วิกิฮาวเป็น "wiki" ซึ่งหมายความว่าบทความหลายๆ บทความของเรานั้นเป็นการร่วมมือกันเขียนของผู้เขียนหลายคน ในการเขียนบทความชิ้นนี้ ผู้คน 37 คน ซึ่งบางคนไม่ขอเปิดเผยตัว ได้ร่วมกันเขียนและปรับปรุงเนื้อหาของบทความอย่างต่อเนื่อง
บทความนี้ถูกเข้าชม 86,083 ครั้ง
คุณอาจจะทำผิดพลาดเอาไว้ แต่ตอนนี้คุณพร้อมที่จะก้าวออกมาเพื่อทำสิ่งที่ถูกต้อง มันดีสำหรับคุณแล้ว เพราะจดหมายขอโทษเป็นวิธีที่ดีมากที่จะเริ่มทำให้สถานการณ์ที่คุณทำผิดนั้นดีขึ้น หรือช่วยทำให้บางคนรู้สึกดีขึ้น ถึงแม้ว่าความผิดนั้นๆ อาจจะไม่ใช่การกระทำที่เราตั้งใจจะให้เกิดขึ้น ถ้าคุณอยากจะแน่ใจว่าการขอโทษของคุณนั้นจะได้ผลเป็นอย่างดีและจะไม่ทำให้คนคนนั้นรู้สึกเสียใจไปกว่าเดิม ก็ให้ทำตามคำแนะนำด้านล่าง เริ่มจากขั้นตอนแรก เรียนรู้การเขียนจดหมายขอโทษที่ดูดี
- มันเป็นความคิดที่ดีที่จะเริ่มหัวข้อของจดหมายเพื่อที่จะทำให้ผู้อ่านรับรู้ว่าจดหมายฉบับนี้เป็นจดหมายขอโทษ การเขียนเริ่มต้นจดหมายแบบนี้จะช่วยทำให้ผู้อ่านรู้ว่าควรจะเริ่มต้นการอ่านด้วยอารมณ์แบบใดจึงจะเหมาะสม คุณไม่อยากจะให้ผู้อ่านสับสนเกี่ยวกับสิ่งที่คุณเขียนหรือสิ่งที่คุณต้องการจะบอก
- ลองเขียนว่า: “ผมอยากจะเขียนจดหมายเพื่อมาขอโทษคุณ”
- ตอนนี้คุณได้เขียนบอกขอโทษแล้ว หลังจากนั้นให้คุณบอกว่าคุณขอโทษสำหรับเรื่องอะไรและทำไมคุณถึงผิด บรรยายให้เยอะและตรงประเด็น โดยเขียนทุกอย่างลงไปเลย เพื่อที่คนที่เราขอโทษจะได้รู้ว่าเราเข้าใจแล้วจริงๆ ว่าเราได้ทำผิดในเรื่องที่เกิดขึ้น
- ลองเขียนว่า: “สิ่งที่ผมทำเมื่ออาทิตย์ที่แล้วมันเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างร้ายแรง, ไม่ให้เกียรติ, และเห็นแก่ตัวสุดๆ งานแต่งงานของคุณควรจะเป็นงานที่ทำให้คุณมีความสุข และเป็นงานเฉลิมฉลองความรักของพวกคุณ และการที่ผมได้ขอเจสสิกาแต่งงานในงานแต่งของคุณ นั่นทำให้ผมกลายเป็นจุดสนใจ ผมพยายามแย่งซีนของคุณและนั่นเป็นสิ่งที่ผิด”
- รับรู้ว่าคุณทำให้พวกเขาเสียใจและคุณได้เข้าใจแล้วว่ามันทำให้พวกเขาเสียใจมากแค่ไหน ในจุดนี้เป็นจุดที่เหมาะในการพูดถึงว่า คุณไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้พวกเขาเสียใจ
