ลองทําตามขั้นตอนด้านล่างในกรณีต่อไปนี้ หากเปิดแอป Play Store ไม่ได้
ให้ทำตามขั้นตอนเพื่อแก้ปัญหาเมื่อเปิดแอป Play Store ในโทรศัพท์ไม่ได้ หลังจากที่ตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแล้ว ให้ลองดาวน์โหลดอีกครั้ง หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัญหาด้านการเชื่อมต่อ ให้ไปที่แก้ไขปัญหาการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในอุปกรณ์ Androidขั้นตอนการแก้ปัญหาเบื้องต้น
ตรวจสอบว่าคุณมีการเชื่อมต่อ Wi-Fi หรืออินเทอร์เน็ตมือถือที่มีสัญญาณแรง
ตรวจสอบพื้นที่เก็บข้อมูล
ตรวจหาการอัปเดตระบบ Android
แก้ปัญหาเกี่ยวกับแอปเพียงแอปเดียว
ลองทำตามขั้นตอนเหล่านี้หากพบปัญหาขณะพยายามดาวน์โหลดแอปใดแอปหนึ่ง
ตรวจสอบว่าแอปนี้พร้อมใช้งานในอุปกรณ์ของคุณหรือไม่
- เปิดแอป Google Play Store
- ค้นหาและแตะแอปที่ต้องการดาวน์โหลด
- หน้าของแอปจะมีบอกว่าแอปพร้อมใช้งานในอุปกรณ์ของคุณหรือไม่
- หากไม่พร้อมใช้งานก็จะดาวน์โหลดไม่ได้
ถอนการติดตั้งและติดตั้งแอปอีกครั้ง
ขั้นตอนการแก้ปัญหาเพิ่มเติม
หากลองทำตามขั้นตอนข้างต้นทั้งหมดแล้วแต่ยังดาวน์โหลดแอปไม่ได้ ให้ลองทำตามขั้นตอนด้านล่าง หลังจากทำตามแต่ละขั้นตอน ให้ลองดาวน์โหลดแอปอีกครั้งเพื่อดูว่าปัญหาได้รับการแก้ไขแล้วหรือยัง
ปิดและเปิดแอป Play Store อีกครั้ง
- ในอุปกรณ์ Android ให้เลื่อนขึ้นจากด้านล่างค้างไว้แล้วปล่อยนิ้ว
- หากต้องการปิดแอป Play Store ให้เลื่อนแอปขึ้น
- เปิด Play Store อีกครั้ง
ถอนการติดตั้งอัปเดต Play Store และติดตั้งอีกครั้ง
รีสตาร์ทอุปกรณ์
- กดปุ่มเปิด/ปิดค้างไว้
- แตะปิดเครื่องหรือรีสตาร์ท
- หากจำเป็น ให้กดปุ่มเปิด/ปิดค้างไว้จนกว่าอุปกรณ์จะเปิดขึ้นอีกครั้ง
ล้างแคชและข้อมูลออกจากบริการ Google Play
นำบัญชี Google ออกและเพิ่มบัญชีอีกครั้ง
ล้างแคชและข้อมูลของ Play Store
ล้างแคชและข้อมูลจาก Download Manager
ขอความช่วยเหลือเพิ่มเติม
แหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
- แก้ปัญหาเมื่อเปิดแอป Play Store ในโทรศัพท์ไม่ได้
- ปัญหาเกี่ยวกับการซื้อในแอป
ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม
เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
หลายคนอาจเจอปัญหา ซื้อของหรืออัปเดตแอปใน App Store ไม่ได้ และขึ้นข้อความ “มีปัญหาการจัดส่งใบแจ้งหนี้ของการซื้อครั้งก่อนหน้า โปรดอัพเดตข้อมูลการชำระเงินของคุณ” (There is a billing problem with a previous purchase. Please update your payment method.) มีวิธีแก้ไขปัญหาอย่างไร
ไปชมกันเลย
