คํา อธิบาย เกี่ยว กับ ตัว เอง ใน เร ซู เม่

  • ชื่อนามสกุลและข้อมูลการติดต่อเป็นส่วนที่สำคัญมาก เพราะถ้าไม่มีข้อมูลส่วนนี้ บริษัทก็จะไม่สามารถติดต่อเราได้
  • รายละเอียดเกี่ยวกับการศึกษาควรจะบอกชื่อสถาบันการศึกษา สาขาวิชาที่เรียน และรางวัลที่ได้รับระหว่างที่กำลังศึกษาอยู่ให้ครบถ้วนและชัดเจน
  • ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานควรเน้นไปที่เรื่องของบทบาทหน้าที่ที่เราได้รับ และทักษะที่ได้จากการทำงานนั้น ๆ สามารถนำมาขึ้นก่อนข้อมูลการศึกษาได้ ถ้าเราคิดว่าผลการศึกษาของตัวเองไม่ค่อยดีนัก
  • ทักษะจะแสดงให้องค์กรเห็นว่าเรามีความสามารถอะไรบ้าง แล้วทักษะที่เรามีตรงกับความต้องการของบริษัทแค่ไหน การเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่ตรงกับประกาศรับสมัครงานก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยให้เรซูเม่ของเราสะดุดตาองค์กรมากขึ้น
  • การใส่งานอดิเรก และความสามารถพิเศษอาจจะทำให้องค์กรประทับใจในตัวเรามากขึ้น ถ้าสิ่งเหล่านั้นมีประโยชน์ต่อการทำงาน หรือสามารถเชื่อมโยงกับตำแหน่งงานที่สมัครได้

ถ้าพูดถึงการทำ Resume ยังมีอีกหลายคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองต้องใส่อะไรลงไปบ้าง และต้องเขียน Resume ด้วยรูปแบบไหนถึงจะน่าสนใจ แต่จริง ๆ แล้ว การทำ Resume ที่ดีไม่ได้มีกฎเกณฑ์ตายตัวอะไร เพราะมันขึ้นอยู่กับประเภทงานที่เราสมัคร รวมถึงตัวองค์กรเอง เช่น งานสายครีเอทีฟ ก็จะต่างกับงานในสายพัฒนาธุรกิจ การเงิน ธนาคาร ที่เน้นความน่าเชื่อถือและถูกต้องตามแบบแผนมากกว่า ดังนั้นวันนี้ JobThai เลยจะมาบอกว่าจะทำ Resume ให้ดีต้องมีอะไรบ้าง

ก่อนอื่นเลยเราต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า Resume มีไว้เพื่อบอกเล่าประวัติส่วนตัว ดังนั้นเราต้องทำให้มันอ่านง่ายที่สุด จัดเรียงข้อมูลใน Resume ให้เป็นสัดส่วนและเรียงลำดับความสำคัญจากมากไปหาน้อย โดยแบ่งได้เป็น 5 ส่วนใหญ่ ๆ ดังนี้

1. ข้อมูลส่วนตัว

ส่วนสำคัญที่สุดของการทำ Resume เพราะถ้าเราไม่เขียนชื่อและข้อมูลติดต่อ HR หรือหัวหน้างานที่ได้อ่านเรซูเม่ของเราก็จะไม่รู้เลยว่านี่คือ Resume ของใคร ซึ่งข้อมูลต่าง ๆ ที่เราควรใส่ลงไปในส่วนนี้ ได้แก่

ชื่อ – นามสกุล: เขียนลงไปเฉพาะชื่อจริงก็พอ ยกเว้นบางบริษัทที่ระบุให้ใส่ชื่อเล่น

เบอร์โทรศัพท์: นอกจากเบอร์เรา ใส่เบอร์ของคนใกล้ชิดสำรองไว้ด้วย

อีเมล: อย่าใช้อีเมลชื่อเล่นและไม่เป็นทางการ แต่ควรใช้อีเมลที่เป็นชื่อจริง – นามสกุล

