อารยธรรมจีนสมัยก่อนประวัติศาสตร์ มีแหล่งอารยธรรมที่สำคัญ 2 แหล่ง คือ
1. ลุ่มแม่น้ำฮวงโห พบความเจริญที่เรียกว่า วัฒนธรรมหยางเชา ( Yang Shao Culture ) พบหลักฐานที่เป็นเครื่องปั้นดินเผามีลักษณะ สำคัญคือ เครื่องปั้นดินเผาเป็นลายเขียนสี มักเป็นลายเรขาคณิต พืช นก สัตว์ต่างๆ และพบใบหน้ามนุษย์สีที่ใช้เป็นสีดำหรือสีม่วงเข้ม นอกจากนี้ยังมีการพิมพ์ลายหรือขูดสลักลายเป็นรูปลายจักสานลายเชือกทาบ
2. ลุ่มน้ำแยงซี ( Yangtze ) บริเวณมณฑลชานตุงพบ วัฒนธรรมหลงซาน ( Lung Shan Culture ) พบหลักฐานที่เป็นเครื่องปั้นดินเผา มีลักษณะสำคัญคือ เครื่องปั้นดินเผามีเนื้อละเอียดสีดำขัดมันเงาคุณภาพดีเนื้อบางและแกร่ง เป็นภาชนะ 3 ขา
สมัยประวัติศาสตร์ของจีนแบ่งได้ 4 ยุค
1. ประวัติศาสตร์สมัยโบราณ เริ่มตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชาง สิ้นสุดสมัยราชวงศ์โจว
2. ประวัติศาสตร์สมัยจักรวรรดิ เริ่มตั้งแต่สมัยราชวงศ์จิ๋น จนถึงปลายราชวงศ์ชิงหรือเช็ง
3. ประวัติศาสตร์สมัยใหม่ เริ่มปลายราชวงศ์เช็งจนถึงการปฏิวัติเข้าสู่ระบอบสังคมนิยม
4. ประวัติศาสตร์ร่วมสมัย เริ่มตั้งแต่จีนปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองเข้าสู่ระบอบสังคมนิยมหรือคอมมิวนิสต์จนถึงปัจจุบัน
อารยธรรมจีนในสมัยราชวงศ์ต่างๆ มีดังนี้
1. ราชวงศ์ชาง เป็นราชวงศ์แรกของจีน
- มีการปกครองแบบนครรัฐ
- มีการประดิษฐ์ตัวอักษรขึ้นใช้เป็นครั้งแรก พบจารึกบนกระดองเต่า และกระดูกวัว เรื่องที่จารึกส่วนใหญ่เป็นการทำนาย โชคชะตาจึงเรียกว่า "กระดูกเสี่ยงทาย"
- มีความเชื่อเรื่องการบูชาบรรพบุรุษ
2. ราชวงศ์โจว
- แนวความคิดด้านการปกครอง เชื่อเรื่องกษัตริย์เป็น "โอรสแห่งสวรรค์ สวรรค์มอบอำนาจให้มาปกครองมนุษย์เรียกว่า"อาณัตแห่งสวรรค์
- เริ่มต้นยุคศักดินาของจีน
- เกิดลัทธิเต๋า โดยเล่าจื๊อ
- คำสอนทั้งสองลัทธิเป็นที่พึ่งทางใจของผู้คน
3. ราชวงศ์จิ๋นหรือฉิน
- มีการใช้เหรียญกษาปณ์ มาตราชั่ง ตวง วัด
- จักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่สามารถรวมดินแดนของจีนให้เป็นจักรวรรดิเป็นครั้งแรกคือพระเจ้าชิวั่งตี่หรือจิ๋นซีฮ่องเต้เป็นผู้ให้สร้าง กำแพงเมืองจีน
4. ราชวงศ์ฮั่น
- ลัทธิขงจื๊อ คำสอนถูกนำมาใช้เป็นหลักในการปกครองประเทศ
- มีการสอบคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการเรียกว่า จอหงวน
- เป็นยุคทองด้านการค้าของจีนมีการค้าขายกับอาณาจักรโรมัน อาหรับและอินเดียโดยเส้นทางการค้าที่เรียกว่าเส้นทางสาย ไหม( Silk Rood )
