ในที่สุดก็มาถึงภาคที่... เอ่อ... ขอนับแปป... 19 กันแล้วกับเกมแฟรนชายส์หมื่นล้านอย่าง Need for Speed (อีก 2 ปีก็ครบ 20ปี NFS แล้วนะเออ) ที่ผ่านมามีทั้งความสุขสันต์ในการเล่นชนิดที่เรียกว่าเล่นได้ยาวกันเป็นปีไม่มีเบื่อ จนถึงแค่เล่นไม่กี่นาทีก็อยากลบทิ้งเลยทีเดียว ส่วนภาคนี้นั้นพัฒนาโดย Criterion ซึ่งรู้จักกันดีจาก Burnout และเคยฝากผลงานไว้แล้วกับการรีเมค Hot Pursuit เมื่อปี 2010 มาถึงภาคนี้เป็นการกลับไปใช้ชื่อเดิมที่โด่งดังอีกครั้ง (ก็ไม่รู้ว่าจะเอาชื่อเก่ามาใช้หากินไปถึงไหน) และแน่นอนว่าคอนเซปท์ของ Most Wanted นั้นคือมีการหนีจากการไล่ล่าของตำรวจ มี Black List หรือบอสให้ปราบ แล้วก็สามารถวิ่งอิสระได้ ส่วนเกมนี้จะเป็นยังไงมาดูกันเลย
เปิดเกมเข้ามานั้นเป็นอะไรที่สะดวกเข้าท่า เพราะไม่ต้องผ่านเมนูอะไรตัวเกมจะพาเราเข้าไปอยู่บนถนนทันที ทั้งนี้ถ้าเครื่องที่เล่นไม่แรงเท่าไหร่แต่จอใหญ่ Full-HD ก็จะกระตุกทันทีไม่มีอุทร
แต่พวกออปชั่นต่างๆก็ยังสามารถกดหยุดเกมเพื่อปรับแต่งได้ตามปกติ ไม่ต้องเป็นห่วงอย่างใด
มาดูกันเป็นหัวข้อเช่นเคยครับ
Driving Physics - ระบบการขับ ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าเกมนี้เป็นเกมอาเขตแบบล้วนๆ ดังนั้นอย่าไปหวังว่ามันจะสมจริงแต่อย่างใด แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะแสดงคาแรคเตอร์ของรถแต่ละคันไม่ได้ เพราะในเกมนี้นั้นแสดงคาแรคเตอร์ของรถได้อย่างดีครับ แต่ข่าวดีที่มีหมดแค่นี้เท่านั้นล่ะ เพราะเปิดเกมมาแค่คันแรกก็รู้สึกได้เลยว่ารถเลี้ยวช้ามาก จนแทบจะเรียกว่าดีเลย์ได้เลย ซึ่งถ้าดูกันจริงๆแล้วพอกดเลี้ยวปั๊ปกว่าล้อจะหมุนได้ใช้เวลานานมาก ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่... ถ้าบรรดาแฟนตัวยง(แบบไม่ลืมหูลืมตา)จะบอกว่านี่ล่ะสมจริง ว่ากันตามตรงก็สมจริงนะ เหมือนเอาคุณปู่อายุ 80 มาค่อยๆหมุนพวงมาลัย ลองนึกตามนะครับ คุณปู่แกจะค่อยๆหมุน พร้อมออกแรงและออกเสียง อืออออ ฮึบ อืออออออ ฮีบ อือออออออ จนกว่าจะเลี้ยวไปถึงที่ต้องการใช้เวลานานกว่าควรจะเป็นเยอะ และกว่าละเลี้ยวสุดก็ไปหลายวิฯ ที่สำคัญคือคืนพวงมาลัยช้ามาก ทำให้พอเวลามีโค้งต่อเนื่องหมุนก็ช้าคืนก็ช้าทำให้เสียอารมณ์ในการเล่นได้สุดๆ สร้างความรำคาญให้กับเวลาแข่งเป็นอย่างมาก