำบ่อย , ปัสสาวะบ่อย, อ่อนเพลีย
- โรคเกี่ยวกับตา ไม่ว่าจะเป็นจอประสาทตาเสื่อม,ต้อกระจก,น้ำวุ้นตาเสื่อม,ต้อหิน อันเนื่องมาจากเซลล์ประสาทตาเริ่มเสื่อมอันเนื่องมาจากอายุที่มากขึ้น
- กระดูกพรุน มักเกิดในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายเนื่องจากภาวะหมดประจำเดือน โรคนี้ทำให้มวลกระดูกมีความหนาแน่นน้อยลง กระดูกจึงบางและเปราะหักได้ง่ายขึ้น มีโอกาส หกล้มสะโพกหัก
- ข้อเข่าเสื่อม มักเกิดในผ๔หญิงมากกว่าผู้ชายถึง 2 เท่า สาเหตุมักเกิดจากน้ำหนักตัวที่มากเกินไป รวมถึงการใช้ข้อเข่ามาเป็นเวลานาน อาการที่พบคือข้อบวม,ข้อขัด,ขาโก่งผิดปกติ เป็นต้น
- โรคไต เป็นโรคที่ไม่แสดงในระยะเริ่มต้น แต่ถ้าเป็นมากขึ้นจนไตทำหน้าที่ได้ลดลงจะมีอาการผิดปกติคือ อ่อนเพลีย,บวม,ความดันโลหิตสูง,เหนื่อยง่าย หากเป็นมากไตจะไม่ทำงานทำให้ต้องเข้ารับการฟอกไตหรือผ่าตัดเปลี่ยนไตในที่สุด
- หัวใจขาดเลือด เป็นโรคที่พบมากในผู้สูงอายุที่เป็นเบาหวานและความดันร่วมด้วย นอกจากนี้ก็ยังพบในคนที่สูบบุหรี่จัด,ขาดการออกกำลังกาย อาการที่พบคือแน่นหน้าอก,หายใจไม่สะดวก , ปวดร้าวไปที่กราม,คอ และแขนซ้ายด้านใน
- โรคทางสมอง เป็นโรคที่พบได้ใน คนชรา ที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป มีโรคที่เกิดจากความเสื่อมของร่างกายหลายโรคทั้งโรคหัวใจ,เบาหวาน,อ้วน,เครียด โดยโรคทางสมองที่พบบ่อยจะเป็นโรคความจำเสื่อม หรืออัลไซเมอร์,โรคหลอดเลือดสมอง,อัมพฤกษ์อัมพาต เป็นต้น
เลือกดูแลคนที่คุณห่วงใยกับทีมงานมืออาชีพ ด้วยทีมแพทย์ พยาบาล พร้อมทั้งนักกายภาพบำบัด 24ชั่วโมงกับ อายุวัฒน์เนอร์สซิ่งโฮม พระราม2 ฝั่งธน ที่มีความพร้อมในการดูแล คนชรา ดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ผู้ป่วยสโตรก โรคหลอดเลือด ฟื้นฟูและพักฟื้นหลังผ่าตัด หกล้มสะโพกหัก ดูแลคุณภาพชีวิตและทำ กายภาพบำบัด เพื่อการฟื้นตัวที่ดีที่สุดอย่างมีความเข้าใจ
- Facebook iconFacebook
- Twitter iconTwitter
- LINE iconLine
ข่าวสาร บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง
“อายุมากขึ้น โรคภัยจะถามหา” เป็นคำกล่าวที่ไม่อาจปฏิเสธความจริงได้พ้น เมื่ออายุเข้าสู่วัย 50ปี ร่างกายก็จะเสื่อมถอยลง ทำให้ผู้สูงอายุมีโรคต่างๆ ตามมามากมาย แต่ในขณะเดียวกันก็มีวิธีการดูแลรักษาเพื่อให้อาการดีขึ้น โดยโรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุมี 8 โรค คือ ข้อเข่าเสื่อม หัวใจขาดเลือด ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดสมอง ภาวะไขมันในเลือดสูง มะเร็ง เบาหวาน และโรคสมองเสื่อม โดยมีวิธีการดูแลรักษาด้วยตัวเองดังนี้
โรคข้อเข่าเสื่อม
- ใช้ความร้อนประคบรอบเข่า ลดอาการปวด เกร็ง
- บริหารกล้ามเนื้อเข่าให้แข็งแรงอยู่เสมอ
- ใช้สนับเข่า เพื่อกระชับ ลดอาการปวด
- ใช้ไม้เท้าช่วยเดิน ช่วยลดแรงที่กระทำต่อข้อ
- หลีกเลี่ยงอิริยาบถที่ไม่หมาะสม เช่น นั่งพับเพียบ คุกเข่า ขัดสมาธิ นั่งยองๆ
- ลดน้ำหนักในรายที่อ้วนมาก
โรคหัวใจขาดเลือด
- พบแพทย์เพื่อรักษาและปฏิบัติตนตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดสม่ำเสมอ
- เลิกสูบบุหรี่เด็ดขาด
- ถ้าอ้วนควรลดน้ำหนัก
- รับประทานอาหารให้ถูกต้อง ละไขมัน ลดเค็ม รับประทานอาหารที่มีกากมาก / เส้นใยสูง
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังที่หักโหม
- หลีกเลี่ยงสิ่งที่จะกระตุ้นให้เกิดอาการโรคหัวใจกำเริบ เช่น อย่าทำงานหักโหมเกินไป อย่ารับประทานอาหารอิ่มเกินไป ระวังอย่าให้ท้องผูก งดดื่มชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้ตื่นเต้นตกใจหรือการกระทบกระเทือนทางจิตใจ
ความดันโลหิตสูง
- ควบคุมน้ำหนักร่างกายให้พอดีและหมั่นออกกำลังกาย
- ลดอาหารเค็ม งดรับประทานผงชูรส ป้องกันอาการท้องผูกโดยการรับประทานผักผลไม้ให้มาก ดื่มน้ำให้เพียงพอ
- งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- หลีกเลี่ยงจากสิ่งที่ทำให้หงุดหงิดโมโห ตื่นเต้นและนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- ควรบริโภคอาหารที่มีไขมันและคอเลสเตอรอลต่ำ มีเส้นใยอาหารสูง
- รับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ ควรไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง ไม่ควรหยุดยาหรือปรับยาด้วยตนเอง
- หมั่นตรวจวัดความดันโลหิตเป็นประจำ ควรบันทึกลงคู่มือไว้ด้วย
- สำหรับผู้ที่รับประทานยาขับปัสสาวะ ควรรับประทานผลไม้ ประเภท ส้ม กล้วย
เป็นประจำ
โรคหลอดเลือดสมอง
- งดสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงดื่มเหล้า
- หมั่นตรวจวัดความดันโลหิตอย่างสม่ำเสมอ
- ลดการบริโภคอาหารรสเค็มจัด
- บริโภคอาหารที่มีคอเลสเตอรอลและไขมันต่ำ อาหารที่มีเส้นใยสูง
- รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในระดับปกต
- ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- ถ้าเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน หรือมีภาวะไขมันในเลือดสูง ควรรับการรักษาจากแพทย์อย่างต่อเนื่อง
ภาวะไขมันในเลือดสูง
- ตรวจไขมันในเลือดตามคำแนะนำของแพทย์
- เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภค โดยCholesterol
– จำกัดอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง ช่น เครื่องในสัตว์ ไข่แดง ปลาหมีกหอยนางรม
– ควรรับประทานอาหารูประเภทเนื้อปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน
– ลดอาหารที่มีไขมันสูง เช่น อาหารทอด อาหารที่มีกะทิ
– ลดการบริโภคน้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์ม เนย และใช้น้ำมันพืชในการปรุงอาหาร โดยใช้ประมาณ 2 – 3 ช้อนโต๊ะต่อวัน
- ควรบริโภคอาหารที่มีเส้นใยสูง เช่น ผลไม้สดและผักต่างๆ และถั่วต่างๆ
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ งดสูบบุหรี่และไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ และหลีกเลี่ยงภาวะเครียด
โรคมะเร็ง
- ไม่สูบบุหรี่ หรืออยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีบุหรี่
- รับประทานอาหารให้หลากหลาย ที่ประกอบด้วยธัญพืช เช่น ถั่วชนิดต่างๆข้าวกล้อง พืช ผักหลายๆ อย่าง รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
- รับประทานผักและผลไม้สดให้มากเป็นประจำตามฤดูกาล
- รับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำ และเค็มน้อย ลดจำนวนอาหารหมักดองหรือรมควัน และหลีกเลี่ยงรับประทานอาหารที่มีสารก่อมะเร็ง
- งดการดื่มสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- ทำจิตใจให้ผ่องใส ลดความเครียดและออกกำลังกายเป็นประจำ
โรคเบาหวาน
- ควบคุมอาหาร อย่าปล่อยให้อ้วนไม่รับประทานของหวาน งดสูบบุหรี่ดื่มสุราและของเค็ม ควรรับประทานอาหารไขมันต่ำ อาหารที่มีเส้นใยสูง และออกกำลังกายพอควรอย่างต่อเนื่อง
- พักผ่อนให้เพียงพอ ทำจิตใจให้ร่าเริง อย่าให้เครียดหรือวิตกกังวล
- พบแพทย์และตรวจเลือดตามนัด รับประทานยาตามแพทย์สั่งโดยเคร่งครัด และสม่ำเสมอ
- หลีกเลี่ยงการดื่มสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- ดูแลรักษาเท้าให้สะอาดอยู่เสมอ เพราะเมื่อมีบาดแผลจะทำให้แผลหายช้า
- มีลูกอมติดตัวไว้ เพื่อป้องกันการหมดสติจากน้ำตาลในเลือดต่ำเกินไปหลังรับประทานยาเบาหวาน
- ถ้ามีแผลแล้วหายช้าหรือมีความผิดปกติใดๆ ควรปรึกษาแพทย์ทันที
โรคสมองเลื่อม
- ควรตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ รักษาโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์
- ไม่รับประทานยาเอง โดยไม่ปรึกษาแพทย์
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ดื่มสุรา สารเสพติดต่างๆ
- ควรให้ผู้สูงอายุได้รับข้อมูลข่าวสารโรคต่างๆ อย่างสม่ำเสมอจะช่วยฝึกความจำ
- รักษาน้ำหนักตัวให้เหมาะสม
- พบปะญาติ พี่น้อง เพื่อนฝูง และเข้าร่วมกิจกรรม ต่างๆ เป็นประจำ
- กระตุ้นให้ทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ออกกำลังกาย จะสามารถชะลอความเสื่อมของร่างกายและสมองได้
การดูแลตัวเองจะทำให้ผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวเหล่านี้ สามารถบรรเทาความเจ็บป่วย และทำให้มีสุขภาพที่ดีขึ้นได้ ขอบคุณข้อมูลจาก สมุดคู่มือสุขภาพผู้สูงอายุ โดยสำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข