สมาร์ทโฟนทั้ง Android หรือ Apple ล้วนแล้วแต่มีการรับประกันตัวเครื่องทั้งสิ้น โดยปกติจะเริ่มต้นรับประกันที่ 1 ปี และสามารถซื้อประกันเพิ่มเติมได้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละค่าย
วันนี้ทางทีมงานมี 2 วิธีเช็คประกันตัวเครื่องของ iPhone และ iPad สามารถเช็คได้ง่าย ๆ ดังนี้
วิธีเช็คประกันจากหน้าเว็บไซต์
ผู้ใช้บริการสินค้าจาก Apple สามารถเข้าไปเช็ควันหมดอายุของประกันตัวเครื่องได้ที่ >> checkcoverage.apple.com/th/th
1. ทำการกรอกหมายเลขตัวเครื่องซึ่งจะอยู่ที่เมนู Setting > General > About > Serial Number : (xxxxxxxxxxxx) หรือ Serial Number ข้างกล่องสินค้า หรือกดโทรออก *#06#
2. นำหมายเลขดังกล่าวมากรอกที่หน้าเว็บไซต์ ป้อนรหัสความปลอดภัย และคลิกดำเนินการต่อ
3. ตัวเครื่องจะโชว์ข้อมูล iPhone , iPad ที่เราใช้อยู่ว่าเป้นรุ่นอะไร และมีการรับประกันอยู่หรือไม่ (หากทำการซื้อ AppleCare + เอาไว้ก็จะขึ้นข้อมูลในส่วนนี้ด้วยเช่นกัน)
วิธีเช็คประกันจากตัวเครื่อง (รองรับเฉพาะ iPhone)
ผู้ใช้ iPhone ทุกท่านสามารถเข้าไปเช็ควันหมดอายุของประกันได้ง่าย ๆ ภายในตัวเครื่อง โดยเข้าไปที่ Setting > General > About > Coverage (ตัวเครื่องจะปรากฎวันหมดอายุของประกันที่มี หากซื้อ AppleCare + เอาไว้ก็จะปรากฎในส่วนนี้เช่นกัน)
ทั้งนี้วิธีเช็คประกันจากตัวเครื่องจะสามารถใช้งานได้เฉพาะ iPhone เท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของ Apple จะต้องเช็ตการรับประกันผ่านเว็บไซต์ สำหรับเทคนิคการใช้งานสมาร์ทโฟนสามารถคลิกดูเพิ่มเติมได้..ที่นี่
บทความที่เกี่ยวข้อง
ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่
จะตั้งค่าวันที่และเวลาให้ตรง Time Zone ต้องทำอย่างไร? (OPPO)
✏️สรุป
Q/A เครื่อง OPPO ต้องตั้งค่าวันที่และเวลาอย่างไร? เวลาในเครื่องไม่ตรง Time Zone ทำให้โหลดแอปฯไม่ได้?
หากตัวเครื่องของคุณไม่เชื่อมต่อกับ Google Play? ทำให้โหลดแอปฯไม่ได้ ให้ลองตรวจสอบดังนี้ค่ะ
➡️ ตรวจสอบว่าวันที่และเวลาในตัวเครื่องของคุณตรงกับปัจจุบันหรือไม่? หากเวลาไม่ตรงคลิกดูวิธีตั้งค่าที่ VDO ด้านบนเพื่อความเข้าใจยิ่งขึ้นค่ะ ⬆️
➡️ และแนะนำให้คุณทำการเปิดการตั้งค่าวันที่และเวลาให้เป็น Auto ซึ่งตัวเครื่องจะเลือกเวลาที่ตรงกับ Time Zone ที่คุณอยู่ เมื่อตัวเครื่อง Zinc.กับ Google Play? ได้ก็จะโหลดแอปฯได้ค่ะ
หากโหลดแอปฯไม่ได้เนื่องจากปัญหาอินเทอร์เน็ตแจ้งน้องอุ่นใจเพื่อส่งเรื่องตรวจสอบ>>คลิก
Android ระบบปฏิบัติการที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะการใช้งานบนสมาร์ทโฟน ซึ่งในตัวระบบปฏิบัติการก็มีความลับหลายอย่างซ่อนอยู่สำหรับการเรียกใช้งานฟังก์ชั่นต่าง ๆ ที่ไม่ถูกพูดถึง อย่างเช่นโค้ดลับเมื่อกดผ่านตัวเลขแป้นพิมพ์เมนูการโทรก็จะสามารถเรียกใช้งานฟังก์ชั่นบางอย่างได้ ซึ่งวันนี้เราจะมาดูว่ามีโค้ดลับอะไรบ้าง
โค้ดลับเกี่ยวกับตัวเครื่อง
*#*#7780#*#* |
(Android บางเวอร์ชั่นหรือบางรุ่น) |
*2767*3855# |
(Android บางเวอร์ชั่นหรือบางรุ่น) |
*#*#197328640#*#* |
|
*#*#4636#*#* |
|
*#*#34971539#*#* |
(Android บางเวอร์ชั่นหรือบางรุ่นที่ยังไม่อัปเดทเฟิร์มแวร์กล้อง) |
*#*#7594#*#* |
|
*#*#273283*255*663282*#*#* |
|
*#*#8255#*#* |
|
*#0228# |
|
*#12580*369* |
|
*#32489# |
|
*#8736364# |
|
โค้ดลับฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อไร้สาย WLAN, GPS และ Bluetooth
*#*#526#*#* หรือ *#*#528#*#* หรือ *#*#232339#*#* |
|
*#*#232338#*#* |
|
*#*#1472365#*#* |
|
*#*#1575#*#* |
|
*#*#232331#*#* |
|
*#*#232337#*# |
|
โค้ดลับเกี่ยวกับข้อมูลเฟิร์มแวร์
*#*#1111#*#* |
|
*#*#2222#*#* |
|
*#*#4986*2650468#*#* |
|
*#*#1234#*#* |
|
*#2263# |
|
*#9090# |
|
*#7284# |
|
*#872564# |
|
*#745# |
|
*#746# |
|
*#9900# |
|
*#*#44336#*#* |
|
*#03# |
|
*#3214789# |
|
โค้ดลับทดสอบฟังก์ชั่นการตั้งค่าจากโรงงาน
*#*#0283#*#* |
|
*#*#0*#*#* |
|
*#*#0673#*#* หรือ *#*#0289#*#* |
|
*#*#0842#*#* |
|
*#*#2663#*#* |
|
*#*#2664#*#* |
|
*#*#0588#*#* |
|
*#*#3264#*#* |
|
*#0589# |
|
*#7353# |
|
โค้ดลับเกี่ยวกับข้อมูลตัวเครื่อง
*#06# |
|
*#*#8351#*#* |
|
*#*#8350#*#* |
|
**05***# |
|
*#301279# |
|
*#7465625# |
|
โค้ดลับอื่น ๆ สำหรับบางรุ่น
*#0*# |
|
*#*#7378423#*#* |
|
3845#*เลขรุ่นโมเดล# |
|
*#*#3424#*#* |
|
*#808# |
|
####1111# |
|
*#558# |
|
.1234+= (กดในแอพเครื่องคิดเลข) |
|
*#*#2846579#*#* หรือ ##497613 |
|
##7764726 |
|
1809#*990# |
|
3845#*920# |
|
ปิดเครื่อง แล้วกดปุ่มลดเสียงกับ Power พร้อมกัน |
|
ข้อควรทราบเกี่ยวกับเมนูการทดสอบตัวเครื่อง
- Echo test ทดสอบเสียงไมค์
- RTC ทดสอบการตั้งเวลาเปิด-ปิดเครื่อง
- Keypad test ทดสอบปุ่มกดต่าง ๆ ของเครื่องว่าทำงานได้หรือไม่ เช่นปุ่มเมนู, ปุ่มโอม, ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มปิด/เปิดเครื่อง และปุ่มปรับระดับเสียง
- Virbation test ทดสอบระบบสั่น
- Touch Screen ทดสอบระบบสัมผัส
- Headset in-out plug test ทดสอบระบบการฟังเสียงจากชุดหูฟังโดยการเสียบหูฟังในช่องของตัวโทรศัพท์
- Charger ทดสอบระบบชาร์จไฟของเครื่อง
- LCD brightness ทดสอบความสว่างหน้าจอ
- LCD Test ทดสอบสีของหน้าจอ
- Search bluetooth device ทดลองการค้นหาบลูทูธ
- Sensor เป็นการทดสอบการค้นหา Sensor ในเครื่อง
- G-Sensor เป็นการทดสอบระบบหมุนหน้าจออัตโนมัติว่าหมุนตามที่เราใช้งานหรือไม่
- Gyroscope ทดสอบระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ 3 แกน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และความยืดหยุ่นหลากหลายในการควบคุม
- MSensor ทดสอบระบบแม่เหล็กในเครื่อง
- Proximity Sensor test ทดสอบการใช้งานระบบปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา โดยลองเอานิ้วไปปิดตัวเซ็นเซอร์ว่าหน้าจอปิดตามหรือไม่
- Light Sensor test ทดสอบตัวเซ็นเซอร์วัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอและแผงปุ่มกดให้เหมาะสม โดยลองเอานิ้วไปปิดตัวเซ็นเซอร์ว่าหน้าจอปรับความสว่างหรือไม่
- GPS ทดสอบว่า GPS ติดไหม
- Ringtone เช็คว่าเสียงริงโทนดังหรือไม่
- Call Test ทดสอบการโทรออกว่าใช้งานได้ปกติหรือไม่
- Mic test ทดสอบตัวไมโครโฟนโดยการลองอัดเสียง
- Receiver Test ทดสอบตัวรับสัญญาณของเครื่อง
- Screen light test ทดสอบระบบไฟหน้าจอ
- Keep Screen light ทดสอบระบบเปิดหน้าจอค้างว่าเป็นเวลาเท่าไหร่
- Keypad back light ทดสอบเปิด/ปิดระบบไฟของปุ่ม Keypad บนตัวเครื่อง เฉพาะรุ่นที่ปุ่มกดมีไฟ
- Back camera preview ทดสอบกล้องหลัง
- Front camera preview ทดสอบกล้องหน้า
- Flash light test ทดสอบระบบไฟฉายด้วยไฟแฟลชของกล้องหลัง
- SD Card and Internal storage ตรวจสอบหน่วยความจำในเครื่องทั้งตัว SD Card และตัวความจำภายนในตัวเครื่อง
- Wi-Fi Test เช็คการเชื่อมต่อ Wi-Fi
- All clear เป็นการลบไฟล์ทั้งหมดในเครื่อง
- Media test ทดสอบการเล่นไฟล์วิดีโอของเครื่อง
- Sim ตรวจสอบซิมในเครื่อง
- NFC ทดสอบการใช้งาน NFC เฉพาะรุ่นที่รองรับเทคโนโลยีนี้
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับโค้ดลับที่ซ่อนอยู่ในระบบปฏิบัติการ Android ที่เราใช้งานกันอยู่ทุกวัน ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีเยอะขนาดนี้ แต่อย่างไรก็ดี โค้ดบางตัวสามารถใช้งานได้เฉพาะกับ Android บางเวอร์ชั่น และสมาร์ทโฟนบางรุ่นเท่านั้น