พฤต กรรมยอดฮ ตในการใช โทรศ พท ม อถ อ

“ทนายฝรั่ง” ขี้ข้าแม้วเหิมหมิ่นสถาบันปลุกแดงป่วนเมือง

เผยแพร่: 12 เม.ย. 2557 06:35 โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -โผล่หัวทีไรไม่เคยมาดี มีแต่ใส่ร้ายป้ายสี หมิ่นเกียรติภูมิประเทศไทย หมิ่นสถาบัน ปลุกปั่น หลอกต้ม จนกลายเป็นตราประจำยี่ห้อ “ทนายฝรั่งขี้ข้าแม้ว” นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

คราวนี้ก็เช่นกัน การปราศรัยผ่านโปรแกรมสไกป์ในงานชุมนุมใหญ่ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ถนนอักษะ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2557 ของนายอัมสเตอร์ดัม ยังเป็นเช่นแผ่นเสียงตกร่องใส่ร้ายป้ายสีซ้ำๆ ซากๆ เหมือนเคย

แต่นักวิเคราะห์การเมือง ก็อ่านสัญญาณว่านี่คงเป็นไฟเขียวจากนายใหญ่แห่งดูไบที่บงการทนายฝรั่งออกมาช่วยโหมกระพือ ปลุกปั่นคนเสื้อแดงให้พร้อมออกมาตายแทนพี่น้องชินวัตร สอดรับกับการคาดการณ์สถานการณ์ทางการเมืองของหลายฝ่ายที่ประเมินว่าหลังสงกรานต์อาจมีการเผชิญหน้าถึงขั้นเกิดสงครามกลางเมือง เพราะขณะนี้นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กำลังอยู่ในช่วงโชว์ผลงาน และคู่หู “อำมาตย์เต้น” นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ต่างช่วยสุมไฟใส่ฟืนปลุกเร้าพี่น้องเสื้อแดงถึงขั้นลั่นวาจาถ้าฝ่ายตรงข้ามคิดจะล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ต้องข้ามศพคนเสื้อแดงเสียก่อน

ถ้อยคำที่นายอัมสเตอร์ดัม สไกป์ ในวันดังกล่าว ซึ่งมองในอีกมุมหนึ่งก็อาจเป็นได้ว่านช.ทักษิณ ยืมปากทนายขี้ข้าชี้หน้าด่ากราดฝ่ายตรงข้ามอย่างเผ็ดร้อนนั้นไม่ได้มีเพียงนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส. และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คู่ปรับของพรรคเพื่อไทยตลอดกาลเท่านั้น แต่ยังเหิมเกริมลามไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ องค์กรอิสระ ทั้งคณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (ก.ก.ต.) รวมถึงศาลรัฐธรรมนูญด้วย

และที่น่าเอน็จอนาถก็คือ การดูหมิ่นกองทัพ การดูหมิ่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ถึงขนาดว่า “เราไม่สามารถให้ประยุทธ์ มาพูดคำว่าสันติภาพได้ .... เป็นไปได้อย่างไร ที่จะให้ประยุทธ์ มายืนสอนพวกเราเรื่องประชาธิปไตย เคยมีใครไปบอกประยุทธ์ไหม ให้ออกไปจากประเทศนี้ ประยุทธ์ต้องฟังรัฐบาล”

ดีกรีความแรงในวาจาสามหาวของนายอัมสเตอร์ดัม ที่มีต่อกองทัพคราวนี้อยู่ในระดับน้องๆ บทความเรื่อง “Life Under a Coup - the Thai Army’s Continual Threat to Thai Democracy” หรือ “ชีวิตภายใต้รัฐประหาร - การคุกคามประชาธิปไตยของกองทัพไทย” ที่นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม เผยแพร่ผ่านบล็อกส่วนตัว เมื่อต้นปี 2557 ที่ด่ากองทัพไทยว่ามีประเพณีอันยาวนานและต่ำช้าเลวทรามในการขัดขวางระบอบประชาธิปไตย ทำร้ายประชาชน และชื่นชอบการเข้าแทรกแซงทางการเมือง เป็นพวกที่คำนึงถึงแต่ “ผลประโยชน์ของตัวเอง” และเต็มไปด้วย “กลุ่มนายพลที่ชั่วช้า” โดยระบุว่า พลเอกประยุทธ์ ออกโรงข่มขู่สมาชิกรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ “น่าสมเพช”