ยิ่งรำคาญมากขึ้นเมื่อวิ่งด้วยความเร็วต่ำหรือวิ่งเล่นในเมือง และน่ารำคาญอย่างหาที่เปรียบไม่ได้เมื่อหนีตำรวจ มาต่อกันที่แรงรถบ้าง รถแต่ละคันถึงแม้ความเร็วและเร่งได้ตามที่ควรเป็น แต่รถจะแรงอย่างโอเวอร์ตอนที่เริ่มออกตัวหรือเวลาวิ่งที่ความเร็วต่ำมากๆ ชนิดที่เรียกว่าสามารถปั่นล้อฟรีได้ แต่ดันหมุนอยู่กับที่ซะอย่างงั้นโดยที่ไม่ได้ไปไหน ซึ่งเวลาจะหนีตำรวจนั้นเมื่อโดนชนจนรถเกือบไปไหนไม่ได้แล้วก็ไม่ต้องหวังจะดิ้นหนี เพราะมันจะปั่นฟรีอยู่กับที่นั่นล่ะ ดังนั้นอย่าขัดขืน จอดรอเหอะ ไม่ต้องเมื่อย มาถึงฟิสิกส์ในการขับกันบ้าง ในเกมนี้นั้นอย่างที่บอกไปแล้วว่าอาเขต ซึ่งระบบการขับก็อาเขตสุดๆ พุ่งอย่างเดียว ใช้ไนโตรเพื่อเร่งให้เร็ว เวลาเลี้ยวนี่เกมแทบจะบังคับให้ใช้เบรกมือเพื่อดริฟท์ และพอดริฟท์แล้วนั้นรถจะไถลได้ยาววววววววววว มากกกกกกกกก เหมือนจะสนุก แต่บางทีมันไถลจนเกือบเรียกได้ว่าคุมวงไม่ได้ และในเกมนี้นั้นมักจะมีรถอยู่ในเลนที่เรากำลังวิ่งเสมอ พอดริฟท์มาปั๊ปก็เปรี้ยง... ชนเต็มๆ และที่สำคัญคือในเกมนี้นั้นสามารถแต่งรถได้ครับ โดยที่การใส่ชุดแต่งต่างๆนั้นจะส่งผลโดยตรงกับการขับ ยิ่งแต่งเยอะยิ่งขับดีขึ้น ง่ายขึ้นครับ แต่ทว่าในเกมนี้ถึงเราจะขับไปชนนู่นชนนี่จนสภาพยู่นี่ได้ แต่ไม่มีผลกับรถเลยยกเว้นขับทับหนาม ซึ่งทำแค่ให่รถช้าลงเท่านั้น ส่วนวิธีการซ่อมรถก็แค่วิ่งผ่านปั๊มเท่านั้น ไม่ต้องทำอะไรมันก็จะซ่อมให้ทันที พร้อมกับเติมไนโตรให้เต็มถังซะด้วย
มาดูกันที่การรับ input ของเกมนี้บ้าง เกมรองรับทั้ง Direct Input และ Xinput (จอยชนิด Xbox360) รองรับระบบสั่น แต่ไม่สามารถใช้ Force Feedback ได้ มันสั่นอย่างเดียวเท่านั้น FFB ไม่ได้บอกอาการอะไรของรถเลย ซึ่งเหมือนจะปกติของเกม Criterion เอาเกมออกไปก่อน ให้ใช้เกมแพดได้ ตั้งจอยได้ สักพักเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าอ๊ะ... ผู้เล่นใช้จอยพวงมาลัยมี Force Feedback เล่นเกมขับรถด้วยนี่นา ถึงได้ทำ patch ออกมาแก้ให้ใช้ได้ (ยกตัวอย่าง Need For Speed: Hot Pursuit 2010) แต่ในเมื่อการเลี้ยวมันดีเลย์อยู่แล้ว(แต่ก็ยังดีที่ดีเลย์แบบเดาได้ ไม่ใช่มัวๆ) ทำให้ใช้พวงมาลัยไม่เวอร์ค เล่นด้วยคีย์บอร์ดกับจอยแพดต่อไปนั่นล่ะดีแล้ว
