นับถอยหลังเข้าสู่ สนามพระวิภาวดี อาทิตย์รองบ๊วยของปี ซึ่งตรงกับ วันคริสต์มาส อีฟ วันสำคัญทางศาสนาของชาวคริสต์ เพื่อระลึกถึงการประสูติของพระเยซู ซึ่งชาวคริสต์จะไปร่วมพิธีนมัสการที่โบสถ์ ถือเป็น คืนศักดิ์สิทธิ์ เหมือนชาวพุทธเรา ที่มีวันสำคัญทางศาสนา แต่หลายวันกว่า สนามพระฯวันนี้ พาท่านผู้ชมเดินตลาดตามปกติ ก่อนจะยกยอดที่ยังไม่ได้ลงข้ามไปปีหน้า เพราะอาทิตย์หน้า ตรงกับ ๓๑ ธ.ค. สุดท้ายของปีพอดีจึงจัดเป็น สนามพระพิเศษ แต่ยังคิดไม่ออก บอก ไม่ได้ ว่าจะทำอะไร ขอเวลานั่งทางในสักสองสามเพลา.....
- ไปดูพระเครื่องงามๆวันนี้กัน องค์แรก เป็น พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์เกศบัวตูม วัดใหม่ อมตรส เขตพระนคร กรุงเทพฯ พิมพ์พบน้อยหายากสุด ในสกุลพระสมเด็จ ของเจ้า ประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ทั้งที่สร้างแจกที่วัดระฆังฯ ซึ่งเคยมีองค์งามแชมป์ปรากฏขึ้น ๒-๓ องค์ กับพระสภาพพองามอีกส่วน รวมๆแล้วไม่เกิน ๑๐ องค์ และถูกเก็บเงียบ จนกลายเป็นพิมพ์ในตำนาน ๑๐ ปีที่ผ่านมา ก็มีแต่เรื่องเล่าสู่กันว่ามีอยู่จริง โดยตอกย้ำด้วยองค์พระที่พบขึ้นจากกรุพระเจดีย์ใหญ่ วัดใหม่อมตรส เมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๐ ซึ่งมีพระพิมพ์เกศบัวตูม จำนวนหนึ่ง แยกพิมพ์ได้เป็น ๓ แบบ คือ ๑.พิมพ์ฐานสูง (วัดระฆัง) ๒.พิมพ์เกศสั้น ๓.พิมพ์พระบาทยาว องค์นี้ ของ เสี่ยตาว พิจิตรระฆัง ๘ เป็น พิมพ์พระบาทยาว สภาพสมบูรณ์ ผิวเนื้อเปิดจากการลอกคราบกรุ เห็นมวลสารเกล็ดขาว ก้อนแดง ก้านดำ กระจายฝังแน่นทั่วองค์ บอกความเป็นพระแท้ ที่น่าเก็บรักษา ใช้บูชา
- องค์ที่สอง คือ พระสมเด็จเกศไชโย พิมพ์ ๗ ชั้น แขนติ่ง (นักเลงโต) วัดไชโยฯ อ.ไชโย จ.อ่างทอง พระนอกพิมพ์นิยมมาตรฐาน ที่ได้รับความนิยมสูงสุด มีพบเผยแพร่มาพร้อมๆกับ ๓ พิมพ์นิยม แต่มีน้อย และถูกชาวบ้านนำออกนอกวัด หมดก่อนการจัดหมวดพิมพ์ มาตรฐาน ๓ พิมพ์ ด้วยลักษณะพิมพ์พระที่มีเอกลักษณ์แปลกตา (แขนกาง วางข้อ) โดดเด่น โดนตา เป็นเทรนด์ เข้ายุคสมัย ทำให้เป็นพิมพ์ที่ชาวบ้านเรียกเป็น พิมพ์นักเลงโต องค์นี้ ของ เสี่ยทศพล ไหลสงวนนาม มีความงามสมบูรณ์เดิมๆ เป็นพระแบบพิมพ์ชัด เนื้อใช่ แท้ดูง่าย สบายตาจริงๆ