ถูกหมิ่นแคลนขนาดนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยังวางเฉยหรือตอบโต้แค่เล็กๆ น้อยๆ คล้ายจะส่งสัญญาณตอบกลับให้ “นช.ทักษิณ” รับรู้ว่า กำลังปฏิบัติตามคำสั่ง “ประยุทธ์ต้องฟังรัฐบาล” อย่างเคร่งครัด ไม่ได้ออกนอกลู่นอกทางและยังประพฤติตนเป็นลูกจ้างที่ดีของรัฐบาลทุกกระเบียดนิ้วอย่างคงเส้นคงวา ทั้งที่เรื่องนี้ถือเป็นศักดิ์ศรีของกองทัพไทยทั้งกองทัพ พล.อ.ประยุทธ์ กลับปล่อยให้ทนายฝรั่งขี้ข้าทักษิณ มาดูหมิ่นโดยไม่คิดจะตอบโต้ให้สาสมกับความผิดและความสามหาวแม้แต่น้อย

หรือว่าถึงคราวที่ประวัติศาสตร์กองทัพไทยต้องจารจารึกว่า กองทัพไทย ยุคพล.อ.ประยุทธ์ ต้องตกอยู่ใต้รองเท้าส้นสูงของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อย่างนั้นหรือ?

นายอัมสเตอร์ดัม ยังดึงเอาสถาบันพระมหากษัตริย์เข้ามาเกี่ยวข้องในการใส่ร้ายป้ายสีทางการเมืองคราวนี้ด้วย โดยอ้างว่าการรัฐประหารและเหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2552 - 2533 ต่างชาติเห็นถึงความยากลำบากในการที่จะสมานฉันท์ “และผมกำลังจะบอกว่าทำไมเป็นเช่นนั้น ก็เพราะว่ากฎหมายอาญา มาตรา 112 หากปราศจากการปฏิรูปมาตรา 112 พรรคประชาธิปัตย์ ก็ใช้มาตรานี้กำจัดศัตรูทางการเมืองต่อไป คนเสื้อแดงต้องแน่ใจว่า ไม่ก่อให้เกิดการข่มขู่คุกคามไปยังประชาชน เช่น สมยศ (พฤกษาเกษมสุข) และคนอื่นที่โดนใส่ร้ายด้วยมาตรานี้”

การแสดงออกว่าต้องการปฏิรูปมาตรา 112 หรือแก้ไขกฎหมายมาตรานี้ในงานชุมนุมใหญ่นชป.ของนายอัมสเตอร์ดัม เพื่อเอาใจฐานมวลชนคนเสื้อแดงที่มี “พวกล้มเจ้า” รวมอยู่ด้วยนั้น มีนัยสำคัญอย่างยิ่ง เพราะนายอัมสเตอร์ดัม เลือกพูดประเด็นนี้ในวันที่ 6 เม.ย. 2557 ซึ่งเป็นวันจักรี วันสำคัญที่ปวงชนชาวไทยระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชและมหาจักรีบรมราชวงศ์ อีกทั้งยังน่าสังเกตว่ากลุ่มนปช. เลือกสถานที่ชุมนุมที่ถนนอักษะนั้นย่อมแฝงวาระซ่อนเร้นอย่างไม่อาจปฏิเสธได้

คำถามต่อผู้บงการอยู่เบื้องหลังนายอัมสเตอร์ดัมและการชุมนุมของคนเสื้อแดงคราวนี้ก็คือ นี่จะเป็นการส่งสัญญาณบางอย่างไปยังสถาบันพระมหากษัตริย์ หรือไม่?

ความนัยนี้ ทำให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกปปส. ขึ้นปราศรัยที่เวทีสวนลุมพินีในช่วง 3 ทุ่มวันเดียวกันกับนายอัมสเตอร์ดัม สไกป์ในการชุมนุมคนเสื้อแดง สั่งสอนทนายขี้ข้าช่างบังอาจนักที่บอกว่าต้องแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 การกระทำของนายอัมสเตอร์ดัม เราคนไทยรู้สึกเจ็บปวดและทนไม่ได้เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่คู่ประเทศไทยมาโดยตลอดและต้องอยู่คู่ประเทศไทยตลอดไป เราจะไม่ยอมให้ชาวต่างชาติเข้ามาวุ่นวายเรื่องภายในประเทศของเรา ซึ่งก่อนหน้าที่ตนเองเป็นรองนายกรัฐมนตรี เคยสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายอัมสเตอร์ดัม เพราะทำให้ประเทศไทยได้รับความเสียหาย แต่เมื่อเปลี่ยนมาเป็นรัฐบาลของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับไม่มีการดำเนินคดี แถมยังปล่อยให้เข้ามาแทรกแซงกิจการภายในประเทศอีกด้วย

