ต วอย างผล ตภ ณฑ ท ม ส วนประสมทางการตลาด 4ps

4P คืออะไร? เราเชื่อว่าหากคุณคือนักการตลาดที่ผ่านการทำงานให้กับธุรกิจและแบรนด์ต่าง ๆ มาอย่างชำนาญแล้วเรื่องนี้จะไม่ใช่ปัญหาสำหรับคุณเลย แต่ในทางกลับกันนักการตลาดมือใหม่หลายคนที่อาจได้มีโอกาสศึกษาการตลาดเรื่องของ 4P คืออีกหนึ่งกลยุทธ์ที่คุณต้องให้ความสำคัญไม่แพ้เรื่อง Customer Journey หรือ SWOT Analysis เลย

ซึ่ง 4P หรือชื่อไทยคือส่วนประสมทางการตลาด คือ หัวใจสำคัญและนับเป็นจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจอย่างถูกต้องไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัยก็ตาม ในบทความนี้เราเลยขอมาตอบคำถามที่ว่า 4P คืออะไร หรือ Marketing Mix คืออะไร ให้ทุกคนได้เข้าใจไปพร้อมกันและเจาะลึกส่วนผสมทางการตลาดที่คุณควรต้องรู้ หากพร้อมแล้วไปหาคำตอบกันได้เลย!

4P (Marketing Mix) หรือ ส่วนผสมทางการตลาด คือ แนวคิดปัจจัย 4 อย่างที่ธุรกิจต้องวิเคราะห์เพื่อช่วยในการวางแผนการทำงานการตลาดซึ่ง 4P จะประกอบไปด้วย Product (สินค้า), Price (ราคา), Place (ช่องทางการจำหน่าย) และ Promotion (การส่งเสริมการขาย) ซึ่งปัจจัยทั้ง 4 อย่างที่กล่าวไปนั้นจะเข้ามาช่วยให้นักธุรกิจและนักการตลาดทุกคนได้สามารถวิเคราะห์กลยุทธ์ออกมาได้อย่างละเอียดเพื่อการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจได้มากที่สุด

องค์ประกอบ 4P (ส่วนผสมการตลาด)

หลังจากที่รู้ความหมายกันไปแล้วเราลองมาดูกันว่าองค์ประกอบของ 4P ส่วนผสมทางการตลาด ที่ประกอบด้วย 4 ปัจจัย คือ Product, Price, Place และ Promotion ว่าหลักการ 4P มีอะไรบ้างและจะมีรายละเอียดแต่ละอย่างเป็นอย่างไร

1.ผลิตภัณฑ์ (Product)

ผลิตภัณฑ์ คือสิ่งที่ธุรกิจของคุณต้องการขายให้กับผู้บริโภคและต้องเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ โดยผลิตภัณฑ์ในที่นี้อาจเป็นสินค้าหรือบริการก็ได้ ซึ่งต้องมีประโยชน์ (Utility) และสร้างคุณค่า (Value) ให้กับผู้บริโภค ตอบสนองต่อการใช้งานและสร้างความพึงพอใจกับผู้บริโภคได้ดี ซึ่งเหตุผลนี้จะช่วยให้ผลิตภัณฑ์สามารถขายได้

หรือในกรณีที่คุณมีผลิตภัณฑ์มาอยู่ก่อนแล้วก็ต้องเน้นในเรื่องของการเพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์ ต้องมีความเข้าใจว่าผลิตภัณฑ์ของเราคืออะไร อะไรคือสิ่งที่เราควรเพิ่มหรือปรับปรุงตัวผลิตภัณฑ์ของเรา ซึ่งต้องพิจารณาจากองค์ประกอบของผลิตภัณฑ์ (Product Component) ดังนี้