- องค์ที่สามก็ยังเป็นพระสมเด็จ แต่ยุคหลัง คือ พระสมเด็จบางขุนพรหม พ.ศ.๒๕๐๙ พิมพ์ใหญ่ A เกศทะลุซุ้ม วัดใหม่อมตรส เขตพระนคร กรุงเทพฯ สร้างสมัย พระครูอมรคณาจารย์ (เส็ง) เป็นเจ้าอาวาส ให้ พระครูบริหารคุณวัตร (ชม) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส เป็นแม่งาน เพื่อหารายได้สมทบทุนสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ ที่ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ ๑๘ ก.ค.๒๕๐๑ ก่อสร้างแล้วเสร็จ กำหนดงานผูกพัทธสีมา เมื่อวันที่ ๔-๑๐ มกราคม พ.ศ.๒๕๐๙ จัดสร้าง เป็นพระพิมพ์เนื้อผงเพื่อบรรจุองค์พระเจดีย์ และมอบสมนาคุณผู้ร่วมบริจาคทรัพย์ ประกอบพิธีพุทธาภิเษก วันที่ ๑๐ ม.ค.๒๕๐๙ โดย สมเด็จพระวันรัต วัดพระเชตุพนฯ เป็นประธานสงฆ์ มีพระสงฆ์ ๘๔ รูป เจริญพระพุทธมนต์ในพระอุโบสถ พระเถระพระคณาจารย์นั่งปรก ปลุกเสก มี ๑.พระเทพสิทธินายก (นาค) วัดระฆังฯ ๒.พระราชธรรมาภรณ์ (เงิน) วัดดอนยายหอม ๓.หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม ๔.พระครูประสาทวิทยาคม (นอ) วัดกลาง อ.ท่าเรือ ๕.พระครูวิสัยโสภณ (ทิม) วัดช้างให้ ฯลฯ
พระได้รับความนิยม เรียกเป็น พระสมเด็จบางขุนพรหม พ.ศ.๒๕๐๙ มี ๑๒ พิมพ์คือ ๑.พิมพ์ใหญ่ ๒.พิมพ์เส้นด้าย ๓.พิมพ์เจดีย์ ๔.พิมพ์เกศบัวตูม ๕.พิมพ์สังฆาฏิ ๖.พิมพ์ปรกโพธิ์ ๗.พิมพ์ฐานคู่ ๘.พิมพ์ฐานแซม ๙.พิมพ์อกครุฑ ๑๐.พิมพ์ไสยาสน์ ๑๑.พิมพ์คะแนน ๑๒.พิมพ์จันทร์ลอย ออกแบบตาม พิมพ์พระ กรุบางขุนพรหมเดิม เป็นหลัก โดยฝีมือทีมช่าง มี ลุงแฉล้ม บัวเปลี่ยนสี จ่ามานิตย์ ปฐพี ช่างเกษม มงคลเจริญ แยกพระเป็น ๒ ประเภทคือ ๑.เพื่อนำบรรจุกรุในองค์พระเจดีย์สร้างใหม่ ด้านหลังปั๊มคำ “บรรจุ” เป็นสัญลักษณ์ กำหนดราคาทำบุญองค์ละ ๑ บาท จำนวนรวมทุกพิมพ์ ๘๔,๐๐๐ องค์ ๒.ให้ทำบุญบูชา เพื่อนำกลับ ราคาองค์ ๑๐ บาท เฉพาะ พิมพ์ไสยาสน์ องค์ละ ๒๕ บาท แบบบรรจุกล่อง เป็นชุด ๑๑ พิมพ์ ราคา ๑๐๐ ด้านหลังประทับตรายาง รูปองค์พระเจดีย์ รวม ๘๔,๐๐๐ องค์ แต่ละพิมพ์มีบล็อกแม่พิมพ์หลายอัน ด้วยเพราะต้องจัดสร้างพระจำนวนมาก เฉพาะพิมพ์ใหญ่ มีแม่พิมพ์มากถึง ๒๗ ชุด ปัจจุบัน พระทุกพิมพ์ ทุกบล็อก ได้รับความนิยมสูง ราคาหลักพันถึงหลักแสน องค์นี้ ของ เสี่ยเตี้ย ๐๙ เป็น พระพิมพ์ใหญ่ A เกศทะลุซุ้ม ที่ได้รับความนิยมสูงสุด เป็นอันดับ ๑ ในสกุล สภาพงามสมบูรณ์ ดีกรีพระแชมป์แบบนี้ ราคาทะลุถึงหลักแสนกลางแร้ว