ที่มาของปัญหา
ทาง Apple อาจตรวจสอบพบปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่งเกี่ยวกับบัตรฯ (บัตรเครดิต/เดบิต) ที่ผูกกับ Apple ID อยู่ โดยอาจจะพบว่ายอดเงินหรือวงเงินในบัตรฯไม่พอต่อการชำระค่าบริการ หรือข้อมูลบัตรฯ มีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ถูกต้อง
วิธีแก้ไข
1. ตรวจสอบวงเงินและยอดเงินคงเหลือในบัตรฯ
หลายคนสั่งซื้อของใน App Store อย่างมากมายแต่ไม่ได้ตรวจสอบวงเงินหรือยอดเงินคงเหลือว่าเพียงพอต่อการชำระค่าบริการหรือไม่ เมื่อ Apple ทดลองหักค่าบริการแล้วไม่สามารถทำได้ ก็อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราไม่สามารถสั่งซื้อของหรืออัปเดตแอปผ่าน App Store ได้
2. ตรวจสอบความถูกต้องข้อมูลบัตร
ในบางครั้งข้อมูลบัตรฯที่กรอกไว้ อาจมีความผิดพลาดด้วยเหตุผลบางประการ เช่น ประเภทบัตร หมายเลขบัตร หรือวันหมดอายุของบัตรไม่ถูกต้อง อาจมีช่องว่างหรือเครื่องหมายทับในหมายเลขบัญชีที่ระบบไม่สามารถอ่านได้ เบื้องต้นให้ลองแก้ไขข้อมูลการชำระเงิน (Edit Payment Information) ก่อนแล้วทำการสั่งซื้อใหม่
3. ติดต่อผู้ให้บริการบัตรฯ
หากกรอกข้อมูลและอัปเดตใหม่แล้วยังไม่สามารถดำเนินการได้ ควรตรวจสอบสถานะของบัตรที่ใช้กับธนาคารที่ให้บริการด้วย เพราะบางครั้งบัตรของเราอาจจะติดสถานะบางอย่างที่ไม่สามารถดำเนินการได้ เช่น ถูกระงับ ยอดเงินไม่ชำระ เป็นต้น
4. เปลี่ยนบัตรฯ ใบใหม่
เปลี่ยนและกรอกข้อมูลบัตรฯ ใบใหม่ โดยลบข้อมูลเดิมก่อน เพื่อตรวจสอบว่าเมื่อเปลี่ยนบัตรฯ ใหม่แล้ว สามารถชำระค่าบริการหรืออัปเดตแอปได้หรือไม่
5. เติมเงินเข้า Apple ID ผ่าน iTunes Gift
หากเราทราบว่ามียอดชำระค้างอยู่เท่าไหร่ เช่น 500 บาท แก้ได้โดยให้เพื่อนที่ส่ง iTunes Gift เข้าบัญชี Apple ID ของเราได้เหมือนการเติมเงินมือถือนั่นแหละครับ วิธีการส่งเงินผ่าน iTunes Gift นั้นสามารถชมได้ที่นี่
หากทดลองแต่ละวิธีแล้วยังไม่ได้ สันนิษฐานว่าอาจมีปัญหาเกี่ยวกับ Apple ID ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ Apple Support ได้ที่เบอร์ 001800 4412904 ตั้งแต่ 9.00-18.00 น. วันจันทร์ – ศุกร์ เพื่อขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ Apple ได้เช่นกัน
แนะนำให้ศึกษา การชำระเงินและการรักษาความปลอดภัย เกี่ยวกับตัวเลือกการชำระเงินที่สามารถใช้ได้ใน Apple Online Store และวิธีการคำนวณภาษีสำหรับการสั่งซื้อ
Mod-T : ป.ตรี วิศวกรรมซอฟต์แวร์ ป.โท บริหารธุรกิจ ม.พายัพ ชอบความสวยงามแบบเรียบง่าย ตามแบบฉบับของ Apple @Contact : facebook.com/tentzy