การตอบโต้กลับนายอัมสเตอร์ดัมของ กปปส. อย่างทันควัน ก็คือ การไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับนายอัมสเตอร์ดัม ที่ สน.ดุสิต ของนายถาวร เสนเนียม หนึ่งในแกนนำกปปส. ที่เห็นเช่นกันว่าคำปราศรัยของนายอัมสเตอร์ดัม ก้าวล่วงการแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่เป็นกฎหมายหมิ่นสถาบัน รวมถึงกล่าวโจมตีกระบวนการยุติธรรมของไทยเป็นการทำลายชาติไทย

ถึงจะเชื่อขนมกินได้ล่วงหน้าว่า คดีนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) คงจะเก็บซุกไว้ใต้ลิ้นชักเหมือนคดีหมิ่นสถาบันฯ คดีอื่นๆ แต่ก็เป็นการแสดงออกให้เห็นไม่ว่าใครหน้าไหนที่ก้าวล่วงสถาบันย่อมต้องมีคนติดตามเอาเรื่อง อย่าได้เหิมเกริม สนองงานรับใช้นายใหญ่แห่งดูไบอย่างไม่ลืมหูลืมตา

หลังจากยืมปากนายอัมสเตอร์ดัม ออกมากล่าววาจาสามหาวก้าวล่วงสถาบันฯแล้ว “นายโกตี๋” หรือนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หัวโจกแดงปทุมฯ ก็ทำตัวเหมือนนกรู้รีบแจ้นเข้ามารับงานสานต่อ โดยให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว “VICE NEWS” ที่มีฐานอยู่ที่เมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา ว่าตนสู้กับระบอบที่ครอบงำเมืองไทยมาชั่วนาตาปีแล้ว นายสุเทพเป็นแค่ตัวละคร แต่เจ้าของม็อบตัวจริงต่างหากที่ตนเองสู้ พร้อมกับกล่าวถ้อยคำที่เข้าข่ายดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 อย่างชัดเจน

หลังจากคลิปให้สัมภาษณ์ของนายโกตี๋ดังกล่าวเผยแพร่ผ่านยูทูปและเฟซบุ๊ก ทำให้ พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ที่เคยเปิดหน้าชกร่วมกับกปปส.ล้มระบอบทักษิณ เดือดดาลขึ้นมาทันที ขึ้นเฟสฯ ปลุกราชองครักษ์ให้ลุกขึ้นมาปกป้องราชบัลลังก์โดยไม่ต้องรอให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สั่งการ เพราะทหารได้ถวายคำสัตย์ปฏิญาณตนอย่างชัดเจนแล้ว

เจอหมัดนี้เข้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จำต้องออกมาแสดงปาหี่สั่งให้นายสุรนันท์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทำหนังสือถึงพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ให้ดำเนินคดีกับนายโกตี๋

แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งการออกมาของนายอัมสเตอร์ดัม และนายโกตี๋ ในเวลาไล่เลี่ยกันเช่นนี้ สื่อให้เห็นชัดเจนว่า “นช.ทักษิณ” และน.ส.ยิ่งลักษณ์ กำลังคิดอะไรอยู่ในใจ

ส่วนองค์กรอิสระอย่างเช่น ป.ป.ช. รวมไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ ที่ถูกนายอัมสเตอร์ดัมฟาดหัวฟาดหางแทนนายใหญ่ด้วยนั้น ไม่ใช่เรื่องอื่นใดเลย นอกจากเป็นเพราะว่า ป.ป.ช.กำลังเคี่ยวข้นสอบปากคำพยานหลักฐานในคดีโครงการทุจริตจำนำข้าว ที่ความเป็นไปได้สูงอย่างยิ่งว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จะถูกลากขึ้นแท่นบูชายัญในความผิดที่เธอดันทุรังเดินหน้าโครงการรับจำนำข้าวตามบัญชาของพี่ชายโดยไม่ฟังเสียงทักท้วงใดๆ ว่าความฉิบหายกำลังรออยู่เบื้องหน้า ขณะที่แก๊ง “เจ๊ ด.” สวาปามกันอย่างมูมมาม อาจสามารถหลบลี้หนีความผิดได้