5. ราชวงศ์สุย
- เป็นยุคแตกแยกแบ่งเป็นสามก๊ก
- มีการขุดคลองเชื่อมแม่น้ำฮวงโหกับแม่น้ำแยงซี เพื่อประโยชน์ในด้านการคมนาคม
6. ราชวงศ์ถัง
- ได้ชื่อว่าเป็นยุคทองของอารยธรรมจีน นครฉางอานเป็นศูนย์กลางของซีกโลกตะวันออกในสมัยนั้น
- พระพุทธศาสนามีความเจริญรุ่งเรือง พระภิกษุ (ถังซำจั๋ง) เดินทางไปศึกษาพระไตรปิฎกในชมพูทวีป
- เป็นยุคทองของกวีนิพนธ์จีน กวีคนสำคัญ เช่น หวางเหว่ย หลี่ไป๋ ตู้ฝู้
- ศิลปะแขนงต่างๆมีความรุ่งเรือง
7. ราชวงศ์ซ้อง
- มีความก้าวหน้าด้านการเดินเรือสำเภา
- รู้จักการใช้เข็มทิศ
- รู้จักการใช้ลูกคิด
- ประดิษฐ์แท่นพิมพ์หนังสือ
- รักษาโรคด้วยการฝังเข็ม
8. ราชวงศ์หยวน
- เป็นราชวงศ์ชาวมองโกลที่เข้ามาปกครองจีน ฮ่องเต้องค์แรกคือ กุบไลข่าน หรือ หงวนสีโจ๊วฮ่องเต้
- ชาวตะวันตกเข้ามาติดต่อค้าขายมาก เช่น มาร์โคโปโล พ่อค้าชาวเมืองเวนีส อิตาลี
9. ราชวงศ์หมิงหรือเหม็ง
- วรรณกรรม นิยมการเขียนนวนิยายที่ใช้ภาษาพูดมากกว่าการใช้ภาษาเขียน มีนวนิยายที่สำคัญ ได้แก่ สามก๊ก ไซอิ๋ว
- ส่งเสริมการสำรวจเส้นทางเดินเรือทางทะเล
- สร้างพระราชวังหลวงปักกิ่ง (วังต้องห้าม)
10. ราชวงศ์ชิงหรือเช็ง
- เป็นราชวงศ์เผ่าแมนจู เป็นยุคที่จีนเสื่อมถอยความเจริญทุกด้าน
- เริ่มถูกรุกรานจากชาติตะวันตก เช่น สงครามฝิ่น ซึ่งจีนรบแพ้อังกฤษ ทำให้ต้องลงนามในสนธิสัญญานานกิง
- ปลายยุคราชวงศ์ชิง พระนางซูสีไทเฮาเข้ามามีอิทธิพลในการบริหารประเทศมาก
การถ่ายทอดอารยธรรมจีนสู่ดินแดนต่างๆ
อารยธรรมจีนแผ่ขยายขอบข่ายออกไปอย่างกว้างขวางทั้งในเอเชียและยุโรป อันเป็นผลมาจากการติดต่อทางการทูต การค้า การ ศึกษา ตลอดจนการเผยแผ่ศาสนา อย่างไรก็ตามลักษณะการถ่ายทอดแตกต่างกันออกไป ดินแดนที่เคยตกอยู่ภายใต้การปกครองของจีนเป็น เวลานาน เช่น เกาหลี และเวียดนาม จะได้รับอารยธรรมจีนอย่างสมบูรณ์ ทั้งในด้านวัฒนธรรม การเมือง ขนบธรรมเนียมประเพณี การ สร้างสรรค์ และการแสดงออกทางศิลปะ ทั้งนี้เพราะราชสำนักจีนจะเป็นผู้กำหนดนโยบายและบังคับให้ประเทศทั้งสองรับวัฒนธรรมจีน โดยตรง
ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อารยธรรมจีนได้รับการยอมรับในขอบเขตจำกัดมาก ที่เห็นอย่างชัดเจนคือ การยอมรับระบบบรรณาการ ของจีน ในเอเชียใต้ ประเทศที่แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับจีนอย่างใกล้ชิด คือ อินเดีย พระพุทธศาสนามหายานของอินเดียแพร่หลายเข้ามาใน จีนจนกระทั่งเป็นศาสนาสำคัญที่ชาวจีนนับถือ นอกจากนี้ศิลปะอินเดียยังมีอิทธิพลต่อการสร้างสรรค์ศิลปะบางอย่างของจีน เช่น ประติมากรรมที่เป็นพระพุทธรูป
