ตัวอย่าง Consent Form PDPA english

ชุดเอกสารแม่แบบ (template) สำหรับการดำเนินการของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลภาครัฐ (Version 2.0) ประกอบด้วยเอกสารทั้งหมด 16 รายการ

เริ่มต้นจากเอกสารนำ คือ แนวปฏิบัติสำหรับการดำเนินการของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งอธิบายหน้าที่สำคัญพื้นฐานของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller) พร้อมคำอธิบายการทำงาน อิงตาม มาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 2562

และเอกสารแม่แบบอีก 15 รายการ เพื่อให้หน่วยงานรัฐสามารถนำไปปรับใช้ตามกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลและภารกิจของตน นอกจากนี้ยังมีตัวอย่างการนำไปใช้ 1 รายการ

เอกสารแม่แบบ 15 รายการ ประกอบด้วย
(1) นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)
(2) คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)
(3) เอกสารแสดงความยินยอม (Consent Form)
(4) ข้อตกลงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
(5) แนวปฏิบัติในการบันทึกรายการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของ สพร. เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (6) นโยบายคุกกี้ (Cookies Policy)
(7) ข้อตกลงการแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Sharing Agreement)
(8) แบบคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Subject Rights Request Form)
(9) หนังสือตอบกลับการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Subject Rights Responding)
(10) หนังสือแจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Breach Notification)
(11) คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวในการใช้กล้องวงจรปิด (CCTV Privacy Notice)
(12) แบบฟอร์มใบสมัครงาน
(13) สัญญาจ้างปฏิบัติงาน
(14) คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้สมัครงานและผู้ปฏิบัติงาน
(15) ข้อตกลงการเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลร่วม (Joint Controller Agreement)

เอกสารทั้ง 15 รายการจัดทำในรูปแบบลักษณะฟอร์มสำหรับกรอกข้อมูล ตัวอย่างการกรอก พร้อมคำอธิบายประกอบความเข้าใจ ซึ่ง สพร. หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารชุดนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานภาครัฐ ลดระยะเวลาในการทำความเข้าใจกฎหมาย การจัดทำเอกสาร เอื้ออำนวยให้ภาครัฐสามารถขับเคลื่อนไปสู่รัฐบาลดิจิทัลได้อย่างมั่นคง รวดเร็ว และยั่งยืนต่อไป

ข้อกำหนดและเงื่อนไข 

  1. ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล
    • ข้อมูลทั่วไป  หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
    • ข้อมูลทางการเงิน  หมายความว่า ข้อมูลหรือสิ่งใด ๆ ที่แสดงออกมาในรูปเอกสาร แฟ้ม รายงาน หนังสือ แผนผัง ภาพวาด ภาพถ่าย การบันทึกภาพหรือเสียงการบันทึกโดยเครื่องมือทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีอื่นใดที่ทำให้สิ่งที่บันทึกไว้ปรากฏขึ้นในเรื่องที่เกี่ยวกับข้อมูลทางการเงินของบุคคลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้
  1. วัตถุประสงค์การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
  • เพื่อบริการให้ตรงตามต้องการของลูกค้า บริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า เพื่อที่ลูกค้าจะสามารถได้รับผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการที่ตรงตามวัตถุประสงค์ของลูกค้าตามสัญญาหรือตามที่ลูกค้าร้องขอ ในกรณีดังต่อไปนี้
    • การพิจารณาอนุมัติและ/หรือให้บริการต่าง ๆ เช่น การเปิดบัญชีซื้อขายหน่วยลงทุน การลงทุน การทำรายการซื้อ ขาย แลกเปลี่ยนหน่วยลงทุน
    • การดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการให้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการต่าง ๆ เช่น การประมวลผล การติดต่อ การแจ้ง การมอบงานให้แก่บุคคลอื่นที่เป็นผู้ให้บริการภายนอก การโอนสิทธิและ/หรือหน้าที่

หากลูกค้าปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลแก่บริษัท อาจทำให้บริษัทไม่สามารถจัดหาผลิตภัณฑ์และ/หรือให้บริการแก่ลูกค้าได้

  • เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ในการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กฎหมายภาษีอากร กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กฎหมายคอมพิวเตอร์ และกฎหมายล้มละลาย บริษัทมีการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลของกรรมการ ผู้มีอำนาจกระทำการแทน ตัวแทนของลูกค้านิติบุคคล และบุคคลที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทมีหน้าที่ปฏิบัติตามคำสั่งของหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมาย รวมถึงบริษัทอาจมีความจำเป็นที่จะต้องให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในต่างประเทศ หากลูกค้าปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลแก่บริษัท อาจทำให้บริษัทไม่สามารถจัดหาผลิตภัณฑ์และ/หรือให้บริการแก่ลูกค้าได้
  • เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เช่น
    • มาตรการรักษาความปลอดภัย บริษัทมีการบันทึกเสียงทาง Call Center การบันทึกภาพ CCTV  ณ ทางเข้าออกบริษัท
    • การรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า เช่น การให้บริการลูกค้า การจัดการข้อร้องเรียน การประเมินความพึงพอใจ การดูแลลูกค้าโดยพนักงานของบริษัท การสื่อสารหรือนำเสนอผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการต่าง ๆ ประเภทเดียวกันกับที่ลูกค้ามีอยู่กับบริษัทซึ่งเป็นประโยชน์กับลูกค้าเป็นระยะ ๆ
    • การบริหารความเสี่ยง การกำกับตรวจสอบ การบริหารจัดการภายในองค์กร รวมถึงการป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย เช่น การทุจริต การคุกคามทางไซเบอร์ การฟอกเงิน และกฎหมายอื่น ๆ
    • การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ (Anonymous Data)
    • วัตถุประสงค์ทางธุรกิจ บริษัทมีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติหรือประชาสัมพันธ์บริษัท เช่น การบันทึกภาพ บันทึกเสียงในการจัดประชุม อบรม สันทนาการ หรือการออกบูธ

ในกรณีที่ลูกค้าปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลแก่บริษัท อาจทำให้บริษัทไม่สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร

  • เพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์จากการใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ ตามที่ลูกค้าได้ให้ความยินยอมไว้ เช่น  เพื่อให้ลูกค้าได้รับผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการที่ดียิ่งขึ้นและสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าได้รับข้อเสนอ สิทธิประโยชน์พิเศษ คำแนะนำ และข่าวสารต่าง ๆ รวมถึงสิทธิในการเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษ เป็นต้น

ในกรณีที่ลูกค้าปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลแก่บริษัท อาจทำให้บริษัทไม่สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร

  1. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
    • จากลูกค้าโดยตรง เช่น ข้อมูลที่ลูกค้ากรอกขณะลงทะเบียนสมัครใช้บริการ ข้อมูลที่ใช้ในการสมัครใช้บริการสมาชิก FINNOMENA, ข้อมูลบัญชีผู้ใช้งาน (Account) หรือข้อมูลที่ลูกค้าได้แก้ไขปรับปรุงในข้อมูลบัญชีผู้ใช้งาน (Account) ของลูกค้า หรือข้อมูลที่ได้จากการที่ลูกค้าติดต่อกับบริษัทหรือทีมงานของบริษัท (เช่น ตัวแทน  หรือข้อมูลที่ได้จากบัญชีผู้ใช้งาน (Account) อื่น ๆ ข้อมูลจากการใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการของบริษัท  การติดต่อ เยี่ยมชม ค้นหา ผ่านเว็บไซต์ Call Center และช่องทางอื่น ๆ ของบริษัท  ตลอดจนข้อมูลในการร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งในแพลตฟอร์ม, การทำสำรวจ, งานสัมมนาและ Road Show
    • เทคโนโลยีการติดตาม (tracking technology) เมื่อลูกค้าใช้งานเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นของบริษัท
    • บริษัทในเครือ
    • บุคคลภายนอก เช่น
      • หน่วยงานของรัฐ
      • สถาบันการเงิน
      • ตัวแทน นายหน้า และคนกลางอื่น ๆ
      • พันธมิตรทางธุรกิจ
      • ผู้ให้บริการข้อมูล
      • โซเชียลมีเดีย แพลตฟอร์ม และผู้ให้บริการโฆษณาต่าง ๆ

ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้เป็นปัจจุบัน และเพื่อปรับปรุงคุณภาพและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์และการให้บริการของบริษัทให้ดียิ่งขึ้น

  1. ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าไว้เป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ให้เสร็จสิ้น เว้นแต่กรณีที่กฎหมายกำหนดหรืออนุญาตให้เก็บรักษาข้อมูลไว้นานกว่า ซึ่งอาจมีกำหนดประมาณ 5 – 10 ปี หรือเกินกว่านั้นเท่าที่จำเป็น เช่น ตามอายุความที่กฎหมายกำหนดสำหรับเรื่องที่เกี่ยวข้อง เพื่อการดำเนินคดี หรือเพื่อการตรวจสอบของหน่วยงานที่กำกับดูแล

  1. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อบุคคลใดโดยไม่ได้รับความยินยอมจากลูกค้าก่อน อย่างไรก็ดี ลูกค้ารับทราบและยินยอมว่า เพื่อประสิทธิภาพในการให้บริการหรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้กับบุคคลต่อไปนี้

    • บริษัทในเครือ
    • พันธมิตรทางธุรกิจ
    • ผู้ให้บริการประมวลผลข้อมูล ทั้งในและต่างประเทศ
    • หน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย

โดยในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลดังกล่าว บริษัทจะดำเนินการให้บุคคลเหล่านั้นเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไว้เป็นความลับ และไม่นำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากขอบเขตที่บริษัทได้กำหนดไว้

ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับจากลูกค้า จะถูกเก็บไว้บนศูนย์ข้อมูล (Cloud) ของผู้ให้บริการประมวลข้อมูลซึ่งเป็นบุคคลภายนอกและมีเซิร์ฟเวอร์ตั้งอยู่ทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศ ทั้งนี้ การถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าของบริษัทไปยังผู้ให้บริการประมวลผลข้อมูลภายนอกดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อความปลอดภัยในการเก็บรักษา การสำรองข้อมูล บริการเรียกข้อมูล และเพื่อประโยชน์ในการให้บริการ ซึ่งบริษัทได้ตรวจสอบและเลือกผู้ให้บริการอย่างรอบคอบและมีข้อตกลงเกี่ยวกับมาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและขอบเขตการประมวลผลข้อมูลกับผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้อง โดยในกรณีที่ผู้ใช้บริการให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัท จะถือว่าผู้ใช้บริการได้ให้ความยินยอมในการถ่ายโอนข้อมูลข้ามพรมแดนและการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าในต่างประเทศเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น

อย่างไรก็ดี หากลูกค้าเชื่อว่าบุคคลที่บริษัทเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการตามข้างต้น ได้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากขอบเขตที่บริษัทได้กำหนดไว้ ลูกค้าสามารถแจ้งบริษัทตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ เพื่อดำเนินการในส่วนเกี่ยวข้องต่อไป

นอกจากนี้ บริษัทอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น การเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานราชการ หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลการให้บริการ หรือหน่วยงานกำกับดูแลผู้ใช้บริการ รวมถึงในกรณีที่มีการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย อาทิ การร้องขอข้อมูลเพื่อการฟ้องร้องหรือดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือเป็นการร้องขอจากหน่วยงานเอกชน หรือบุคคลภายนอกอื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย รวมถึงในกรณีที่มีความจำเป็นตามสมควรในการบังคับใช้ข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริการของบริษัท ตลอดจนการเปิดเผยข้อมูลในกรณีที่มีการปรับโครงสร้างองค์กร การควบรวมบริษัท หรือการขายกิจการ บริษัทอาจถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนที่บริษัทเก็บรวบรวมไว้ไปยังบริษัทที่เกี่ยวข้อง

  1. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ

บริษัทอาจจะส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล ที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ไปยังต่างประเทศ ซึ่งประเทศปลายทางหรือองค์การระหว่างประเทศที่รับข้อมูลส่วนบุคคลต้องมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด

  1. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
  • การแก้ไข หรือลบข้อมูลส่วนบุคคล ลูกค้าสามารถแก้ไขหรือลบข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าได้ตลอดเวลา ลูกค้าสามารถขอ “แบบคำขอเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล” เพื่อกรอกข้อมูลและส่งให้กับบริษัททาง  FINNOMENA Contact Center: หรือ โทร: 02-026-5100 ทั้งนี้ การลบข้อมูลอาจทำให้ผู้ใช้บริการไม่สามารถรับบริการจากบริษัทได้ หรืออาจทำให้การให้บริการไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร

ในกรณีที่มีการร้องขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการจากระบบหรือฐานข้อมูลลูกค้าของบริษัทนั้น บริษัทจะพยายามอย่างเต็มที่ตามความสามารถของระบบงานที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกและดำเนินการตามคำร้องขอของผู้ใช้บริการ เว้นแต่จะปรากฏข้อเท็จจริงว่า การดำเนินการตามคำร้องขอนั้นจะเสี่ยงต่อการละเมิดนโยบายความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บริการรายอื่น หรือเป็นการขัดต่อกฎหมาย หรือมีความจำเป็นที่จะต้องเก็บข้อมูลไว้เพื่อเป็นพยานหลักฐานในการตรวจสอบหรือดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือเพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมายที่ใช้บังคับ หรือเพื่อเป็นไปตามนโยบายความปลอดภัยของระบบ หรือกรณีที่เป็นการพ้นวิสัยในทางปฏิบัติตามคำร้องขอของผู้ใช้บริการ

อย่างไรก็ดี แม้ว่าบริษัทจะได้ดำเนินการตามคำร้องขอของผู้ใช้บริการแล้ว ข้อมูลดังกล่าวอาจจะยังคงมีการบันทึกหรือทำสำเนาไว้ที่เซิร์ฟเวอร์ (Server) หรือระบบสำรอง (Backup System) ของบริษัท เพื่อเป็นการสำรองข้อมูลในกรณีที่เกิดความผิดพลาด บกพร่อง หรือเกิดจากความขัดข้องของระบบ