  • หน้าที่และประโยชน์ใช้สอยพื้นฐาน (Function)
  • รูปร่างลักษณะ (Feature and Design)
  • คุณภาพ (Quality Level)
  • การบรรจุภัณฑ์ (Packaging)
  • ตราสินค้า (Brand) : ชื่อ (Name) คำ (Term) สัญลักษณ์ (Symbol) การออกแบบ (Design)

2. ราคา (Price)

ราคา คือคุณค่าหรือมูลค่าของตัวผลิตภัณฑ์ที่แสดงออกมาในรูปของตัวเงิน ซึ่งราคาถือเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคหรือผู้ใช้เปรียบเทียบผลิตภัณฑ์แต่ละแบรนด์เป็นอันดับแรก โดยผู้บริโภคจะเปรียบเทียบระหว่างคุณค่าที่ได้รับว่าเหมาะสมกับราคาหรือไม่ ดังนั้นในฐานะเจ้าของธุรกิจและผู้ประกอบการก็ควรต้องกำหนดราคาให้เหมาะสมกับสิ่งที่ผู้บริโภคได้รับก่อนที่จะปล่อยผลิตภัณฑ์ออกสู่ท้องตลาดเสมอ โดยการกำหนดราคาสามารถพิจารณาจากปัจจัยที่เกี่ยวข้องดังนี้

  • ต้นทุน (Cost) – ค่าวัสดุ ค่ากำลังการผลิต ค่าแพคเกจจิ้ง ค่าสถานที่ เงินเดือนพนักงานหรือลูกจ้าง และค่าใช้จ่ายในการทำโฆษณาทั้งออนไลน์และออฟไลน์ (เช่น ยิงแอด ทำโฆษณาออนไลน์ ฯลฯ)
  • ราคาของคู่แข่ง – ควรตั้งราคาให้เหมาะสมหรือใกล้เคียงกัน เพื่อไม่ให้เกิดการเปรียบเทียบกันจนเกินไป

3. ช่องทางการจัดจำหน่าย (Place)

ช่องทางการจัดจำหน่าย คือปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับที่ตั้งและรูปแบบสถานที่ให้บริการ โดยต้องพิจารณาให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ของเราเพื่อให้เกิดการเพิ่มมูลค่าของธุรกิจ ซึ่งต้องวิเคราะห์จาก 2 องค์ประกอบดังนี้

  • รูปแบบสถานที่ขายผลิตภัณฑ์หรือบริการ – ต้องกำหนดตามความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์หรือการให้บริการ และกลุ่มผู้ใช้หรือผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งรูปแบบต่าง ๆ เช่นสินค้าแบบไหนควรขายที่สถานที่ใด Supermarket, ตลาดสด, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านแผงลอยริมทาง, ช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ เช่นเว็บไซต์ E-Commerce, Facebook Page, Instagram ฯลฯ
  • สถานที่ตั้งของร้านค้า – ต้องวิเคราะห์ก่อนลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของธุรกิจคือใคร
  • มีคู่แข่งขันหรือร้านค้าที่มีผลิตภัณฑ์หรือบริการประเภทเดียวกันหรือใกล้เคียงกันในบริเวณนั้นหรือไม่ แล้วจึงค่อยตัดสินใจเลือกสถานที่ตั้งของร้านค้า
    หากสนใจสร้างช่องทางจัดจำหน่าย Facebook Page สามารถดูวิธีการอย่างละเอียดได้เลย >> วิธีสร้างเพจ Facebook

4. การส่งเสริมการตลาด (Promotion)

การส่งเสริมการตลาด คือการสื่อสารกันระหว่างธุรกิจและผู้บริโภค เพื่อกระตุ้นการขายผ่านช่องทางและกลยุทธ์ต่าง ๆ เข้ามาช่วยไม่ว่าจะเป็นการใช้กลยุทธ์ด้าน Digital Marketing, กลยุทธ์ Social Media Marketing ซึ่งประกอบไปด้วย การยิงแอด , สร้างเพจ Facebook, การใช้งาน Influencer หรือการคิดโปรโมชันตามช่องทางต่างๆ ก็ล้วนเป็นวิธีการส่งเสริมการตลาดที่น่าสนใจ โดยผ่านเครื่องมือส่งเสริมการตลาดไม่ว่าจะเป็น

