อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้รู้สึกว่าเป็นอิสระก็คือการได้ขับขี่รถไปไหนมาไหนเอง โดยไม่ต้องทำเป็นให้ใครไปส่ง และยังสะดวกสุด ๆ ด้วยหากต้องไปยังที่ที่การขนส่งสาธารณะยังไม่ค่อยดีนัก แต่ว่าก่อนที่เพื่อน ๆ จะได้รับสิทธินั้น ก็ต้องมีใบขับขี่อย่างถูกต้องตามกฎหมายเสียก่อนนะคะ ซึ่งการสอบก็ไม่ได้ยากเลยค่ะ Wongnai Beauty ได้เตรียมข้อมูลแบบแน่น ๆ มาให้เพื่อน ๆ ได้เตรียมตัวให้พร้อม ก่อนลงสนามจริง ครบทุกขั้นตอน เริ่มต้นตั้งแต่สมัครใบขับขี่เลยค่ะ
ขั้นตอนที่ 1 จองคิวอบรมผ่านแอป DLT Smart Queue
ด้วยสถานการณ์โควิด -19 ในปัจจุบัน จำเป็นต้องลงทะเบียนจองผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น!! เพื่อจัดสรรปริมาณของผู้เข้าใช้บริการ การจัดระบบการจัดคิว เพื่อช่วยเซฟผู้เข้าสอบในช่วงโควิด-19 นี้ด้วยค่ะ
สามารถเข้าไปโหลดแอป DLT Smart Queue ได้ที่นี่
- โหลดสำหรับ Android
- โหลดสำหรับ iOS
สอบใบขับขี่รถยนต์
- อายุ 18
ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
สอบใบขับขี่รถจักรยายนต์
- 15 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป สำหรับใบขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ไม่เกิน 110 ซีซี
- 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป สำหรับใบขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่จำกัดซีซี เช่น บิ๊กไบค์
ขั้นตอนที่ 2 เตรียมเอกสาร สำหรับการทำใบขับขี่
เอกสารสำหรับสมัตรสอบใบขับขี่
- บัตรประชาชนตัวจริง
- ใบรับรองแพทย์ (อายุไม่เกิน 1 เดือน)
ขั้นตอนที่ 3 ทดสอบสมรรถภาพในวันและเวลาตามนัดหมาย
การทดสอบสมรรถภาพได้แก่
- ทดสอบสายตาต่าง ๆ
- ทดสอบการมองเห็นสีสัญญาณไฟ
- ทดสอบการมองเห็นมุมกว้าง และลึก
- ทดสอบปฏิกริยาทางเท้า(การเหยียบเบรก)
สำหรับผู้มีความบกพร่องหรือมีความพิการด้านอื่น ๆ แนะนำให้ขอรับคำปรึกษากับเจ้าหน้าที่ขนส่งนะคะ
ขั้นตอนที่ 4 การอบรมที่สำนักงาน
การอบรมที่สำนักงาน / พร้อมสอบข้อเขียน
- สำหรับผู้ที่มีใบขับขี่อยู่แล้ว ใบขับขี่หมดอายุต้องการจะต่ออายุ สามารถอบรมออนไลน์มาก่อนได้
- สำหรับมือใหม่ จำเป็นต้องเข้ารับการอบรมที่ขนส่งเท่านั้น
เริ่มต้นต้องสอบข้อเขียน จำนวน 50 ข้อ ผู้เข้าสอบจะต้องตอบถูก 90% หรือคิดเป็น 45 ข้อ จากทั้งหมด 50 ข้อ หากใครที่ไม่มั่นใจก็ลองหาพวกแบบทดสอบออนไลน์มาทำกันก่อนก็ได้ค่ะ เพื่อเป็นการเตรียมตัวที่ดีนะคะ รับรองสอบผ่านแน่!!