- ต่อด้วย พระปิดตา พิมพ์ชะลูด บรรจุกรุ หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งมีวาจาท่านที่ว่า “มีเรื่องทุกข์ร้อนให้นึกถึงกู” ให้นักนิยมพระทุนน้อยตั้งจิตอธิษฐานถึงท่าน ขอได้เป็นเจ้าของพระปิดตาที่ท่านสร้าง คำอธิษฐานก็เป็นจริง เมื่อค้นพบพระปิดตาของท่านบรรจุอยู่ในองค์พระเจดีย์ในวัด เมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๒ เป็นพระพิมพ์เดียว เนื้อเดียวกันกับพระปิดตายุคเก่า ที่ได้รับความนิยมเล่นหาเป็นพระปิดตาเนื้อผงชั้นนำ เรียกเป็น พระกรุใหม่ ที่มีราคาจากหลักพันเมื่อแรกพบที่หน้ากรุ ก่อนขยับอย่างรวดเร็ว เมื่อมีผู้นำพระเผยแพร่เข้าสนามส่วนกลาง ราคาขยับขึ้นเป็นหลักหมื่น หลักแสน แค่ข้ามเดือน แต่ก็มีเหตุให้การเล่นหาชะงัก เมื่อมีพระแปลกปลอมออกมาปะปน เป็นเวลาหลายปี จนมีผู้ชำนาญการพิจารณาแยกพระแท้-พระเก๊ ได้ชัดเจน ความนิยมจึงกลับมา มีการเคลื่อนไหวซื้อ-ขายเหมือนเดิม โดยองค์งาม สภาพเดิมๆ อย่างองค์นี้ ของ เสี่ยดรีม เอ็นจิเนียร์ ราคาสูงขึ้นถึงหลักแสนกลาง
- ต่อด้วย เหรียญหล่อ เนื้อเมฆสิทธิ์ พิมพ์ปางซ่อนหา หลวงพ่อทับ วัดอนงคาราม เขตคลองสาน กรุงเทพฯ ต้นตำรับวิชาสร้างพระด้วย เนื้อเมฆสิทธิ์ ที่ได้จากการเล่นแร่แปรธาตุ มีอานุภาพทางคุ้ม ครองป้องกันภัยให้แคล้วคลาดเด่น ชัดด้านเสริมดวงชะตา จัดสร้างหลากหลายพิมพ์ ล้วนได้รับความนิยมสูงเป็นพระราคาหลักแสน เช่น ลูกอมพระ พิมพ์ชัยวัฒน์ พิมพ์พระปิดตา และพิมพ์ปางซ่อนหา ฟอร์มทรงต่างๆ อย่างองค์นี้ ของ เสี่ยจตุโชค สัยยะนิฐี เป็น พิมพ์ปางซ่อนหา ทรงเล็บมือ สภาพสมบูรณ์ สวยแชมป์ เลี่ยมจับขอบทองแบบโบราณ ดูเข้มขลัง มีพลังเสริมศรัทธา ราคาว่ากันทะลุหลักล้านแล้วจ้า
- ถัดไปเป็น พระสังกัจจายน์ ลอยองค์ เนื้อทองคำ รุ่นมูลนิธิเพิ่มวิทยา พ.ศ.๒๕๑๘ หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม สร้างเพื่อหาทุนเข้ามูลนิธิ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๘ ขณะท่านมีอายุ ๙๒ ปี โดยหลังจาก หลวงปู่เพิ่ม ปลุกเสกเดี่ยว ทางวัดยังจัดพิธีพุทธา ภิเษกใหญ่ อาราธนานิมนต์พระเกจิฯ ผู้มี ชื่อเสียงแห่งยุคเข้าร่วม พิธี อาทิ หลวงปู่เขียว วัดหรงบล พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง พ่อท่านจันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ หลวงปู่ โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม หลวงพ่อ แดง วัดแหลมสอ หลวงปู่แสง วัดคลองน้ำเจ็ด วัตถุมงคลที่สร้าง มี พระกริ่งพุทธไชยศรี เหรียญปล้องอ้อย พระปิดตามงคลเก้า พระแก้วมรกต เนื้อผง และพระรูปเหมือนหลวงปู่เพิ่ม ล็อกเกต เฉพาะ พระสังกัจจายน์ ได้รับความนิยมสูงสุด มีผู้ทำบุญบูชาสั่งจองหมดในวันงานพิธี ที่มีถึง ๓ วาระ ครั้งที่ ๑ วันเสาร์ที่ ๑๙ ต.