  • การโฆษณา (Advertising)
  • การขายโดยใช้พนักงานขาย (Personal Selling)
  • การตลาดทางตรง (Direct Marketing)
  • การให้ข่าวและประชาสัมพันธ์ (Publicity and Public Relation)
  • การส่งเสริมการขาย (Sale Promotion)

ซึ่งในส่วนนี้อาจเลือกใช้เครื่องมือต่าง ๆ เข้ามาช่วยในการพิจารณาถึงความเหมาะสมกับลูกค้าหรือผู้ใช้ ผลิตภัณฑ์เพื่อให้บรรลุจุดมุ่งหมายที่ธุรกิจของคุณตั้งไว้

เพจไม่ปัง ทำอย่างไรดี เรามีบทความเกี่ยวกับการโปรโมทเพจแล้ว >> โปรโมทเพจ เราได้รวบรวมเทคนิคการยิงแอดให้ปังกว่าใครไว้แล้ว >> ยิงแอด Facebook

4P มีประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างไร

ลองมาดูกันว่าหลักการตลาด 4P นั้นมีประโยชน์ต่อการสร้างธุรกิจหรือการช่วยทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างไรบ้าง

  • ช่วยให้ธุรกิจรู้จักและเข้าใจสินค้าและบริการของตัวเอง
  • ช่วยให้ธุรกิจรู้จักกลุ่มลูกค้าของตัวเองมากขึ้น
  • ช่วยให้ธุรกิจได้วางแผนกลยุทธ์การตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ช่วยให้ธุรกิจได้รู้ตำแหน่งในท้องตลาดของตัวเอง
  • ช่วยให้ธุรกิจได้ตัดสินใจการทำงานในแต่ละแคมเปญได้ดี
  • ผนวกรวมกับกลยุทธ์การตลาดอื่น ๆ เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ธุรกิจได้ เช่น SWOT, Five Forces, Business Model Canvas (BMC) เป็นต้น

ตัวอย่างการวิเคราะห์กลยุทธ์ 4P

เราลองมาดู 4P Marketing ตัวอย่างในการวิเคราะห์กลยุทธ์กันบ้างว่าหากคุณต้องการนำแนวคิดของ 4P Marketing Max ส่วนประสมทางการตลาดไปใช้งานในธุรกิจจริงนั้น จะต้องมีขั้นตอนและกระบวนการตั้งแต่เริ่มต้นอย่างไรบ้าง ไปติดตามกัน!

1.ตัวอย่างการวิเคราะห์กลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ (Product)

ในการวิเคราะห์กลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ (Product) นั้นอันดับแรกคุณต้องเช็กก่อนว่าผลิตภัณฑ์ของธุรกิจคุณในปัจจุบันนั้นมีสิ่งต่าง ๆ ที่ลูกค้าต้องการดังนี้หรือเปล่า (โดยเราจะทำเป็นเช็กลิสต์ให้คุณได้ตรวจสอบ)

  • ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งาน (Satisfying needs)
  • จุดขายที่โดดเด่น (Unique Selling Point)
  • ฟีเจอร์ของผลิตภัณฑ์ (Feature)
  • คุณภาพของผลิตภัณฑ์ (Quality)
  • กลิ่นอายความเป็นแบรนด์ของผลิตภัณฑ์ (Branding)
  • บรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์ (Packaging)
  • มีการรับประกัน (Warranties)
  • มีบริการหลังการขาย (Services)

จากนั้นให้คุณทำการศึกษาผู้บริโภคหรือกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจโดยให้ตั้งคำถามว่า ความต้องการแบบไหนที่พวกเขากำลังมองหาและผลิตภัณฑ์ของคุณสามารถช่วยพวกเขาได้ พวกเขาจะได้อะไรจากการซื้อหรือใช้ผลิตภัณฑ์ของคุณ