โซเชียลมีเดีย: ใช้ชื่อที่ตรงกับในเรซูเม่มากกว่าใช้ชื่อที่แค่รู้จักกันแค่ในกลุ่มเพื่อน และหลีกเลี่ยงการใช้ชื่อโซเชียลมีเดียที่คำไม่สุภาพ

Blog หรือเว็บไซต์: การมี Blog เว็บไซต์ หรือช่อง YouTube อาจเพิ่มความน่าสนใจ แต่ข้อมูลในช่องทางเหล่านี้ควรเป็นไปในทางที่ดี ไม่อย่างนั้นความน่าเชื่อถือของเราก็จะลดลงไปด้วย

ที่อยู่: อาจไม่ค่อยจำเป็นแล้วเพราะการติดต่อการสัมภาษณ์งานมักใช้อีเมล โทรศัพท์ หรือไลน์ด้วยซ้ำ แต่ข้อมูลส่วนนี้ก็ยังจำเป็นต้องกรอกในใบสมัครวันที่บริษัทนัดเราเข้าไปสัมภาษณ์งานนั่นเอง

2. ข้อมูลการศึกษา

ให้เรียงลำดับจากปัจจุบันขึ้นก่อนแล้วไล่ไปจนถึงการศึกษาก่อนหน้า เช่น ถ้าเราเพิ่งเรียนจบปริญญาโท ก็ให้ใส่เป็นรายการที่ 1 ไล่ไปหาปริญญาตรีเป็นรายการที่ 2 และมัธยมศึกษา ส่วนสิ่งที่ควรใส่ลงไปเพิ่มเติมก็มี

สาขาวิชาที่เรียน: ระบุให้ชัดเจนว่าเราเรียนอะไรสมัยมหาวิทยาลัย บางคณะ บางสาขายังไม่ได้เป็นที่รู้จักในวงกว้างหรือมีเฉพาะแค่บางประเทศเท่านั้น ก็อาจจะใส่คำอธิบายสั้น ๆ ลงไป

ชื่อสถาบันการศึกษา: ควรใส่ชื่อเต็มเท่านั้น แม้จะเป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงก็ตาม ที่สำคัญคืออย่าลืมใส่ปีที่สำเร็จการศึกษา และช่วงเวลาที่เรียนอยู่ เช่น ปี 2014 – 2018

รางวัลที่ได้: รางวัลที่ได้รับจากการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ประกวดถ่ายภาพ, ร่วมทีมพัฒนาธุรกิจ SME, ตอบปัญหากฎหมาย, นักกิจกรรมดีเด่น ฯลฯ รางวัลเหล่านี้จะเป็นเครื่องการันตีให้บริษัทรู้ว่าเรามีความสามารถด้านนั้นจริง ๆ

ถ้าเกรดไม่ดี ควรใส่ลงไปใน Resume ไหม?

ถ้าเราได้เกรดไม่ดี เราอาจจะยังไม่ใส่เกรดลงไปใน Resume ก็ได้ แล้วค่อยเอาไปยื่นในวันที่ถูกเรียกสัมภาษณ์แทน แต่ถ้าเรามั่นใจว่าเกรดสวย ได้เกียรตินิยม การใส่ลงไปใน Resume จะทำให้โดดเด่นขึ้นมาทันที

3. ข้อมูลการทำงาน

ส่วนนี้ “ประสบการณ์การทำงาน” สำคัญที่สุด เพราะข้อมูลนี้จะช่วยให้บริษัทได้รู้ว่าเราเคยทำอะไรมาบ้าง การเรียงลำดับก็เหมือนกับประวัติการศึกษาที่เรียงจากประสบการณ์ล่าสุดขึ้นก่อนแล้วไล่ไปหาอดีต และสามารถนำมาขึ้นก่อนข้อมูลการศึกษาได้ ถ้าเราเป็นคนที่มีประสบการณ์การทำงานมาสักระยะ หรือคิดว่าผลการศึกษาของตัวเองไม่ค่อยดีนัก โดยในเนื้อหาก็ควรลิสต์ลงไป 5 – 6 ข้อ โดยเน้นเรื่องหน้าที่ที่เราทำ อธิบายสั้น ๆ ด้วยว่าเราได้ทักษะอะไรจากงานนี้บ้าง เพื่อให้เชื่อมโยงไปถึงงานใหม่และน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

ถ้าว่างจากงานประจำนาน ๆ แล้วไปทำฟรีแลนซ์ควรใส่ใน Resume ไหม?