สรุปแล้วระบบการขับก็เหมือนจะเข้ากับรูปแบบเกมดี แต่การเลี้ยวที่อืดอาดจนน่ารำคาญทำให้เล่นแล้วหงุดหงิดครับ
Gameplay Most Wanted ออริจินอลนั้นมีเกมเพลย์ที่สนุก เร้าใจ มีการไล่ล่าจากตำรวจ และมีสิ่งสำคัญคือ free roam หรือวิ่งอิสระในเมือง มาถึงภาคนี้นั้นก็ยังคงความเป็นเอกลักษณ์สำคัญได้ครับ โดยที่เกมจะเป็นแบบวิ่งอิสระ แต่เปลี่ยนเมืองจาก Rockport เป็น Fairheaven นอกจากนี้รถบนถนนจากที่เมื่อก่อนหน้าตาเป็นกล่องติดล้อ ในภาคนี้เป็นรถที่มีอยู่จริงๆด้วยล่ะ
เวลาที่เล่นไปแล้วถ้ามีการกระโดดหรืออะไรต่างๆนาๆก็จะมีการเก็บสถิติเอาไว้เทียบกับเพื่อนๆบน leader board ได้ด้วย
ส่วนเวลาที่จะทำการแข่งนั้น ในครั้งแรกต้องวิ่งไปให้เจอการแข่งก่อน แล้วก็กดคันเร่งกับเบรกพร้อมกันเพื่อทำการ Burnout เพื่อเข้าแข่ง ถ้ามีการแข่งซ้ำเดิมถึงจะกดเข้าแข่งได้เลยโดยไม่ต้องวิ่งไป ซึ่งทางที่แข่งนั้นจะไม่เหมือนกับ NFS ทั่วไปที่จะมีการใช้เอฟเฟกป้ายสีปิดถนนเพื่อบอกว่าไปทางไหนแต่เกมนี้ไม่มีอะไรเลยครับ คือต้องดูจาก GPS กับป้าย Checkpoint เองว่าต้องวิ่งไปทางไหน ทำให้การวิ่งนั้นเหมือนจะอิสระ แต่ยังไงก็ต้องไปตามทางอยู่ดีเพราะไม่งั้นก็ไม่มีทางชนะ และในการแข่งนั้นสามารถชนรถคู่ต้อสู้ให้พังได้หรือที่เรียกว่า Take Down นั่นเองครับ โหมดการแข่งนั้นก็จะมีหลักๆอยู่คือการแข่ง circuit, sprint (point to point), หนีตำรวจให้ได้ในเวลาที่กำหนด และทำความเร็วเฉลี่ยให้ได้ตามที่กำหนดครับ เมื่อแข่งแล้วก็จะเก็บสติติไว้เทียบกับ leader board ได้เช่นกัน ส่วนการที่จะได้ชิ้นส่วนมาอัพเกรดรถนั้นต้องแข่งให้ได้อันดับ 2 เป็นอย่างต่ำ ซึ่งการแข่งนั้นถ้าได้อันดับ 2 ก็จะได้1ชิ้น อันดับ 1 ก็จะได้เพิ่มอีกชิ้นครับ และชิ้นส่วนของรถแต่ละคันนั้นแยกกัน ดังนั้นต้องแข่งแต่ละรายการเพื่อเอาชิ้นส่วนแต่งรถแต่ละคันไปเรื่อยๆ ทำให้เหมือนจะมีการแข่งขันเยอะมาก แต่ดูจริงๆแล้วการแข่งมีไม่กี่อันเท่านั้น ที่บอกว่ามีการแข่งเป็นร้อยให้แข่งมันให้อารมณ์เหมือนตลับเกม Famicom 400 in 1 มาก (ถ้าใครเกิดทันคงนึกออก) แบบว่ามีเกมเป็นร้อย เกมต่างกันจริงๆไม่กี่เกม เหมือนอันนี้ล่ะครับ มีสนามเป็นร้อย แข่งจริงไม่กี่สนาม
