คุณอาจไม่สามารถโทรออกหรือรับสายบน iPhone ได้หากคุณเปิดการตั้งค่าบางอย่างไว้ หากซอฟต์แวร์ของคุณไม่อัพเดท หรือหากมีปัญหาบางอย่างกับเครือข่ายของคุณ
หากคุณไม่สามารถโทรออกหรือรับสายบน iPhone ได้
ดูสิ่งที่ควรทำหากคุณเห็น "ไม่มีบริการ" หรือ "กำลังค้นหา" ในแถบสถานะ หากคุณไม่สามารถโทรออกหรือรับสายบน iPhone ได้ ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ โดยทดสอบหลังจากทำตามแต่ละขั้นตอน ดังนี้
ติดต่อผู้ให้บริการเครือข่าย
เมื่อคุณติดต่อผู้ให้บริการเครือข่าย ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นไปตามนี้
- บัญชีของคุณมีการตั้งค่าให้ใช้กับ iPhone
- ไม่มีปัญหาสัญญาณขาดหายของบริการในพื้นที่
- บัญชีของคุณไม่ได้ถูกระงับเนื่องจากปัญหาเกี่ยวกับการเรียกเก็บเงิน
- การโทรของคุณไม่มีข้อผิดพลาดในระบบของผู้ให้บริการเครือข่าย
ตรวจสอบการตั้งค่า iPhone
- เปิดและปิดโหมดเครื่องบิน ไปที่ การตั้งค่า แล้วเปิดโหมดเครื่องบิน รอห้านาที จากนั้นปิดโหมด
- ตรวจสอบห้ามรบกวน ไปที่ การตั้งค่า > โฟกัส > ห้ามรบกวน แล้วตรวจสอบให้แน่ใจว่าปิดโหมดนี้แล้ว
- ตรวจสอบว่ามีหมายเลขโทรศัพท์ที่บล็อคไว้หรือไม่ ไปที่การตั้งค่า > โทรศัพท์ > รายชื่อที่ปิดกั้น
- ดูว่าเปิดใช้งานการโอนสายอยู่หรือไม่ ไปที่ การตั้งค่า > โทรศัพท์ > การโอนสาย แล้วตรวจสอบให้แน่ใจว่าปิดโหมดนี้แล้ว
- ตรวจสอบเพื่อดูว่า Silence Unknown Callers เปิดอยู่หรือไม่ หากการตั้งค่าเปิดอยู่ ผู้โทรต้องมีรายชื่ออยู่ใน "รายชื่อ" หรือ "ล่าสุด" หรือผู้โทรต้องแชร์หมายเลขของพวกเขาในแอพเมลหรือส่งข้อความถึงคุณโดยใช้หมายเลขนั้น จึงจะสามารถโทรติดต่อคุณได้ เพิ่มหมายเลขของผู้โทรในรายชื่อเพื่อให้แน่ใจว่าโทรศัพท์จะส่งเสียงเรียกเข้า การโทรจากแอพของบริษัทอื่นอาจถูกบล็อคด้วย
ตรวจสอบการตั้งค่าเครือข่าย
- รีเซ็ตการตั้งค่าเครือข่าย ไปที่การตั้งค่า > ทั่วไป > ถ่ายโอนหรือรีเซ็ต iPhone > รีเซ็ต > รีเซ็ตการตั้งค่าเครือข่าย การดำเนินการนี้จะลบข้อมูลการตั้งค่าที่บันทึกไว้ในปัจจุบันทั้งหมด รวมถึงรหัสผ่าน Wi-Fi เครือข่ายที่ต้องการ และการตั้งค่า VPN
- ลองโทรออกหรือรับสายในตำแหน่งที่ตั้งอื่น
ติดต่อฝ่ายบริการช่วยเหลือของ Apple
วันที่เผยแพร่: 17 ธันวาคม 2564
พบผู้ใช้หลายคนมีปัญหาโทรหากันผ่านแอปพลิเคชัน Facebook Messenger สำหรับเครื่อง iPhone แล้วเสียงของเราปลายสายฟังแล้วเสียงกระตุก แต่เราสามารถฟังเสียงของคู่สนทนาได้อย่างปกติ ทำให้เกิดคำถามว่าเกิดจากอะไร iOS 15.1 หรือไม่ หรือเป็นที่แอปหรือที่เป็นที่เครื่อง ปัญหานี้เกิดกับเครื่อง iPhone เกือบทุกรุ่นไม่ว่าจะเป็นรุ่นเก่าหรือแม้แต่รุ่นใหม่อย่าง iPhone 13 ก็ตาม
สำหรับผู้มีปัญหาดังกล่าว ปัญหาที่เกิดน่าจะเกิดจากการอัปเดตแอปของ Facebook Messenger เพราะหลังจากอัปเดตแล้วทำให้เกิดปัญหาดังกล่าว พบ Version ที่เริ่มเกิดปัญหาคือ version 334.0 (รุ่นปัจจุบัน 336.0)
สำหรับทางแก้คือการให้อัปเดต Facebook Messenger ให้เป็นล่าสุด เพราะมีหลายท่านที่อัปเดตแล้วอาการโทรกระตุกหายไป แต่ก็ยังมีบางท่านที่มีปัญหานี้อยู่ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องอัปเดตหรือรอให้มีการอัปเดตแก้ไขเรื่องนี้ ปัญหาไม่ใช่เป็นที่ตัวเครื่องแต่เป็นมาจากแอพเอง เพราะผู้ใช้งานหลายท่านเกิดปัญหานี้หลังจากอัปเดตแล้ว ดังที่กล่าวไปแล้วตอนต้น ฉนั้นการจะแก้ไขปัญหาข้อนี้ ก็ต้องรอให้มีการอัปเดตใหม่ล่าสุดออกมาเท่านั้น เชื่อว่าทาง Facebook น่าจะออกอัปเดตมาแก้ไขปัญหานี้ ให้หมดไปในไม่ช้าอย่างแน่นอน
- Facebook Messenger
- iPhone
ตอนนี้แก้ไขได้แล้วครับ ทำตามวิธีของท่านความคิดเห็นที่ 5-1
ให้ปิดการใช้งานอินเตอร์เน็ตของ ซิมที่เราไม่ได้ใช้ครับ จะสามารถใช้ 2 ซิมได้ปกติ ทดลองแล้วได้ผล
วิธีเปิด-ปิดการใช้งานอินเตอร์เน็ต
Laughing เปิด-ปิดเน็ตดีแทค,เปิด-ปิดเน็ตHappy,เปิด-ปิดแฮปปี้ดีแทค
- เปิดเน็ตดีแทค กด *104*71# โทรออก
- ปิดเน็ตดีแทค กด *104*72# โทรออก
Laughing เปิด-ปิดเน็ตทรูมูฟ,เปิด-ปิดเน็ตทรูมูฟเอช,เปิด-ปิดเน็ตTruemove H
- เปิดเน็ตทรูมูฟเอช กด *113*1# โทรออก
- ปิดเน็ตทรูมูฟเอช
กด *113*2# โทรออก
Laughing เปิด-ปิดเน็ตทรูมูฟ,เปิด-ปิดเน็ตทรูมูฟเอช,เปิด-ปิดเน็ตTruemove H
- เปิดเน็ตเอไอเอส AIS กด *129*2# โทรออก
- ปิดเน็ตเอไอเอส AIS กด *129*1# โทรออก