หลังจากนั้นก็จะต้องไปศึกษาคู่แข่งในตลาดปัจจุบันว่ามีผลิตภัณฑ์ประเภทเดียวกันในตลาดไหม ถ้ามี จุดแข็ง-จุดอ่อนของคู่แข่งคืออะไร ผลิตภัณฑ์ของคุณจะสร้างความแตกต่างได้ในเรื่องอะไร ซึ่งในส่วนนี้สามารถนำแนวคิด SWOT Analysis มาช่วยได้

และขั้นตอนต่อมาคือคุณต้องมาวิเคราะห์ต่อว่าฟีเจอร์ไหนของผลิตภัณฑ์ของคุณจะช่วยเหลือลูกค้าที่ซื้อไปได้ดีที่สุด รูปแบบของผลิตภัณฑ์ควรจะเป็นอย่างไร บรรจุภัณฑ์หรือแพคเกจจิ้งของผลิตภัณฑ์ควรทำออกมารูปแบบไหน ควรมีการรับประกันการขายไหม เป็นต้น ซึ่งเราจะมีตัวอย่างในการวิเคราะห์มาให้คุณได้ดูเป็นแนวทางกัน

ตัวอย่างการวิเคราะห์ : Product เครื่องหนีบและม้วนผมไฟฟ้า 2IN1

ลูกค้า A กำลังมองหาเครื่องหนีบผมไฟฟ้าที่ตอบโจทย์กับชีวิตของเขาที่เร่งรีบ ต้องเข้าไปทำงานในเมืองทุกวัน สามารถหนีบผมและม้วนผมได้ภายในเครื่องเดียวไม่อยากสลับ 2 เครื่องไปมาเพราะทำให้เสียเวลาและเขาเป็นคนให้ความสำคัญกับแบรนด์ ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือ ปลอดภัยและมีการรับประกันสินค้า

ดังนั้นเครื่องหนีบผมที่คุณจะผลิตออกมานั้นต้องสามารถตอบโจทย์ลูกค้า A ในเรื่องนี้ให้ได้ โดยผลิตภัณฑ์นั้นต้องออกแบบให้ใช้งานได้หลากหลายหนีบผม ม้วนผม จบได้ในเครื่องเดียว ร้อนเร็ว ไม่ต้องรอนาน เสียบปลั๊กรอ 10 วินาทีก็ใช้งานได้เลย มาพร้อมออฟชันเสริมเช่น ดัดผม ดัดวอลลุ่ม ฯลฯ มีระบบตัดไฟฟ้าเมื่อความร้อนเกิน มีการรับประกันสินค้า 1 ปีเต็ม เป็นต้น

2. ตัวอย่างการวิเคราะห์กลยุทธ์ราคา (Price)

ในการวิเคราะห์กลยุทธ์ราคาเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการทำธุรกิจไม่ว่าจะธุรกิจอะไรก็ตาม ธุรกิจต้องการกำไรจากการค้าขายผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อเป็นการทำให้ธุรกิจได้เติบโตขึ้นแต่ว่าการจะตั้ง ราคาผลิตภัณฑ์สักตัวนั้นต้องคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ด้วยเสมอ

  • Brand Positioning
  • กลยุทธ์การตั้งราคา (Pricing Strategy)
  • รูปแบบการจ่ายเงิน (Payment Form)
  • ส่วนลด (Discount)

ดังนั้นเรื่องของ Brand Positioning หรือตำแหน่งของแบรนด์ในตลาดก็มีความสำคัญกับการตั้งราคาของสินค้าเพราะว่าถ้าคุณรู้ว่าแบรนด์ของคุณกำลังอยู่ในส่วนไหนของตลาดจะช่วยให้การวิเคราะห์ราคาทำได้ง่ายขึ้น เช่น แบรนด์ที่ราคาเป็นมิตร แบรนด์ราคาระดับกลาง หรือแบรนด์ระดับหรูหรา