ส่วนภูมิภาคเอเชียกลางและตะวันออกกลางนั้น เนื่องจากบริเวณที่เส้นทางการค้าสานแพรไหมผ่านจึงทำหน้าที่เป็นสื่อกลางนำ อารยธรรมตะวันตกและจีนมาพบกัน อารยธรรมจีนที่เผยแพร่ไป เช่น การแพทย์ การเลี้ยงไหม กระดาษ การพิมพ์ และดินปืน เป็นต้น ซึ่งชาว อาหรับจะนำไปเผยแพร่แก่ชาวยุโรปอีกต่อหนึ่ง
อารยธรรมจีนมีผลต่อเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างไร
เป็นการผสมผสานกันระหว่าง ศาสนาและความเชื่อของไทยและ ของจีน เช่น มีการบูชาบรรพบุรุษ การไหว้พระจันทร์ ด้านภาษา อารยธรรมจีนก็แพร่หลายใน ระดับชุมชนในดินแดนเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ ดังจะเห็นได้ชัดเจน ในดินแดนประเทศไทย เช่น ภาษาไทย บางคาที่มีรากศัพท์มาจากภาษาจีน
อารยธรรมจีนเข้ามาในดินแดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยวิธีใด
อิทธิพลของจีนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การรับวัฒนธรรมจีน เนื่องมาจากที่ต้องทำการติดต่อค้าขายกับจีน จึงทำให้ประเทศต่าง ๆ ต้องยอมรับเงื่อนไขของจีน ต้องการส่งเครื่องราชบรรณาการไปจีนตามที่จีนกำหนด
อารยธรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีอะไรบ้าง
ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้รับมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญจาก 2 อู่อารยธรรมโบราณ ซึ่งก็คืออารยธรรมจีน และอินเดีย กล่าวโดยเฉพาะวัฒนธรรมที่เกี่ยวกับแนวคิด คติ และความเชื่อในเรื่องความเป็นจริงของโลก หรือก็คือศาสนา อารยธรรมอินเดียนับว่ามีอิทธิพลต่อภูมิภาคนี้มากที่สุด โดยศาสนาพราหมณ์ และศาสนาพุทธ ซึ่งมีต้นกำเนิดในอินเดีย ...
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตั้งอยู่ระหว่างอารยธรรมใดบ้างเพราะอะไร
สาระสำคัญ 1. การที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีสภาพภูมิศาสตร์ที่ตั้งอยู่ระหว่างอินเดียกับจีนจึงทำให้ ดินแดนแห่งนี้มีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง และการรับวัฒนธรรมผสมจากต่างชาติ 2. การเผยแพร่อารยธรรมอินเดียที่สำคัญเข้ามาผสมผสานกับวัฒนธรรมเดิมในเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ การรับอารยธรรมจีน สาเหตุการเข้ามาของศาสนาอิสลาม