ต่อมาคือการท้าแข่งกับ Most Wanted (ภาคออริจินอลเรียก Black List) นั้น จะต้องเก็บแต้มให้ได้ตามที่ต้องการก็จะสามารถขับไปที่จุดของ Black List เอ้ย Most Wanted อยู่แล้วก็กดเข้าการแข่งได้ และเมื่อแข่งชนะแล้วเพื่อจะให้ได้รถมานั้นเราต้องทำการ Take Down รถของ Most Wanted ครับ ถ้าแข่งเสร็จแล้ววิ่งไม่ทันก็ไม่เป็นไร เพราะมันจะวิ่งมาวิ่งไปอยู่ในเมืองนั่นล่ะ พบเจอก็วิ่งเข้าไปชนจนพังก็จะได้รถมาครอบครอง
วิธีการที่จะได้แต้มมานั้น นอกจากการแข่งแล้วยังสามารถที่จะหนีตำรวจเพื่อเก็บแต้มได้ ยังก่อนยังไม่หมด ในเกมนี้เราสามารถได้แต้มเพิ่มจากการชนประตูและชนป้ายโฆษณาต่างๆอีกด้วย
อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนที่เคยเล่น Burnout คงสงสัยว่าเอ๊ะ นี่มันเกมเพลย์ของ Burnout เติมตำรวจเปลี่ยนรถเป็นแบบมีลิขสิทธิ์ มีจริงบนโลก ที่เหลือก็แค่เอาปากกาเมจิกขีดชื่อ Burnout ออกแล้วเขียน Need For Speed ลงไปแทนนี่หว่า ซึ่งผมก็ไม่เถียงครับ มันเหมือนจริงๆ แต่ถ้าไม่คิดถึงตรงนั้นแล้วเกมเพลย์มันก็สนุกใช้ได้นะ มีอะไรให้ทำดี
กลับมาที่การแต่งรถหน่อยดีกว่า การแต่งรถนั้นนอกต้องได้ชิ้นส่วนอัพเกรดจากการแข่งมาก่อน จากนั้นก็ทำตามเงื่อนไขต่างๆเพื่ออัพเกรดให้เป็นชิ้นสิ่งที่ดีขึ้นครับ และไม่ว่าจะแต่งไปขนาดไหนก็ตามเราจะไม่เห็นแสดงอยู่ที่บอดี้รถเลย เพราะทุกอย่างนั้นทำจากภายในเท่านั้น ดั่งความงามจากภายในที่ส่งตรงสู่ภายนอก... เง้อ เอากับเค้าสิ และถ้าเกิดเราชนจนรถยู่ยี่แล้วรู้สึกรำคาญสายตาก็สามารถวิ่งผ่านปั๊มน้ำมันได้ รถจะซ่อมให้พร้อมกับเปลี่ยนสีและเติมไนโตรให้ด้วย ซึ่งสีที่เปลี่ยนนี่เราไม่สามารถเลือกได้ แต่เกมจะสุ่มเลือกให้เองครับ
ไปต่อกันที่ AI ของเกมนี้กันเลย AI ในเกมนี้นั้นเรียกได้เลยว่าสนับสนุนเกมแบบอาเขตสุดๆ เพราะมันมาจากคนละโลกกับผู้เล่นก็ว่าได้ ไม่ว่าเราจะขับเร็วขนาดไหน มันก็สามารถวิ่งมาจี้ตรูดเราได้อย่างสบายๆ หรือบางครั้งเราว่าเราเหยียบเต็มที่แล้ว นำมาเป็นที่ 1 กำลังจะเข้าเส้นชัย มันสามารถวิ่งแซงเราไปได้แบบหน้าตาเฉย... ทิ้งให้เรานั่งงงพร้อมตะโกนด้วยโทสะ... อะไรวะ!?!!? ส่วนรถตำรวจในเกมนี้นั้นจะว่ามันฉลาดก็ไม่ค่อยได้ ต้องบอกว่าโกงมากกว่า เพราะถ้ามันเข้ามาในวงตรวจจับสักระยะหนึ่งเมื่อไหร่ ทำยังไงมันก็ตามทันได้ไม่ว่ารถตำรวจจะเป็นรถอะไรก็ตาม นอกจากนี้ยังสามารถ spawn มาดักหน้าเราได้แบบหน้าตาเฉยซะอย่างงั้น และการหนีตำรวจในเกมนี้ไม่ได้หนีแค่ไปถึง cool down หมดก็จบ