ทั้งคดีจำนำข้าวในมือป.ป.ช.และผลพวงจากคดีโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ไม่เป็นธรรม ที่เรื่องถูกส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญแล้วและอาจมีผลให้ครม.ยิ่งลักษณ์ ตายยกรังนั้น ทำให้คู่หู “ตู่-เต้น” และทนายฝรั่งขี้ข้าแม้วรับใบสั่งออกมาปลุกระดมคนเสื้อแดงให้ฮึกเหิมถึงขั้นถวายชีวิตตายแทน เป็นผลงานไว้อ้างไปวางบิลกับนายใหญ่แห่งดูไบที่ทำสำเร็จในก้าวแรกแล้ว

ไม่ใช่แค่ร่วมปลุกปั่นให้ยอมตายถวายชีวิตแทนเท่านั้น นายอัมสเตอร์ดัมนั้น ยังครบเครื่องด้วยเรื่องต้นตุ๋นหลอกลวงคนเสื้อแดงด้วยกันเอง โดยครั้งนี้ นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ได้ออกมาเปิดโปงทนายฝรั่งขี้ข้าทักษิณหลอกคนเสื้อแดงระหว่างการชุมนุมรวมพลที่ถ.อักษะว่า นายอัมเสตอร์ดัม รับจ้างล็อบบี้พาอดีต ส.ส.หญิงบางคนไปยื่นหนังสือให้กับ นายแอนเดอร์ส จอห์นสัน เลขาธิการองค์การรัฐสภาระหว่างประเทศ (IPU) ที่นครเจนีวาจริง เมื่อวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา แต่เป็นการไปยื่นหนังสือเท่านั้น ไม่ได้มีการพบปะพูดคุยกับตัวแทนชาติสมาชิกรัฐสภาประเทศต่างๆ และไปยื่นหลังจากสภาเขาปิดไปตั้งเกือบสัปดาห์แล้วจึงไม่มีการหยิบยกเรื่องเข้าที่ประชุมรัฐสภาระหว่างประเทศตามที่มาโฆษณาโกหกคนไทยว่า IPU ตอบรับและตำหนิศาล องค์กรอิสระของไทย แต่อย่างใด

“คนพวกนี้รู้อยู่แก่ใจว่า มีการประชุมวันไหน นั่นคือรู้อยู่แก่ใจว่าถ้าเสนอเข้าที่ประชุมจริงก็จะไม่ได้รับความสนใจและอาจถูกโจมตีเรื่องการปลอมรัฐธรรมนูญ การโกงคะแนนโดยเสียบบัตรแทนกัน รวมถึงการเสี้ยมให้ฮาร์ดคอร์ข่มขู่ศาล ป.ป.ช. องค์กรอิสระ และการปล่อยให้ใช้ระเบิดและเอ็ม 79 ยิงใส่ประชาชนที่มาชุมนุม ซึ่งผมได้มอบเทปข้อมูลต่างๆไว้ให้กับ IPU ทั้งหมดแล้ว” นายสมชาย ระบุ

ขบวนการต้มตุ๋นคนเสื้อแดงที่ร่วมมือกับนายอัมสเตอร์ดัม นั้น ยังมีนายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รักษาการรมว.กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมก๊วนอยู่ด้วย โดยคดีสลายการชุมนุมของนปช.เมื่อปี 2553 ที่ร่ำลือกันหมู่คนเสื้อแดงเพราะหลงเชื่อนายอัมสเตอร์ดัมและนายสุรพงษ์ ว่าคดีส่งฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) แล้ว แต่นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา ได้ออกมาช่วยเปิดหูเปิดตาแก่พี่น้องเสื้อแดงว่าถูกต้มเข้าให้แล้ว