อยู่ที่ว่างานฟรีแลนซ์นั้นเกี่ยวข้องกับงานที่เรากำลังสมัครหรือเปล่า ถ้าไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานใหม่ก็อาจจะไม่น่าดึงดูด แต่เราสามารถเก็บไว้ตอบตอนสัมภาษณ์ก็ได้ว่า งานฟรีแลนซ์ช่วยให้เราได้ทักษะอะไรเพิ่มเติมมาบ้าง

4. ทักษะ

เป็นสิ่งที่องค์กรมองหาจากคนสมัครงานทุกคน เพื่อดูว่าใครมีทักษะตรงกับที่บริษัทกำลังประกาศรับอยู่บ้าง เราอาจเขียนทักษะลงไป 2 ส่วนเลยก็ได้ คือส่วนที่บริษัทต้องการและทักษะอื่นที่เรามี แม้ว่าจะไม่เกี่ยวกับตำแหน่งนั้นโดยตรง แต่จะช่วยเสริมให้เรซูเม่เราน่าสนใจมากขึ้น

ทักษะอื่นมีอีกเพียบ จะใส่เพิ่มลงไปใน Resume ดีไหม?

ต้องดูว่าทักษะนั้นส่งผลกับงานโดยรวมและจะช่วยให้งานออกมาดีขึ้นไหม การเลือกใส่ทักษะพวกนี้ก็จะส่งผลดีต่อตัวเรา เช่น ถ้าสมัครตำแหน่ง Business Development ก็ใส่ Soft Skills ลงไปด้วยไม่ว่าจะเป็น การคิดเชิงวิเคราะห์, ความเป็นผู้นำและการจัดการเวลา

5. ความสนใจและความสามารถอื่น

หลายคนไม่แน่ใจว่าควรใส่ความสนใจ และความสามารถพิเศษลงไปใน Resume ดีไหม แต่ปัจจุบันหลาย ๆ บริษัทก็มักจะถามถึงงานอดิเรกอยู่เสมอ เพราะมันแสดงออกถึงทักษะบางอย่างที่อาจจะช่วยเสริมการทำงานของเราได้ เช่น ชอบถ่ายภาพ, ชอบอ่านหนังสือ, ชอบดูหนังและทำเพจวิเคราะห์หนัง แต่เราต้องดูถ้าบริษัทนั้นใหญ่ขนาดต้องรับเรซูเม่จำนวนเป็นพันต่อเดือน ก็ควรทำให้สั้น กระชับ อย่าใส่งานอดิเรกที่ไม่เกี่ยวข้องกับรูปแบบงานลงไป

JobThai Official Group เพื่อการหางาน หาคน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงาน

บทความเดิมได้ถูกเผยแพร่ในวันที่ 3 สิงหาคม 2018 และได้รับการอัปเดตโดยทีมงาน JobThai

ที่มา:

thebalance.com

resumeok.com

วิธีการอธิบายเกี่ยวกับตัวเองในเรซูเม่

วิธีเขียน เกี่ยวกับตัวเอง เพราะจะมี เนื้อหา เป็นเหมือนเป็นการเกริ่นนำ หรือ การแนะนำตัว ในเรซูเม่ บอกทักษะ และ ประสบการณ์ พิเศษที่เคยทำมาก่อน เป็นจุดดึงสายตา สั้นๆ ถ้านึกไม่ออก ให้นึงเวลาเราเขียน Personal Info สั้นๆ เหมือนใน Social Media ต่างๆ เพียงแต่ต้อง เขียนให้ออกมาทางการ กว่า ไม่ควรเขียนเกิน 50 words.

