เคยกังวลใจกับปัญหาแบบนี้ไหม ?
“วางแผนไว้กับเพื่อนไปเที่ยวทะเล..ในช่วงมีประจำเดือนพอดี…” “จะไปเดินป่าขึ้นเขา แต่..เมนส์ดันจะมา…”“ไปทริปต่างประเทศ อยากชิวๆ เลื่อนเมนส์ได้ไหมเนี่ย”ปัญหาที่คอยกวนใจจะหมดไปด้วยยาเลื่อนประจำเดือน !ยาเลื่อนประจำเดือนได้อย่างไร ?
ก่อนประจำเดือนมา ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนในร่างกายจะลดลงเรื่อยๆ ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือน ถ้าเรากินยาที่มีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเข้าไป ก็จะไปเพิ่มระดับฮอร์โมน เมื่อฮอร์โมนไม่ลด เยื่อบุโพรงมดลูกก็ไม่สลาย ประจำเดือนก็จะยังไม่มา หรือเลื่อนออกไปก่อนนั่นเอง
ยาเลื่อนประจำเดือนที่นิยมใช้ มีชื่อการค้าว่า Primolut N® ภายในจะมีตัวยาชื่อ norethisterone ขนาด 5 mg แต่ถ้ากินยาไปแล้วเกิดอาการ คลื่นไส้มาก ผื่นขึ้น หายใจลำบาก แสดงว่าแพ้ยานี้ และควรหยุดใช้ยา
*ที่สำคัญคือ ยาเลื่อนประจำเดือนนี้ไม่มีประสิทธิภาพป้องกันท้อง ถ้ามีเพศสัมพันธ์ก็ต้องใช้ถุงยางอนามัยหรือวิธีการคุมกำเนิดอื่นๆ
วิธีการกินยาเลื่อนประจำเดือน ?
ให้กินก่อนวันที่ประจำเดือนจะมาวันแรก ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 3 ครั้ง เช้า-กลางวัน-เย็น และให้ทานต่อไปเรื่อยๆ แบบนี้ จนกระทั่งต้องการให้เมนส์มา จึงหยุดยา หลังจากนั้นประจำเดือนจะมาภายใน 2-3 วัน
คำถามที่พบบ่อย ?
- ระหว่างเมนส์มา กินยาเลื่อนประจำเดือนได้ไหม?
- ไม่ได้ค่ะ ยาเลื่อนเมนส์ต้องกินก่อนที่รอบเดือนปกติจะมา ถ้าเมนส์มาแล้วก็จะไม่เกิดผลใดๆ
- กินยาเม็ดคุมกำเนิดอยู่ สามารถกินยาเลื่อนได้ไหม?
- ได้ค่ะ หลังจากกินยาคุมเม็ดที่ 21 หมด ให้กินยาเลื่อนประจำเดือนต่อได้เลย
- ยานี้มีข้อควรระวังไหม?
- ไม่ควรใช้เกิน 10-14 วันค่ะ การใช้ติดต่อกันนานๆ ทำให้เลือดออกกระปริดกระปรอย และรอบเดือนแปรปรวน
- หลีกเลี่ยงการกินร่วมกับยาลดกรดในกระเพาะอาหาร เพราะทำให้ยานี้ดูดซึมได้ลดลง
*หมายเหตุ* หลายคนอ่านแล้วสนใจยาเลื่อนประจำเดือน อาจจะต้องวางแผนล่วงหน้าซักหน่อย เพราะวิถีชีวิตของคนเราค่อนข้างต่างกันและอาจจะขึ้นอยู่กับการจัดการของแต่ละคนด้วย ซึ่งถ้าบางครั้งเราไม่จำเป็นต้องการเลื่อนประจำเดือนก็ไม่จำเป็นต้องใช้ยาเลื่อนประจำเดือนก็ได้นะจะได้เซฟตับไปด้วยนั่นเองจ้า
Cr. ภก.สุรศักดิ์ วิชัยโย ภก.อุทัย สุขวิวัฒน์ศิริกุล และ ภก.ทศพล เลิศวัฒนชัย
จองทริปไปแล้ว แต่เกิดปัญหาเพราะว่าเมนส์จะมาตรงช่วงที่ไปเที่ยวพอดี! ทำไงดีๆๆๆ ไม่อยากปวดท้องหรือคอยกังวลว่าประจำเดือนจะทำให้อารมณ์เรากร่อยในระหว่างเที่ยว จนไม่เอนจอยกับทริปที่รอคอย ทางเราเข้าใจปัญหาเหล่านี้ดี เพราะไปเที่ยวแต่ละทีแล้วต้องมากังวลว่าประจำเดือนจะเลอะมั้ย ระหว่างเที่ยวจะมีห้องน้ำให้ได้เปลี่ยนผ้าอนามัยหรือเปล่า ยิ่งถ้าใครเป็นทริปที่ต้องลงดำน้ำด้วย เกิดเมนส์มาตรงช่วงนั้นพอดี แค่คิดก็เศร้าแล้ว~ บอกเลยว่าปัญหานี้เหล่านี้จะหมดไป ถ้าพวกเธอทั้งหลายได้รู้จักกับ 'ยาเลื่อนประจำเดือน '
ยาเลื่อนประจำเดือน คืออะไร ?