- ลองเขียนว่า: “เจคอบบอกผมว่า การกระทำของผมไม่เพียงแต่ทำลายประสบการณ์ของงานแต่งของคุณ แต่ยังทำให้ฮันนีมูนของคุณน่าตื่นเต้นน้อยลงด้วย ผมหวังว่าคุณจะเข้าใจว่า ผมไม่เคยตั้งใจที่จะให้มันเป็นแบบนั้น ผมอยากจะให้คุณมองย้อนกลับไปที่ช่วงเวลานั้นและมีความทรงจำแต่กับสิ่งที่ดีๆ แต่ผมได้ทำลายช่วงเวลานั้นไปด้วยความเห็นแก่ตัวของผมเอง ผมขโมยช่วงเวลาแห่งความสุขของคุณไป ถึงแม้ผมจะไม่รู้แน่นอนว่าคุณจะรู้สึกอย่างไรกับเหตุการณ์นั้น แต่ผมเชื่อว่าสิ่งที่ผมทำลงไปเป็นหนึ่งสิ่งที่แย่ที่สุดที่ผมเคยทำกับคุณ ”
- ถ้าคุณต้องการ ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ต้องเขียนก็ได้ คุณสามารถบอกว่าคุณรับรู้ถึงสิ่งที่พวกเขาทุ่มเทและสิ่งดีๆ ที่พวกเขาเคยทำให้คุณ วิธีนี้จะช่วยแสดงให้พวกเขาเห็นว่าคุณซาบซึ้งในการช่วยเหลือของพวกเขา และนั่นจะช่วยทำให้พวกเขาเห็นว่าคุณได้รู้สึกแย่จริงๆ ในสิ่งที่คุณได้ทำผิดไป
- ลองบอกว่า: “หลังจากที่คุณรับผมเข้าไปในครอบครัวที่อบอุ่นของคุณ แต่ผมกลับทำสิ่งที่เลวร้ายขนาดนี้ได้อย่างไร คุณไม่เพียงแต่แสดงความรักที่ยิ่งใหญ่ต่อน้องชายผม แต่คุณยังคอยสนับสนุนและใจดีต่อผมแบบที่ผมไม่เคยคาดหวังว่าจะได้ แต่การที่ผมไปทำร้ายจิตใจคุณแบบนี้ มันเป็นการดูถูกถึงสิ่งที่คุณเคยทำเพื่อผมมาทั้งหมด และผมเกลียดตัวเองสำหรับการกระทำของผมแบบนั้น”
- ส่วนนี้เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในการขอโทษ แต่ก็เป็นส่วนที่ยากที่สุดด้วยในการเขียน ถึงแม้ว่าจะมีอีกคนที่ทำผิด แต่จะไม่มีการพูดถึงคนอื่นในจดหมายนี้ สิ่งที่คุณต้องทำคือ ยอมรับผิดและจะรับผิดชอบโดยไม่มีข้อแม้ คุณอาจจะมีเหตุผลที่ดีว่าทำไมคุณถึงทำแบบนั้น แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเหตุผลที่คุณมีจะทำให้คุณสามารถทำเหตุการณ์ที่ทำร้ายจิตใจผู้อื่นได้
- ลองบอกว่า: “ผมจะลองอธิบายถึงเหตุผลว่าทำไมผมถึงได้ทำแบบนั้น แต่จะไม่มีการแก้ตัวใดๆ และนี่คือความตั้งใจของผม ถึงแม้ว่ามันจะดีแต่มันอาจจะไม่ได้ช่วยอะไร: มีแต่ตัวเลือกแย่ๆ ผมจะขอรับผิดชอบต่อการกระทำที่เห็นแก่ตัวของผมและสิ่งที่ผมได้ทำร้ายจิตใจพวกคุณ”
- ห้ามแก้ตัวใดๆ ต่อการกระทำของคุณ แต่ให้อธิบายถึงเหตุผลอย่างระมัดระวัง หรือคุณสามารถอธิบายไปได้ว่าทำไมคุณถึงเลือกที่จะทำแบบนั้น ถ้าคุณคิดว่าเหตุผลนั้นจำเป็นหรืออาจจะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นได้ แต่การอธิบายนี้ควรจะทำเฉพาะถ้าคุณคิดว่ามันจะช่วยทำให้เขารู้สึกดีขึ้นเท่านั้น