  • การขอเข้าถึง และขอสำเนาอิเล็กทรอนิกส์ของข้อมูลส่วนบุคคล การขอให้เปิดเผยและโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลอื่นด้วยวิธีการอัตโนมัติ การจำกัดหรือระงับการใช้ การปฏิเสธการประมวลผลข้อมูล ลูกค้าสามารถขอ “แบบคำขอเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล” เพื่อกรอกข้อมูลและส่งให้กับบริษัททาง FINNOMENA Contact Center: หรือ โทร: 02-026-5100
  • การยกเลิกความยินยอม ลูกค้าสามารถถอนความยินยอมของลูกค้าที่ได้ให้แก่บริษัทเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลหรือกิจกรรมที่เฉพาะเจาะจงต่าง ๆ ได้ทุกเวลาโดยติดต่อมายังบริษัทตามข้อมูลที่ระบุไว้ด้านล่าง

นอกจากนี้ หากลูกค้าไม่ประสงค์จะรับข้อมูลและข่าวสารประชาสัมพันธ์จากบริษัท ลูกค้าสามารถดำเนินการดังนี้

    • กรณีไม่ประสงค์รับข้อมูลข่าวสารทางโทรศัพท์ : โปรดแจ้งความประสงค์ทาง FINNOMENA Contact Center: หรือ โทร: 02-026-5100
    • กรณีไม่ประสงค์รับข้อมูลข่าวสารทางอีเมล (E-Mail) : ลูกค้าสามารถกด “ยกเลิกรับข้อมูลข่าวสาร” ในอีเมลที่ลูกค้าได้รับจากบริษัทได้ทันที
  • การร้องเรียน ลูกค้ามีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่บริษัทหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของบริษัทหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติหรือประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัติดังกล่าว
  1. ผลการเพิกถอนความยินยอม

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจเพิกถอนความยินยอมให้บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวข้างต้น โดยแจ้งให้บริษัททราบและบริษัทอาจขอทราบถึงเหตุผลแห่งการนั้น

การเพิกถอนความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมไปแล้วก่อนหน้านั้น

ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลประสงค์ที่จะเพิกถอนความยินยอม ให้บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล จะมีผลกระทบต่อผู้เพิกถอนการให้ความยินยอมเกี่ยวกับการพิจารณารับประกันภัย หรือการให้บริการลูกค้าหรือการให้บริการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัย และส่งผลให้บริษัทไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาประกันภัยได้

  1. ช่องทางติดต่อ
  • ลูกค้าสามารถติดต่อบริษัทได้ตามที่อยู่ต่อไปนี้ เลขที่ 52 อาคารธนิยะพลาซ่า ชั้นที่ 21 โซนเอ-ซี ถนนสีลม แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรักกรุงเทพ 10500
  • เพื่อให้การปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัทเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งจะให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าได้ หากลูกค้ามีข้อสงสัยหรือข้อแนะนำเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติของบริษัทเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล ลูกค้าสามารถแจ้งบริษัทได้ทาง FINNOMENA Contact Center: หรือ โทร: 02-026-5100

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาไทย โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv Terjemahan แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip lmyour แปลภาษา ไทยแปลอังกฤษ ประโยค แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษาอาหรับ-ไทย Bahasa Thailand app แปลภาษาไทยเป็นเวียดนาม พจนานุกรมศัพท์ทหาร ยศทหารบก ภาษาอังกฤษ สหกรณ์ออมทรัพย์กรมส่งเสริมการปกครอง ส่วนท้องถิ่น แปลภาษาเวียดนามเป็นไทยทั้งประโยค กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมีทั้งหมดกี่ภาค มัจจุราชไร้เงา 1 mono29 มัจจุราชไร้เงา 1 pantip มัจจุราชไร้เงา 3 pantip รายชื่อวิทยานิพนธ์ นิติศาสตร์ 2563 ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง แปลภาษาอิสลามเป็นไทย ่้แปลภาษา Google Drive กรมการปกครอง กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย คะแนน o-net โรงเรียน ที่อยู่สมุทรปราการ ภาษาอังกฤษ ประปาไม่ไหล วันนี้ มหาวิทยาลัยรามคําแหง เปิดรับสมัคร 2566 มัจจุราชไร้เงา 2 facebook ราคาปาเจโร่มือสอง สถาบันพัฒนาบุคลากรท้องถิ่น หนังสือราชการ ส ถ หยน ห่อหมกฮวกไปฝากป้า คาราโอเกะ อาจารย์ ตจต Google Form Info arifureta shokugyou de sekai saikyou manga online legendary moonlight sculptor www.niets.or.th ประกาศผลสอบ การบริหารทรัพยากรมนุษย์ มีอะไรบ้าง ข้อสอบภาษาอังกฤษ พร้อมเฉลย pdf