เลื่อนได้จริงมั้ย ? กินยังไงให้ถูกวิธี ?
ยาเลื่อนประจำเดือน คือ ยาเม็ดที่มีไว้สำหรับกินเพื่อเลื่อนประจำเดือนออกไปชั่วคราว หรือกินเพื่อให้ประจำเดือนมาช้าลงนั่นเอง โดยยามีชื่อว่า นอร์เอทีสเตอโรน (Norethisterone) ในยาจะมีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนสังเคราะห์ ซึ่งเป็นชื่อฮอร์โมนที่สาวๆ อย่างเราอาจจะคุ้นเคยกันดี เพราะเป็นฮอร์โมนที่เป็นตัวควบคุมไข่ตกและยังเกี่ยวข้องโดยตรงกับการมาของประจำเดือนของผู้หญิงทุกคนนั่นเอง
ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนจะมีหน้าที่กระตุ้นเลือดให้ไปเลี้ยงเยื่อบุโพรงมดลูกให้มีความหนามากพอจนเป็นที่ฝังตัวของไข่ที่เกิดการปฏิสนธิแล้ว แต่หากว่าไม่มีการปฏิสนธิเกิดขึ้น ลูกไม่ได้เกิดแน่ๆ แล้ว ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนก็จะค่อยๆ เฟดหรือลดระดับตัวเองลง ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกลอกออกมากลายเป็นประจำเดือน
แล้วฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนในยาเลื่อนประจำเดือน ทำหน้าที่อะไร ?
ก็คือว่า.. ในช่วงที่เราเป็นประจำเดือน ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนจะลดลง จนเยื่อบุผนังมดลูกทำการสลายตัวเป็นประจำเดือนถูกมั้ย และในการที่เราจะทำการขยับเขยื้อนเลื่อนประจำเดือนออกไปได้นั้น ก็จะต้องเพิ่มฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเข้าไป โดยใช้ยาเลื่อนประจำเดือนเป็นตัวช่วย เพื่อให้เยื่อบุโพรงมดลูกยังคงเกาะเหนียวแน่นอย่างนั้นไปก่อน พอเยื่อบุโพรงมดลูกยังไม่ลอกไม่ร่อน เราก็จะไม่มีประจำเดือน รอเวลาจนกว่าจะถึงเวลาอันสมควร ผ่านวันสำคัญหรือผ่านทริปเที่ยวไปแล้ว เราค่อยหยุดกินยาเพื่อให้ประจำเดือนกลับมาเหมือนเดิม
อ้อ! แล้วที่สำคัญ ยาเลื่อนประจำเดือนจะใช้ได้ผลกับคนที่ประจำเดือนมาปกติ หรือคนที่รู้ว่าประจำเดือนจะมาช่วงไหนมากกว่า ส่วนคนที่ประจำเดือนมาไม่ตรงเวลา มาบ้าง ไม่มาบ้าง อาจจะใช้ยาเลื่อนประจำเดือนไม่ได้ผลนะ บอกไว้ก่อน~
วิธิการกินยาเลื่อนประจำเดือนไม่ให้ Mission Failed
กินยาครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2-3 ครั้ง หลังอาหารหรือทานพร้อมมื้ออาหาร โดยกินตามน้ำหนักตัว ตามนี้ได้เลย
- น้ำหนักตัว น้อยกว่า 60 กก. กินครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2 เวลา คือ เช้าและเย็น
- น้ำหนักตัว มากกว่า 60 กก. กินครั้งละ 1 เม็ด วันละ 3 เวลา คือ เช้า กลางวัน และเย็น
ให้ เริ่มกินยาก่อนที่ประจำเดือนจะมาประมาณ 3-4 วัน เช่น ถ้าประจำเดือนจะมาวันที่ 10 ให้เริ่มกินยาเลื่อนประจำเดือนตั้งแต่วันที่ 6 เป็นต้น และกินต่อเนื่องจนกว่าจะถึงช่วงเวลาที่ต้องการให้ประจำเดือนมา จากนั้นสามารถหยุดยาได้เลย ประจำเดือนจะมาปกติภายใน 2-3 วัน หรือบางคนอาจจะต้องรอนานถึง 7 วันเลย
***ข้อควรระวังในการกินยาเลื่อนประจำเดือน คือ ไม่ควรกินติดต่อกันนานเกิน 14 วันหรือ 2 สัปดาห์***
การกินยาเลื่อนประจำเดือน มีผลข้างเคียงมั้ย ?
ก็ต้องมีสิค้าา.. ก็เพราะว่าตัวยานั้นส่งผลกับฮอร์โมนของสาวๆ โดยตรง แน่นอนว่าอาจจะมีผลข้างเคียงตามมา แต่ผลข้างเคียงนั้นก็จะขึ้นกับแต่ละบุคคลด้วย เพราะฉะนั้นก่อนกิน ต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกรเสมอ และกินตามคำแนะนำเท่านั้นถึงจะปลอดภัย
แต่จากประสบการณ์ส่วนตัวเรา กินแล้วไม่มีผลข้างเคียง ใช้ชีวิตได้ปกติสุขมาก แต่พอไปถามเพื่อนอีกคนก็บอกว่ามีมึนๆ บ้าง เป็นเรื่องปัจเจกล้วน ส่วนของอาการหรือผลข้างเคียงที่พบเจอกันได้บ่อยๆ คือ มีอาการปวดหัว คลื่นไส้ เจ็บหรือคัดตึงเต้านม มีความหิวโหย มีความอยากอาหารมากขึ้น และอาจจะรู้สึกเหมือนตัวบวมๆ ขึ้นด้วย
กินยาเลื่อนประจำเดือนแล้ว มีเพศสัมพันธ์ได้มั้ย ? ถ้ามีจะท้องหรือเปล่า ?
เอาจริงๆ ก็สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ แต่! ย้ำว่าแต่ ยาเลื่อนประจำเดือนไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อช่วยคุมกำเนิด ความจริงแล้วโอกาสถือว่าค่อนข้างน้อยที่จะตั้งท้อง เพราะผ่านช่วงเวลาไข่ตกไปแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเลย จึงไม่มีอะไรสามารถการันตีได้ว่าจะไม่ท้อง ถ้ามีเพศสัมพันธ์ยังไง๊ยังไงก็ยังแนะนำให้ใส่ถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันทุกครั้งจะชัวร์ที่สุด หรือถ้าจะเอาชัวร์คือการกินยาคุมกำเนิด ถ้าจะกินยาเลื่อนประจำเดือนก็สามารถกินยาคุมต่อเนื่องได้เลยโดยไม่ต้องหยุดยา ประจำเดือนมาช้าลงแถมยังไม่ต้องกังวลว่าจะท้องด้วย
ถ้าหากว่าหยุดยาเลื่อนประจำเดือนไปแล้ว 2-3 วันประจำเดือนยังไม่มา รอจนแล้วจนเล่าจน 7 วันก็ยังไม่มีวี่แววมา ให้รีบพุ่งไปซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจหรือไปพบแพทย์เพื่อตรวจเช็กอีกทีกันด้วยนะ
ใครบ้างที่ไม่สามารถกินยาเลื่อนประจำเดือนได้ ?