แต่การ cool down ในเกมนี้นั้นจะลดทีละระดับ ซึ่งถ้าเราเล่นถึงการไล่ล่าระดับสูงๆแล้ว ทำท่าเหมือนจะหนีพ้น ถ้าวิ่งไปไม่ถึงจุดปลอดภัยที่ตำรวจมองไม่เห็นเราไม่ทัน ก็ต้องวิ่งไล่ล่ากันต่อไปเรื่อยๆจนสุดขอบโลก แต่ถ้าหนีจนได้ cool down แล้วถ้าอยู่ในเมืองแค่หลบเข้าหลืบบางที่ จอดค้างไว้ตรงนั้นก็หนีได้ง่ายๆ แต่บางที่ตำรวจก็ดันเห็นเราได้ซะอย่างงั้น เอาเป็นว่าลองสำรวจดูละกันว่าตรงไหนได้หรือไม่ได้
ยังไงซะการไล่ล่าในเกมนี้นั้นถ้าหนีพ้นก็ได้แต้มเพิ่ม แต่ถ้าหนีไม่พน้ก็ไม่เสียอะไร และสามารถออกจากเกมได้ทันทีทั้งๆที่ตำรวจกำลังไล่ล่าอยู่(ออริจินอลทำไม่ได้) ดังนั้นไม่ต้องคิดมาก ถ้าถูกตำรวจไล่แล้วขี้เกียจหนีก็จอดรอเถอะ ไม่ต้องขัดขืนให้เมื่อยตุ้ม รวมๆแล้วจะชนะแต่ละรายการหรือหนีตำรวจให้พ้นนั้นพึ่งดวงมากกว่าฝีมือครับ
อีกอย่างที่ต้องบอกคือเกมไม่มีเงินให้ใช้ มีแต่การเก็บแต้ม เก็บของจากการแข่ง ส่วนการจะได้รถแต่ละคันมานั้นถ้าไม่ชนะ Most Wanted เพื่อเอามาแล้วก็ต้องวิ่งไปเรื่อยๆเพื่อหารถที่จอดอยู่ตามที่ต่างๆ ซึ่งในเกมนี้เรียกว่า Jack Spot ครับ แค่ขับไปเจอก็เปลี่ยนรถได้เลย
คอเลคชั่นรถในเกมนี้มีตั้งแต่รถ Super Car, Sport Car, American Muscle, Hot Hatchback, 4x4 Offroad และสิ่งที่คนไทยอาจไม่ค่อนคุ้นคือ Track Day Car นั่นเอง เป็นประเภทรถเล็กๆแต่ความเร็วสูงและว่องไว แต่จะไม่ถึกทน ชนอะไรนิดหน่อยก็พัง พูดถึงรถพังแล้ว ในเกมนี้นั้นเวลาเราขับไปชนอะไรสักอย่างรถจะพังได้ ไม่ใช่พังแล้วแพ้ แต่มันจะตัดเข้าคัทซีนเขียนว่า Crashed, Taken Down หรืออะไรก็แล้วแต่
นึกไม่ออกให้นึกถึง Burnout นั่นล่ะครับ เหมือนกันเด๊ะๆ ถ้าเราแข่งอยู่แค่รถพัง ตัดเข้าคัทซีน(ยาวเอาเรื่อง) ตัดกลับมาอีกทีเราจะโดนแซงไปแล้ว ทั้งๆที่เวลา AI ชนไม่เห็นมันจะหยุดนานแบบเราเลย สรุปแล้วรูปแบบการเล่นมันเหมือนเกมหยอดตู้เล่นมากกว่า ที่เล่นเป็นด่านๆไป แล้วก็เอาไปขึ้น leader board เทียบกับคนที่มาหยอดเหรียญเล่นต่อไป
Graphics แน่นอนว่าเกมฟอร์มยักษ์ระดับนี้แล้วกราฟฟิคย่อมสวยเป็นธรรมดา... ก็อยากจะบอกแบบนั้นอยู่หรอก คือพวกแสงสีเนี่ย สวยดี แต่พอมาดูโมเดลรถใกล้ๆแล้วโมเดลทำไม่ค่อยละเอียดเท่าไหร่ บางที่ทั้งๆที่ควรจะเป็นโค้งกลับเป็นเหลี่ยมๆซะอย่างงั้น และแสงสีที่เหมือนจะสวยแต่มันมากไป เล่นไปสักพักอาจจะรำคาญได้