- เสนอหนทางแก้ไขที่จะทำให้สถานการณ์เปลี่ยนแปลง. การพูดแค่คำขอโทษนั้นไม่เพียงพอ การขอโทษที่ดีจริงๆ คือการที่คุณหาทางแก้ไขปัญหาในอนาคต การกระทำแบบนี้ดียิ่งกว่าการที่คุณแค่พูดว่า การกระทำแบบนั้นจะไม่เกิดขึ้นอีก และการที่คุณเสนอหนทางแก้ไขและพูดถึงว่าคุณจะทำอย่างไรบ้างนั้น จะเป็นการแสดงให้เห็นว่าคุณจริงใจที่จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นจริงๆ
- ลองบอกว่า: “แต่แค่คำขอโทษนั้นยังไม่พอ คุณควรจะได้รับมากกว่าคำขอโทษ เมื่อคุณกลับมาบ้าน ผมและเจสสิกาพร้อมที่จะจัดงานปาร์ตี้เป็นเกียรติต้อนรับคุณกลับบ้าน และงานปาร์ตี้ครั้งนี้ จะเป็นปาร์ตี้ที่ดีกว่าปาร์ตี้ไหนๆ 100% เพื่อตอบแทนความรักของคุณที่มีต่อน้องของผม และถ้าคุณไม่อยากให้ผมจัดงานปาร์ตี้ให้ก็ไม่เป็นไร: ผมแค่อยากจะช่วยหาหนทางให้คุณมีความทรงจำที่มีความสุขแทนอันที่ผมได้ทำลายไป”
- พูดถึงความต้องการที่จะทำให้ความสัมพันธ์ดีขี้นให้อนาคต. คุณไม่ควรจะขอให้เขายกโทษให้แบบตรงๆ การที่คุณจะพูดคำขอของคุณ หลังจากที่คุณได้ทำผิดต่อเขาไป ไม่ว่าโดยตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจ คุณก็ควรที่จะแสดงสิ่งที่คุณต้องการจริงๆ ออกมา ซึ่งมันจะดีต่อตัวคุณเองและคนที่คุณทำผิดต่อด้วยในอนาคต
- ลองบอกว่า: “ผมไม่คิดว่าคุณจะยกโทษให้ผม ถึงผมหวังว่าคุณจะยกโทษให้ สิ่งที่ผมอยากจะพูดก็คือ ผมอยากให้ทุกสิ่งระหว่างเรากลับมาดีเหมือนเดิม ผมอยากจะให้คุณรู้สึกดีและมีความสุขเมื่อคุณอยู่ใกล้ผม ผมอยากจะให้ความสัมพันธ์ของเรากลับมาดีเหมือนเดิม ผมหวังว่าเราจะสามารถก้าวผ่านสิ่งนี้ไปได้และมีช่วงเวลาที่ดีด้วยกันในอนาคต” โฆษณา
- ห้ามสัญญาถึงสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงถ้าคุณยังไม่มั่นใจ 100% ว่าคุณจะทำให้เขาได้. สิ่งนี้สำคัญมาก ถ้าคุณทำผิดและคุณรู้สึกเหมือนกับว่ามันจะซ้ำรอยเหตุการณ์เดิมหรือนั่นเป็นเพราะนิสัยโดยส่วนตัวของคุณ ฉะนั้นคุณก็ไม่ควรจะสัญญาว่าสิ่งต่างๆ จะเปลี่ยน เพราะว่านั่นจะทำให้คุณทำผิดซ้ำซ้อนและต้องขอโทษอีกในอนาคต มันจะตามหลอกหลอนคุณอีก
- การขอโทษเป็นทักษะอย่างหนึ่ง คนโดยธรรมชาติแล้วไม่ต้องการที่จะขอโทษใครและจะหลีกเลี่ยงที่จะขอโทษ นั่นคือเหตุผลว่า คุณจะต้องระวังคำพูดอย่างมาก เวลาจะพูดขอโทษ บางคำพูดหรือบางประโยคอาจจะฟังดูเหมือนเป็นการขอโทษ แต่จริงๆ แล้วอาจจะทำให้สถานการณ์แย่มากกว่าเดิม เพราะมันอาจจะหมายความว่าคุณไม่ได้รู้สึกขอโทษจริงๆ คุณอาจจะใช้คำพูดพวกนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราฉะนั้นคุณต้องมีสติอยู่ตลอดเวลาเขียนจดหมาย ตัวอย่างเช่น:
- “ยังไงก็ได้ทำผิดไปแล้ว…”