โดยในส่วนนี้เราขอแนะนำให้คุณใช้กลยุทธ์ Pricing Strategy เข้ามาช่วยในการตัดสินใจตั้งราคา เพราะจะช่วยให้คุณสามารถกำหนดราคาของผลิตภัณฑ์รวมถึงการสร้างโปรโมชันเพิ่มยอดขายได้ดีมากขึ้น เช่น การตั้งราคาตามต้นทุน (Cost-based Pricing) การตั้งราคาจากคู่แข่ง (Competitive-Oriented Pricing) การตั้งราคาเชิงจิตวิทยา (Psychological Pricing) เป็นต้น

ตัวอย่างการวิเคราะห์ราคา เครื่องหนีบและม้วนผมไฟฟ้า 2IN1

แบรนด์เครื่องหนีบผมไฟฟ้าของคุณนั้นเป็นแบรนด์ระดับกลาง ที่ต้องการเจาะกลุ่มตลาดนักศึกษาด้วย วัยเริ่มทำงานด้วยไปจนถึงวัยทำงานที่มีฐานะ วัสดุอาจไม่ใช่เกรดพรีเมียมแต่ก็ถือว่าใช้งานได้คงทน ไม่เสื่อม ไม่เสียง่ายและมีความปลอดภัยในการใช้งาน

ดังนั้นการวิเคราะห์ราคาเครื่องหนีบผมไฟฟ้าของคุณอาจจะต้องกำหนดราคาที่สูสีกับตลาดทั่วไป แล้วนำข้อดีด้านฟังก์ชันการใช้งานที่ผลิตภัณฑ์ของคุณมีมากกว่ามาเป็นตัวล่อ ให้ลูกค้าได้เห็นว่าแม้จะต้องจ่ายเงินในราคาที่เท่ากับแบรนด์อื่น แต่เครื่องหนีบผมไฟฟ้าของแบรนด์คุณมีลูกเล่น มีฟังก์ชันในการใช้งานไปจนถึงบริการหลังการขายที่ดีกว่า เพราะฉะนั้นลูกค้าจะคิดว่าถ้าซื้อเครื่องหนีบผมไฟฟ้าแบรนด์ของคุณนั้นคุ้มค่ากว่าการซื้อผลิตภัณฑ์ของคู่แข่งแน่นอน

3. ตัวอย่างการวิเคราะห์กลยุทธ์ช่องทางการจัดจำหน่าย (Place)

Place หรือสถานที่นั้นไม่ได้จำกัดความเพียงแค่การจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออฟไลน์เช่น ร้านค้าหรือห้างสรรพสินค้าเท่านั้น เพราะในปัจจุบันก็มีช่องทางของออนไลน์เพิ่มเข้ามามากมายซึ่งถือว่าเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้าที่จะช่วยเข้ามาเพิ่มความสะดวกสบายในการซื้อสินค้าของคุณโดยในการเริ่มวิเคราะห์กลยุทธ์ช่องทางการจัดจำหน่าย จะต้องมีปัจจัยที่คุณต้องคำนึงเป็นอันดับแรก ดังนี้

  • ช่องทางในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ (Channels)
  • ช่องทางที่ลูกค้าอยู่เป็นประจำ (Audience)
  • ช่องทางที่สามารถสนับสนุนลูกค้าได้ (Support)
  • ช่องทางที่เหมาะสมกับขนาดธุรกิจ (Business Size)