แต่สิ่งใหม่ที่เห็นได้จะๆแล้วรู้สึกว่าสวยงามมากคือ Day-Night Transition คือเล่นไปสักพักเมื่อเวลาเปลี่ยนนั้น เมืองก็จะเปลี่ยนจากกลางวันเป็นกลางคืนได้ เพิ่มประสบการณ์การเล่นให้ดียิ่งขึ้น พวกเอกเฟกประกายไฟต่างๆนั้นก็มีมากสุดๆกระแทกลูกตากันเต็มที่ นอกจากแสงประกายไฟแล้วยังมีแสงจากไฟหน้ารถคันอื่น ไฟจากไซเรนตำรวจ แสงดวงอาทิตย์ที่ส่องย้อนมาเวลาขับไป แสงแฟลร์ สารพัดสารเพสาดใส่มายังลูกตาผู้เล่น เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่บอกได้ว่า "เวอร์เกิน" ครับ
ทางด้านมุมมองของเกมนี้นั้นมีอยู่ 2 มุมมองเท่านั้นคือมองจากกันชน(แบบแนบถนนสุดๆ) กับมองจากด้านหลังที่ขยับขึ้นลงได้เวลารถกระโดด บางครั้งกระโดดมากล้องกดลงต่ำมองไม่เห็นว่ามีใครสวนมาไหมเห็นอีกทีก็เปรี๊ยง... Crashed ซะอย่างงั้น!!! รวมๆแล้วสวยอลังการ แต่ก็เป็นตัวอย่างที่บอกได้ว่า"เกินไปก็ไม่ดี"
Sound BORKED ลองฟังเองโลด
เสียงของเกมนี้นั้นอัดมาได้อย่างดีทุกคันทุกย่านเสียง ทุกเอฟเฟกของเครื่องยนต์ โบลว์ออฟ ซุเปอร์ชาร์จ เป็นอะไรที่เร้าใจสุดๆครับ ไม่แสบสะท้านจนน่ารำคาญเพราะทุกย่านเปล่งออกมาได้อย่างดี นอกจากนี้เสียงเอฟเฟกเวลาชนนั้นก็โครมครามได้ใจ สำหรับคนรักรถแค่ฟังเสียงเครื่องยนต์เกมนี้อย่างเดียวก็มีความสุขได้ ฟังแล้วไม่เหนื่อยหูว่างั้นเถอะ เสียงวิทยุของตำรวจก็บอกสถานการณ์ได้อย่างดี เสียงพากย์ที่รู้สึกแปลกๆก็น่าจะเป็นเสียงผู้หญิงนั่นล่ะ ที่ราบเรียบซะเหลือเกินยิ่งฟังก็ยิ่งออกแนว Burnout มากกว่า NFS ทางด้านเพลงประกอบนั้นจะว่าคัดมาดีก็ว่าได้ เพราะเป็นแนวอิเล็คโทรรวมไปถึง dubstep เหมาะกับการแข่งดี แต่สำหรับบางคนฟังมาฟังไปก็น่ารำคาญได้เหมือนกัน ยังไงก็ไม่ต้องกลัวไปเพราะปิดเพลงได้ครับ
มาดูคะแนนกันเลย Driving Physics : 6.5 เหมือนจะเข้ากันดีกับรูปแบบเกมที่เป็นอาเขต แต่การควบคุมที่ไม่ได้ดั่งใจ ประกอบกับความแรงรถที่ติงต๊องในช่วงความเร็วต่ำ ประกอบกับการรับ input ที่ไม่สู้ดีนัก ทำให้การขับแข่งน่ารำคาญ และการขับเล่นน่าเบื่อ
Gameplay : 7 ส่วนที่มีอะไรให้ทำคือเกมเพลย์แบบ Burnout การหนีตำรวจนั้นเหมือนจะเป็นตัวชูโรงแต่ไม่ได้รู้สึกถึงความจำเป็นในการเล่นสักเท่าไหร่ การแข่งก็ซ้ำมาซ้ำไป