เรซูเม่ ต้องมีอะไรบ้าง

วิธีเขียนเรซูเม่สมัครงานให้น่าสนใจพร้อมตัวอย่าง.
ประวัติส่วนตัว (Personal Information) ... .
ประวัติการศึกษา (Education) (เรียงลำดับจากสูงสุด) ... .
จุดมุ่งหมายในการทำงาน (Career Objective) กล่าวถึงความน่าสนใจของงานตำแหน่งงาน หรือเป้าหมายในการทำงานของผู้สมัคร ส่วนนี้อาจมีผลต่อการพิจารณาเงินเดือนและตำแหน่งงาน.

เรซูเม่ มีความสําคัญอย่างไร

เรซูเมโดยทั่วไปจะเป็นเอกสาร "สรุป" ประวัติของบุคคลนั้น ๆ อยู่ภายใน 1 หน้ากระดาษ โดยเน้นที่ประสบการณ์ทำงาน และการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่สมัคร เรซูเมนั้นแทบจะเป็นเอกสารชิ้นแรก ๆ ที่นายจ้างจะใช้เพื่อการคัดเลือกพนักงานใหม่ หรือคัดเลือกบุคลากรเพื่อการสัมภาษณ์ก่อนการจ้างงาน

แนะนำตัวเองยังไงให้น่าสนใจ

8 เคล็ดลับในการแนะนำตัว เพื่อสร้างความประทับใจตั้งแต่แรกพบ ต่อผู้....
1. แนะนำตัวให้เข้ากับบทบาทงานและบริษัท ... .
2.แสดงความเป็นมืออาชีพ ... .
3.อย่ามุ่งไปแค่เรื่อง Passion มากเกินไป ... .
4.พูดให้กระชับและเข้าใจ ... .
5.ฝึกฝนอย่าท่องจำ ... .
6.พยายามทำความรู้จักผู้สัมภาษณ์ ... .
7.ทำให้บทสนทนาเป็นบวก ... .
8.ความประทับใจแรกสำคัญเสมอ.

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาไทย โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv Terjemahan แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip lmyour แปลภาษา ไทยแปลอังกฤษ ประโยค แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษาอาหรับ-ไทย Bahasa Thailand app แปลภาษาไทยเป็นเวียดนาม พจนานุกรมศัพท์ทหาร ยศทหารบก ภาษาอังกฤษ สหกรณ์ออมทรัพย์กรมส่งเสริมการปกครอง ส่วนท้องถิ่น แปลภาษาเวียดนามเป็นไทยทั้งประโยค กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมีทั้งหมดกี่ภาค มัจจุราชไร้เงา 1 mono29 มัจจุราชไร้เงา 1 pantip มัจจุราชไร้เงา 3 pantip รายชื่อวิทยานิพนธ์ นิติศาสตร์ 2563 ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง แปลภาษาอิสลามเป็นไทย ่้แปลภาษา Google Drive กรมการปกครอง กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย คะแนน o-net โรงเรียน ที่อยู่สมุทรปราการ ภาษาอังกฤษ ประปาไม่ไหล วันนี้ มหาวิทยาลัยรามคําแหง เปิดรับสมัคร 2566 มัจจุราชไร้เงา 2 facebook ราคาปาเจโร่มือสอง สถาบันพัฒนาบุคลากรท้องถิ่น หนังสือราชการ ส ถ หยน ห่อหมกฮวกไปฝากป้า คาราโอเกะ อาจารย์ ตจต Google Form Info arifureta shokugyou de sekai saikyou manga online legendary moonlight sculptor www.niets.or.th ประกาศผลสอบ การบริหารทรัพยากรมนุษย์ มีอะไรบ้าง ข้อสอบภาษาอังกฤษ พร้อมเฉลย pdf