โดยการเลือกช่องทางในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดก็คือการเลือกช่องทางที่กลุ่มเป้าหมายของคุณอยู่ในนั้น โดยคุณอาจจะลองต้องศึกษาพฤติกรรมการใช้ชีวิตของพวกเขาว่ามีความชอบในการซื้อของที่ช่องทางไหนมากที่สุดเช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ฯลฯ หรือช่องทางออนไลน์ อย่าง Social Media หรือช่องทาง Marketplace อย่าง Shopee, Lazada ฯลฯ

ซึ่งต้องบอกเลยว่าในปัจจุบันการที่ธุรกิจมีช่องทางการขายสินค้าที่หลากหลายก็จะช่วยให้เข้าถึงลูกค้าได้กว้างขึ้น เพื่อทำให้สินค้าของคุณตอบโจทย์กับทุกความต้องการในการซื้อสินค้าสักชิ้นของกลุ่มเป้าหมาย

ตัวอย่างการวิเคราะห์สถานที่ช่องทางการจัดจำหน่าย เครื่องหนีบและม้วนผมไฟฟ้า 2IN1

ลูกค้าของเครื่องหนีบผมไฟฟ้าของคุณนั้นด้วยความที่ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงที่ทำงานในเมืองเลยมักจะซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลักโดยเฉพาะผ่านแพลตฟอร์ม Marketplace อย่าง Shopee, Lazada

ดังนั้นการวิเคราะห์สถานที่ช่องทางการจัดจำหน่ายของแบรนด์คุณก็ต้องเลือกใช้ช่องทางออนไลน์เป็นหลัก โดยอาจจะมีหน้าร้านใน Marketplace และเพิ่มเติมด้วย Facebook Page เพื่ออธิบายความเป็นแบรนด์และผลิตภัณฑ์เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับสินค้าให้ลูกค้าที่อาจจะเกิดความลังเลได้มั่นใจในตัวสินค้าของคุณมากยิ่งขึ้น

4. ตัวอย่างการวิเคราะห์กลยุทธ์การส่งเสริมการตลาด (Promotion)

การวิเคราะห์กลยุทธ์การส่งเสริมการตลาด (Promotion) นั้นจะมีความเชื่อมโยงกับศาสตร์ Digital Marketing เพราะเกี่ยวข้องกับการโน้มน้าวใจของกลุ่มเป้าหมายในขั้นสุดท้ายหรือจะเป็นจุดสำคัญให้กลุ่มเป้าหมายได้รู้จักกับผลิตภัณฑ์ของคุณ ซึ่งในปัจจุบันมีเครื่องมือหลายอย่างให้เลือกใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น

  • การเลือกใช้โฆษณาแบบ Digital Advertising บนช่องทางที่มี
  • การโปรโมทผ่าน Influencer Marketing
  • การทำ PR และสร้าง Campaign ทางการตลาด
  • การทำรีวิวหรือการพูดถึงบน Social Media
  • การทำ Email Marketing (สำหรับสินค้าที่เป็นแบรนด์ใหญ่)
  • การลด แลก แจก แถม จัดโปรโมชันกระตุ้นลูกค้า

แนะนำว่าสำหรับธุรกิจนั้นการวิเคราะห์กลยุทธ์การส่งเสริมการตลาด คุณควรต้องรู้ก่อนว่าแบรนด์กำลังคาดหวังอะไรจากลูกค้า เช่น ต้องการให้ลูกค้ามีการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ ซึ่งการศึกษา Customer Journey จะสามารถเข้ามาช่วยให้คุณวิเคราะห์ความชอบของลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

จากนั้นคุณจำเป็นต้องใช้เครื่องมือในการสื่อสารเพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์ของคุณเริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้าง โดยแต่ละเครื่องมือนั้นจะส่งเสริมซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะเป็น Paid, Earned, Owned Media ก็ตามต้องเลือกให้เหมาะสมกับสถานที่หรือ Place ที่คุณเลือกไว้ด้วยเช่นกัน

ตัวอย่างการวิเคราะห์กลยุทธ์การส่งเสริมการตลาด (Promotion) เครื่องหนีบผมและม้วนผมไฟฟ้า 2IN1