❌ คุณแม่ลูกอ่อนที่กำลังอยู่ในช่วงให้นม
เนื่องจากตัวยาเลื่อนประจำเดือนมีฮอร์โมนโปเจสเตอโรน อาจทำให้มีเจือปนไปกับน้ำนมแม่สู่ลูกได้ อาจมีผลข้างเคียงและส่งผลต่อเจ้าตัวน้อยได้
❌ คนที่มีประวัติเสี่ยงหรือเคยเป็นโรคหลอดเลือดอุดตัน
ยาเลื่อนประจำเดือนจะยิ่งไปเพิ่มความเสี่ยงให้หลอดเลือดอุดตันเพิ่มขึ้น ซึ่งผู้ที่มีความเสี่ยง คือ โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง และคนที่สูบบุหรี่ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ อย่าหากิน ปล่อยน้องเมนส์ไหลปกติดีกว่าน้า
❌ คนที่เคยเป็นหรือกำลังเป็นโรคตับ
เพราะเมื่อเรากินยาเลื่อนประจำเดือนเข้าไป ยาจะเข้าไปสะสมอยู่ที่ตับ ถ้าหากว่าตับทำงานไม่ปกติ อาจทำให้ตัวยาเกิดสะสมค้างอยู่ในตับได้ นอกจากนี้ยังมีรายงานอีกด้วยว่ายาเลื่อนประจำเดือนอาจทำให้เกิดอาการตับอักเสบได้
❌ คนที่เป็นโรคมะเร็งเต้านม
เนื่องจากว่าโรคนี้เป็นเนื้อร้ายที่เกิดกับอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมน ตัวยาอาจจะไปกระตุ้นให้ก้อนเนื้อร้ายโตเร็วขึ้นได้
ราคาและยี่ห้อของ 'ยาเลื่อนประจำเดือน'
สำหรับยาเลื่อนประจำเดือน ยี่ห้อที่มีขายอยู่ทั่วไปตามร้านขายยา มีอยู่ทั้งหมด 3 ยี่ห้อด้วยกัน
- ยี่ห้อ Primolut N ตัวยาขนาด 5 ม.ก. / เม็ด ในแผงมี 15 เม็ด แบ่งเป็น 2 แผง ราคากล่องละ 100-200 บาท (ราคาขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน)
- ยี่ห้อ Steron ตัวยาขนาด 5 ม.ก. / เม็ด หนึ่งแผงมีทั้งหมด 5 เม็ด ราคาแผงละประมาณ 50 บาทขึ้นไป (ราคาขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน)
- ยี่ห้อ Norca ตัวยาขนาด 5 ม.ก. / เม็ด หนึ่งแผงมี 5 เม็ด ราคาแผงละประมาณ 50 บาทขึ้นไป (ราคาขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน)
ยาเลื่อนประจำเดือน แม้ว่าจะใช้เพื่อเลื่อนประเดือนได้ก็จริง ผลข้างเคียงอาจไม่ได้ร้ายแรงหรืออันตรายถึงชีวิต แต่ทางที่ดีก็ควรใช้ในตอนที่จำเป็นดีกว่า ปล่อยให้ประจำเดือนมาตามรอบตามธรรมชาติก็จะปลอดภัยกับร่างกายที่สุด และถ้าหากว่ามีเหตุจำเป็นต้องใช้จริงๆ เราก็จะย้ำอีกครั้งว่า ยาเลื่อนประจำเดือนไม่ควรซื้อมากินเอง โดยที่ไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกร
บทความที่เกี่ยวข้อง :
📍 กินยาคุมครั้งแรกยังไงให้ถูกวิธี ไม่ท้องแน่นอน !
📍 9 กางเกงอนามัย ตัวช่วยของผู้หญิงในวันแดงเดือด ที่รับประกันว่าไม่มีเลอะ !
📍 จัดว่าเด็ด!! 26 ถุงยางอนามัย หลากสไตล์ อินไซต์สุด
ขอบคุณข้อมูลจาก : pharmacy.mahidol.ac.th, doctorraksa.com, pobpad.com, theasianparent.com