Graphic : 8.5 โมเดลไม่ได้ละเอียดนัก(เอาเถอะ มองไม่ค่อยเห็นด้านหน้า) แถมยังเปิด AA ไม่ได้ ถึงแสงเงาจะสวยแค่ไหนแต่ก็เป็นตัวอย่างที่ดีของคำว่า"มากไปใช่จะดี"
Sound : 10 เสียงเครื่องเข้มข้น เร้าใจ ไพเราะน่าฟัง เสียงเอฟเฟกเสริมอารมณ์และมีพลังอย่างมาก
Overall : (6.5*6)/10)+((7*2)/10)+(8.5/10)+(10/10) = 7.15
สรุป Need For Speed Mostwanted ถ้าไม่คิดว่ามันเป็น Burnout อีกภาคหนึ่งแล้ว ก็เป็นเกมที่เล่นได้อย่างสนุกพอสมควร การไล่ล่ากับตำรวจที่ควรจะเป็นจุดเด่นนั้นถึงจะเร้าใจแต่มันก็ไม่ได้สนุกหรือสำคัญอะไรขนาดนั้น รวมๆแล้วเป็นเกมขับรถที่สนุกพอใช้ได้ แต่ไม่ถึงขั้นอลังการงานสร้าง แปลกใหม่หรือประทับใจและดึงดูดให้เล่นได้ยาวนานเหมือนกับ Most Wanted เมื่อปี 2005 ครับ
ข้อดี - มีมินิเกมหรือ collectable ให้ทำเช่นชนป้าย วิ่งหารถที่จอดตามที่ต่างๆ - free roam หรือวิ่งอิสระ - เสียงรถไพเราะน่าฟังที่สุดในบรรดาเกมขับรถที่ลง PC ปัจจุบัน
ข้อเสีย - ระบบการขับออกแนวน่ารำคาญ - การตอบสนอง input ที่ไม่ค่อยดี และไม่มี force feedback ที่ใช้งานได้จริง - AI จากนอกโลก อยู่บนคนละพื้นฐานความเป็นจริงกับผู้เล่น
เหมาะสำหรับ - แฟนเกม Need For Speed ที่ต้องการสะสมให้ครบทุกภาค - ต้องการเกมที่เสียงรถดีๆ แค่ฟังก็มีความสุข - หาเกมอาเขตเล่นขำๆแบบไม่คิดมาก (เพราะถ้าเริ่มคิดแล้วเกมจะน่ารำคาญมากๆ)
ไม่เหมาะสำหรับ - ต้องการขับท่องไปในเมืองแบบต้องการความสมจริง - ผู้เล่นที่ใช้พวงมาลัย Force Feedback ตลอดเวลาแบบไม่คิดจะใช้ Gamepad เล่น
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับรีวิวแบบตรงมาตรงไป อ่านแล้วรู้สึกยังไงกันบ้าง หรือได้เล่นแล้วรู้สึกยังไงก็บ้างก็คอมเมนท์ได้ที่ด้านล่างนี้ได้เลย สำหรับวันนี้ต้องลาไปก่อน สวัสดีครับ
ปล.สำหรับบรรดาแฟนผู้เหนียวแน่นแบบเกม Need For Speed ไม่มีภาคไหนแย่ ทุกอย่างล้วนดีขอให้อย่าคิดมากในสิ่งที่ผมพิม์ไปทั้งหมดแล้วไปอ่านรีวิวตัวนี้แทนนะครับ ยังไงซะผมทำให้ให้พวกท่านโดยเฉพาะก็ว่าได้ครับ >>[Review] Need For Speed Most Wanted (2012) Fanboy Edition<<
ปล2. edit เพื่อเน้นบางคำ กันคนอ่านไม่ถ้วนถี่แล้วหาว่าผมด่าอย่างเดียว จะได้เห้นชัดๆว่ามีชมด้วย