เมื่อคุณรู้แล้วว่าลูกค้ามักจะใช้ช่องทางออนไลน์เป็นหลักในการซื้อสินค้าซึ่งแน่นอนว่าคนกลุ่มนี้ก็จะมีพฤติกรรมในการติดตามข่าวสาร เช่น Google สำหรับอ่านรีวิวและ เนื้อหา, Social Media อื่น ๆ เพื่อดูรีวิวการใช้งานสินค้าในลักษณะเดียวกันอยู่บ่อย ๆ

ดังนั้น Promotion ของคุณควรจะมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและเป็นประโยชน์กับลูกค้า วิธีการเช่น ลงโฆษณาโปรโมทสินค้าบน Social Media หรืออาจใช้งาน Paid Media อย่าง Influencer หรือ Youtuber ในการรีวิวการใช้งานจริงเพื่อเป็นการกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องหนีบผมไฟฟ้าของคุณ เป็นต้น

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ 4P

4P 4C 4E คืออะไร ต่างกันอย่างไร ?

หลังจากที่เรารู้ความหมายของ 4P กันไปแล้ว เราลองมาดูอีก 2 แนวคิดที่มีความคล้ายคลึงกันอย่าง 4C และ 4E กันบ้างที่แม้ชื่อจะใกล้กันแต่ความหมายและคำนิยามกลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยทั้ง 2 แบบมีรายละเอียดดังนี้

4C คือกลยุทธ์การตลาดที่คิดจากมุมมองของลูกค้า (Customer Centric) เพื่อวิเคราะห์ว่าลูกค้าต้องการอะไร คิดอย่างไร เพื่อให้ธุรกิจได้เสนอคุณค่าและประสบการณ์ให้กับลูกค้าได้อย่างตรงจุดโดยทั้ง 4 ปัจจัยของ 4C มีดังนี้

  • Customer – สิ่งที่ลูกค้าต้องการ หรือกำลังมองหาคืออะไร
  • Cost – ความคุ้มค่าของลูกค้า
  • Convenience – ความสะดวกสบายในการซื้อสินค้าหรือใช้บริการ
  • Communication – การสื่อสารและการเลือกช่องทางการสื่อสารให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย

โดย 4C จะมีความแตกต่างจาก 4P ตรงที่ 4C จะเป็นการคิดในมุมของลูกค้าแต่ 4P จะเป็นการคิดในมุมของธุรกิจว่าจะต้องทำอย่างไรให้ลูกค้าสนใจและซื้อสินค้าหรือบริการของเรานั่นเอง

4E คือแนวคิดที่ต่อยอดมาจาก 4P Marketing Mix ส่วนผสมทางการตลาดหรือพูดง่าย ๆ เป็น Level2 ของ 4P ก็ได้ซึ่งเป็นแนวคิดที่จะเน้นการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าเป็นหลัก ซึ่งปัจจัยทั้ง 4 ของ 4E จะเป็นการนำ 4P มาพัฒนาต่อดังนี้

  • จาก Product สู่ Experience จากการขายผลิตภัณฑ์สู่การเน้นการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า
  • จาก Price สู่ Exchange เปลี่ยนจากราคามาเป็นการสร้างคุณค่าให้กับสินค้าหรือบริการ
  • จาก Place สู่ Everywhere ที่ตั้งทำเลครอบคลุมมากขึ้น ใช้ตลาดดิจิทัลทำให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าของเราง่ายยิ่งขึ้น
  • จาก Promotion สู่ Evangelism เปลี่ยนการจัดโปรส่งเสริมการขายเป็นการทำให้ลูกค้าขาจรมาเป็น “ลูกค้าประจำ”