- ประโยคที่ใช้คำว่า “ถ้า” เช่น “ฉันขอโทษถ้าฉันทำให้คุณเสียใจ” “ถ้าคุณรู้สึกแย่เกี่ยวกับเรื่องนี้…”
- “ฉันขอโทษที่ทำให้คุณรู้สึกแบบนั้น”
- เมื่อคุณจะขอโทษ คุณควรที่จะรู้สึกเต็มใจและจริงใจในการขอโทษ ถ้าคุณไม่ได้รู้สึกแบบนั้น ในบางกรณีมันก็จะดีกว่าถ้าคุณจะรอให้ถึงเวลาที่คุณรู้สึกเสียใจและอยากจะขอโทษจริงๆ เมื่อคุณเขียนจดหมายของคุณ ให้คุณมองข้ามการใช้คำพูดที่ดูเป็นทางการและสำนวนซ้ำๆ อย่าลอกคำพูดจากจดหมายที่คุณหาเจอบนอินเตอร์เน็ต คุณควรจะพูดเฉพาะเจาะจงลงไปถึงสถานการณ์ของคุณ เพื่อที่คนที่คุณต้องการขอโทษจะได้รู้ว่าคุณเข้าใจว่าคุณได้ทำอะไรลงไป และทำไมสิ่งนั้นมันถึงเป็นสิ่งที่เลวร้าย
- อย่าใส่ความคาดเดาและความคาดหวังของคุณลงไปในจดหมาย. คุณไม่ต้องการให้จดหมายของคุณดูเหมือนเป็นการเรียกร้อง, หยาบคาย, หรือการดูถูกในอนาคต และคุณไม่ต้องพยายามหรือทำให้ดูเหมือนพยายามว่ารู้สึกผิดเพื่อที่จะให้อีกฝ่ายยกโทษให้ คุณไม่ควรจะคาดเดาเอาเองว่าอีกฝ่ายนั้นรู้สึกอย่างไร หรือทำไมเขาถึงอารมณ์เสีย เพราะนั่นอาจจะเป็นการแสดงว่าคุณเข้าใจมากน้อยแค่ไหนว่าคุณได้ทำอะไรผิดไป การใช้คำหรือภาษาในจดหมาย คุณควรจะใช้คำพูดในโทนอ่อนน้อมถ่อมตน และพยายามทำให้พวกเขารู้สึกแบบที่คุณอยากให้เขารู้สึก คำพูดพวกนั้นดูจะเป็นคำพูดที่จะทำให้พวกเขายกโทษให้คุณ
- ถ้าเป็นไปได้ให้รอประมาณ 2-3 วัน ก่อนที่จะส่งจดหมายของคุณออกไป คุณควรจะอ่านจดหมายของคุณอีกครั้งเมื่ออารมณ์ของคุณเย็นลงแล้วหลังจากตอนที่คุณเขียนจดหมาย โฆษณา
- สำหรับการขอโทษ คุณอาจอยากจะเริ่มต้นจดหมายด้วยคำปกติทั่วไป “เรียน,….” มันจะดีกว่าถ้าจะหลีกเลี่ยงการใช้คำที่เป็นสำนวนในการเริ่มต้นของจดหมาย และคอยรักษาการแสดงความเคารพเอาไว้ให้ได้มากที่สุด
- ถ้าคุณไม่รู้ว่าคุณควรจะเขียนจบจดหมายของคุณอย่างไร ให้ยึดตามแบบดั้งเดิมเอาไว้ “ด้วยความเคารพ…” แต่คุณสามารถเพิ่มความแตกต่างให้จดหมายของคุณต่างจากจดหมายทั่วไปได้ ลองประโยคที่ว่า “ผมขอบคุณคุณด้วยความเคารพนับถือ ที่ยอมรับฟังผม” หรือ “ผมต้องขอโทษคุณอีกครั้งกับเหตุการณ์ที่ผมได้เป็นคนสร้างไว้ และผมหวังว่าผมจะสามารถแก้ไขให้มันถูกต้องได้”
ถ้าคุณเขียนจดหมายขอโทษแบบผู้เชี่ยวชาญหรือในแบบที่เป็นทางการ คุณจะต้องทำให้แน่ใจว่าจดหมายของคุณดูเป็นทางการแล้ว นอกจากจะทำการพิมพ์จดหมายออกมาแล้ว คุณควรเพิ่มรายละเอียดเช่น วันที่, ชื่อของคุณ, ชื่อของบริษัท, ลายเซ็นของคุณ และอื่นๆ ที่ควรใส่ในจดหมายที่เป็นทางการ