ขั้นตอนที่ 5 การสอบปฏิบัติ
รถยนต์ สอบ 3 ด่าน คือ
- ขับรถเดินหน้าและถอยหลังในทางตรง
ขับรถตรง ๆ เป็นระยะทาง 12 เมตร โดยต้องขับเดินหน้า 1 ครั้ง ถอยหลัง 1 ครั้ง ห้ามชนหรือเบียดเสาเด็ดขาด ถือว่าเป็นด่านที่ง่ายที่สุดในทั้ง 3 ด่าน
- ขับรถเดินหน้าและหยุดรถเทียบทางเท้า
ต้องจอดเทียบห่างจากขอบทางได้ไม่เกิน 25 เซนติเมตร ห้ามให้ล้อเบียดขอบฟุดบาท ห้ามเหยียบเส้นด้านข้าง และกันชนรถต้องไม่เกินเส้นหยุดรถด้านหน้าและห่างได้ไม่เกิน 1 เมตร
- ขับรถถอยเข้าซอง
ด่านนี้ถือเป็นด่านปราบเซียน เพราะมันไม่ใช่ซองตรง ๆ เหมือนช่องจอดในที่จอดรถนะสิ แต่เป็นช่องสี่เหลี่ยมซึ่งด้านซ้ายเปิดโล่ง คล้าย ๆ กับการจอดเทียบข้างทาง เพียงแต่ว่ามันมีเสาล้อมรอบและมีช่องว่างกว้างกว่ารถเพียงเล็กน้อย เราต้องขับเข้าช่องนั้นให้ได้ โดยเปลี่ยนเกียร์ได้ไม่เกิน 7 ครั้ง ห้ามชนหรือเบียดเสาเด็ดขาด เมื่อจอดสำเร็จ กระจกมองข้างต้องไม่ล้ำออกนอกเส้นที่กำหนด
จักรยานยนต์ สอบ 5 ด่าน ดังนี้
- ขับขี่ตามป้ายจราจร
ขับตามเส้นทางที่กำหนดซึ่งจะมีป้ายจราจรติดอยู่ ต้องหยุดรถหรือเลี้ยวรถตามป้ายจราจรเหล่านั้น และต้องเปิดไฟเลี้ยวทุกครั้งเมื่อต้องการเลี้ยว ไม่เช่นนั้นจะถือว่าสอบตก
- ขับขี่ทรงตัวบนทางแคบ
เส้นทางที่ต้องขับจะค่อนข้างแคบ เป็นการทดสอบการทรงตัว ห้ามใช้เท้ายันพื้นโดยเด็ดขาด และห้ามขับเร็วเกินไปด้วย
- ขับขี่ผ่านโค้งรูปตัว Z
ทดสอบการเลี้ยวโค้งหักศอก เพราะเส้นทางจะเป็นรูปตัว Z ห้ามล้ม ห้ามใช้เท้าช่วยยันพื้น
- ขับขี่ผ่านโค้งรูปตัว S
เส้นทางเป็นรูปตัว S ทดสอบการเข้าโค้งซ้ายและขวา
ห้ามใช้เท้าช่วยยันพื้นเด็ดขาด
- ขับขี่ซิกแซ็กผ่านสิ่งกีดขวาง
ห้ามชนสิ่งกีดขวางและห้ามใช้เท้าช่วยยันพื้นเพื่อทรงตัวเด็ดขาด
ใบขับขี่หาย ไม่ต้องสอบใหม่! ให้เตรียมเอกสารที่ต้องใช้
ใบขับขี่หายต้องเตรียมเอกสารดังนี้
หากเพื่อน ๆ ทำใบขับขี่หาย ก็อย่าเพิ่งเสียใจเพราะคิดว่าต้องไปสอบใหม่ตั้งแต่ต้น สิ่งที่ต้องทำก็คือไปขอใบขับขี่ใบใหม่ที่สำนักงานขนส่งใกล้บ้านค่ะ ไปได้ทุกที่ ไม่จำเป็นต้องเป็นสำนักงานขนส่งที่เคยไปสอบ ไม่ต้องใช้ใบแจ้งความจากสถานีตำรวจหากว่าเป็นใบขับขี่รถส่วนบุคคล ใบขับขี่ใบใหม่จะมีข้อมูลเช่นเดียวกับใบเดิมเป๊ะ ทั้งรูปถ่าย ประเภทใบขับขี่ และวันหมดอายุค่ะ
เอกสารที่ต้องใช้
- บัตรประชาชนหรือทะเบียนบ้านตัวจริง พร้อมสำเนา
- ค่าธรรมเนียมคำขอ 5 บาท ค่าธรรมเนียมออกใบขับขี่ใบใหม่ 250 บาท รวม 255 บาท
การสอบและต่อใบขับขี่ในภาวะไวรัสโคโรน่า (COVID-19) ระบาด
แต่ตอนนี้มีสถานการณ์ฉุกเฉินไวรัสโคโรน่า (COVID-19) กรมขนส่งจึงงดทำการสอบใบขับขี่จนกว่าจะมีประกาศยกเลิก พรบ.ฉุกเฉิน ส่วนใบขับขี่ที่หมดอายุในช่วงนี้ก็อนุโลมให้ใช้ได้ชั่วคราว แต่เมื่อประกาศยกเลิกพรบ.ฉุกเฉินแล้วต้องรีบมาดำเนินการใช้เสร็จภายใน 15 วัน แต่ปัจจุบันนี้ยังอบรมเพื่อขอต่อใบขับขี่ได้ เพียงแค่เปลี่ยนเป็นการอบรมออนไลน์ ที่ www.dlt-elearning.comค่ะ แต่หากเป็นการสอบครั้งแรกยังต้องงดอย่างเดียว อบรมออนไลน์ไม่ได้ค่ะ