ซึ่งคุณจะเห็นถึงความสัมพันธ์กันของทั้ง 3 แนวคิดทั้ง 4P, 4C และ 4E ที่ครอบคลุมทุกการทำงานในฝั่งของ Marketing สมัยใหม่ทั้งฝั่งธุรกิจ ฝั่งลูกค้าและการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าที่เป็นกุญแจสำคัญในการทำให้ธุรกิจเติบโตในปัจจุบัน

ดังนั้นหากธุรกิจของคุณอยากจะวิเคราะห์สถานการณ์เพื่อหาช่องทางในการขายสินค้า/บริการให้ธุรกิจเติบโตได้นั้นการวิเคราะห์ภาพของธุรกิจทั้ง 3 อย่างไม่ว่าจะเป็น 4P, 4C และ 4E ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่คุณควรต้องทำทั้งหมดเพื่อช่วยในการวิเคราะห์ธุรกิจของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพครอบคลุมทุกส่วนในการทำการตลาดยุคใหม่นั่นเอง

สรุปเนื้อหา “4P”

ประโยชน์ของกลยุทธ์ 4P นั้น เหมาะมากสำหรับธุรกิจที่กำลังต้องการสร้างแผนการตลาดที่เหมาะสมกับสินค้าที่มีอยู่หรือกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และจะได้เปรียบมากขึ้นในกรณีที่ธุรกิจของคุณมีสินค้าหรือกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนอยู่แล้วก็สามารถใช้ 4P เพื่อหาว่าลูกค้าของคุณนั้นชอบอะไร อยากได้อะไร มีปัญหาอะไร ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถสร้างหรือพัฒนาสินค้าที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าออกมาวางจำหน่ายได้นั่นเอง

ต้องการสร้าง Content ให้ตรงกลับกลยุทธ์ 4P ที่วางเอาไว้ Digitaltips ขอแนะนำ “คอร์สออนไลน์ เรียน Content Marketing Mastery”

อ้างอิงข้อมูล :

ALEXANDRA TWIN, The 4 Ps of Marketing and How to Use Them in Your Strategy, June 24, 2022//www.investopedia.com/terms/f/four-ps.asp

Kinza Yasar, What is the marketing mix (4 P’s of marketing)? The marketing mix, also known as the four P’s of marketing, May 01, 2022

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาไทย โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv Terjemahan แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip lmyour แปลภาษา ไทยแปลอังกฤษ ประโยค แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษาอาหรับ-ไทย Bahasa Thailand app แปลภาษาไทยเป็นเวียดนาม พจนานุกรมศัพท์ทหาร ยศทหารบก ภาษาอังกฤษ สหกรณ์ออมทรัพย์กรมส่งเสริมการปกครอง ส่วนท้องถิ่น แปลภาษาเวียดนามเป็นไทยทั้งประโยค กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมีทั้งหมดกี่ภาค มัจจุราชไร้เงา 1 mono29 มัจจุราชไร้เงา 1 pantip มัจจุราชไร้เงา 3 pantip รายชื่อวิทยานิพนธ์ นิติศาสตร์ 2563 ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง แปลภาษาอิสลามเป็นไทย ่้แปลภาษา Google Drive กรมการปกครอง กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย คะแนน o-net โรงเรียน ที่อยู่สมุทรปราการ ภาษาอังกฤษ ประปาไม่ไหล วันนี้ มหาวิทยาลัยรามคําแหง เปิดรับสมัคร 2566 มัจจุราชไร้เงา 2 facebook ราคาปาเจโร่มือสอง สถาบันพัฒนาบุคลากรท้องถิ่น หนังสือราชการ ส ถ หยน ห่อหมกฮวกไปฝากป้า คาราโอเกะ อาจารย์ ตจต Google Form Info arifureta shokugyou de sekai saikyou manga online legendary moonlight sculptor www.niets.or.th ประกาศผลสอบ การบริหารทรัพยากรมนุษย์ มีอะไรบ้าง ข้อสอบภาษาอังกฤษ พร้อมเฉลย pdf