โดยกรณีที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ ระบุได้ทำหนังสือถึงศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) ว่า ประเทศไทยจะรับอำนาจไอซีซี กรณีสลายชุมนุมปี 2553 นั้น นายประสาร แฉว่า เมื่อช่วงเดือน เม.ย.2556 คณะ ส.ว.นำโดย นางพิกุลแก้ว ไกรฤกษ์ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ต่างประเทศ วุฒิสภา ได้เดินทางไปเยือนสำนักงานไอซีซี ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ และได้พบกับนายซง ซัง ฮยุน (Song sang Hyun) ประธานไอซีซี ทางคณะได้ถามถึงเรื่องที่แกนนำกลุ่ม นปช. รวมทั้งนายอัมสเตอร์ดัม ยื่นเรื่องนี้ฟ้องต่อไอซีซี ให้ตรวจสอบกรณีสลายชุมนุมเมื่อปี 2553 ประธานไอซีซี ชี้แจงว่า ยังไม่มีเรื่องนี้เข้ามาสู่สารบบของไอซีซีแต่อย่างใด เคยได้ยินแต่ข่าวเท่านั้น

“นายสุรพงษ์ ไม่รู้เลยหรือว่าทำไม่ได้ และเขาจะรู้หรือไม่ว่า ถึงแม้ประเทศไทยจะเป็นภาคีอนุสัญญากรุงโรม แต่ไทยยังไม่ได้ให้สัตยาบันเช่นเดียวกับสหรัฐอเมริกาและจีนที่ไม่ลงนามในสัตยาบันเช่นกัน นั่นเท่ากับว่า ไทยกับไอซีซี ไม่มีพันธะผูกพันใดๆ” นายประสาร ยืนยัน ซึ่งจากการสไกป์ของนายอัมสเตอร์ดัม ก็ยอมรับในทีว่าไทยยังไม่ได้ให้สัตยาบันแต่อย่างใด และเร่งให้ไทยรีบไปลงนามโดยเร็ว

อย่างไรก็ตาม แม้มีการฟ้องเรื่องนี้เข้ามาก็จะอยู่นอกเขตอำนาจไอซีซี เพราะไอซีซีจะพิจารณาได้มีเงื่อนไขทางคดี 4 อย่างเท่านั้นคือ 1.เป็นเรื่องทำลายล้างเผ่าพันธุ์ 2.เป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ 3.เป็นอาชญากรรมสงคราม 4. เป็นอาชญากรรมอันเป็นการรุกราน กรณีดังกล่าวไม่เข้าเงื่อนไขและอยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาลไทยอยู่แล้ว

การยืมปากของนายอัมสเตอร์ดัมมาดูหมิ่นสถาบันฯ ด่ากราด กล่าวร้ายต่อระบบศาลยุติธรรม หน่วยงานองค์กรอิสระ และปลุกปั่นหลอกต้มคนเสื้อแดงกันเอง ชนิดที่ว่าหาความจริงและความเชื่อถือใดๆ ไม่ได้นั้น สะท้อนถึงสภาวะจิตใจของผู้บงการอยู่เบื้องหลังที่ยังมโนว่าจะมีโอกาสกลับคืนสู่อำนาจหลังเกิดสงครามกลางเมือง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาไทย โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv Terjemahan แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip lmyour แปลภาษา ไทยแปลอังกฤษ ประโยค แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษาอาหรับ-ไทย Bahasa Thailand app แปลภาษาไทยเป็นเวียดนาม พจนานุกรมศัพท์ทหาร ยศทหารบก ภาษาอังกฤษ สหกรณ์ออมทรัพย์กรมส่งเสริมการปกครอง ส่วนท้องถิ่น แปลภาษาเวียดนามเป็นไทยทั้งประโยค กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมีทั้งหมดกี่ภาค มัจจุราชไร้เงา 1 mono29 มัจจุราชไร้เงา 1 pantip มัจจุราชไร้เงา 3 pantip รายชื่อวิทยานิพนธ์ นิติศาสตร์ 2563 ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง แปลภาษาอิสลามเป็นไทย ่้แปลภาษา Google Drive กรมการปกครอง กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย คะแนน o-net โรงเรียน ที่อยู่สมุทรปราการ ภาษาอังกฤษ ประปาไม่ไหล วันนี้ มหาวิทยาลัยรามคําแหง เปิดรับสมัคร 2566 มัจจุราชไร้เงา 2 facebook ราคาปาเจโร่มือสอง สถาบันพัฒนาบุคลากรท้องถิ่น หนังสือราชการ ส ถ หยน ห่อหมกฮวกไปฝากป้า คาราโอเกะ อาจารย์ ตจต Google Form Info arifureta shokugyou de sekai saikyou manga online legendary moonlight sculptor www.niets.or.th ประกาศผลสอบ การบริหารทรัพยากรมนุษย์ มีอะไรบ้าง ข้อสอบภาษาอังกฤษ พร้อมเฉลย pdf