ค.๒๕๑๗ ปลุกเสกแผ่นทองลงอักขระ เลขยันต์ ครั้งที่ ๒ ปลุกเสกใหญ่ ๓ วัน ๓ คืน ๒๓-๒๕ เม.ย.๒๕๑๘ ครั้งที่ ๓ วันที่ ๒๕ ธ.ค.๒๕๑๘ ชุมนุมพระเกจิอาจารย์ทั่วประเทศ ๑๐๘ รูป ปลุกเสกทั้งในโบสถ์ นอกโบสถ์ ในกำแพงแก้ว ปัจจุบันชาวเมืองนครชัยศรีหากันมาก ด้วยความเคารพศรัทธาในองค์ หลวงปู่เพิ่ม และอานุภาพด้านเมตตามหาโชค มหาลาภ ที่เลื่องลือ
- อีก ๒ รายการเป็นเครื่องราง อย่างแรก คือ มีดหมอ เทพศาสตรา ขนาด ๕ นิ้ว ทรงดั้งปลาหมอ ลงจารอักขระ หลวงพ่อเดิม พุทฺธสโร วัดหนองโพ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ๑ ในเครื่องรางยอดนิยม ชั้นนำที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น เห็นแล้วรู้เลยว่าเป็น มีดหมอเทพศาสตรา หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ สร้างด้วยฝีมือช่างชาวนครสวรรค์ มีทั้งชนิด ด้ามงา-ปลอกงาด้ามงา-ปลอกไม้ด้ามไม้-ปลอกไม้ ใบมีดเป็นโลหะแกะลายยันต์ ด้ามบรรจุแผ่นยันต์มงคลวัตถุ มีหลายขนาด ขนาดจิ๋วเรียกมีดสาริกา ขนาดเล็กเรียกมีดปากกา ขนาดกลางเป็นมีดพก ขนาดใหญ่เรียกมีดควาญช้าง--ทุกแบบ ทุกขนาด ได้รับความนิยม มีราคาหลักหมื่นถึงหลักแสน ตามสภาพและขนาด อย่างเล่มนี้ ของ เสี่ยชัยวัฒน์ เขียวศรี (โทน ทองพระเครื่อง) สายตรงตัวจริง เป็นมีดขนาดเล็ก-ด้ามงา-ฝักงา ลงจารอักขระครบสูตร รูปทรงดั้งปลาหมอ ฝีมือ “ช่างฉิม” นิยมสุด สภาพงามสมบูรณ์เดิมๆ ว่ากันสูงถึงหลักแสนปลายได้เลย
- ปิดท้ายกันด้วย หนุมานไม้แกะ หน้าโขน นั่งยอง หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน อ.เมือง จ.นนทบุรี เครื่องรางของขลังยอดนิยมแถวหน้า สร้างไว้ทั้งชนิดเนื้องาแกะ และเนื้อไม้มงคล ในท่วงท่า “นั่งยอง” เหมือนกันหมด ด้วยฝีมือช่าง ๒ แบบ คือศิลปะแบบมีลวดลายที่เรียก “หน้าโขน” ฝีมือช่างหลวง กับศิลปะแบบเรียบง่าย ด้วยฝีมือช่างชาวบ้าน ที่เล่ามาว่าเป็นชาวจีน ที่มาค้าขายทางน้ำ มักมาจอดเรือพักอยู่ท่าน้ำหน้าวัด เป็นศิษย์หลวงพ่อ ตัวนี้ ของ เสี่ยอิทธิ ชวลิตธำรง เป็นฟอร์มมาตรฐาน “นั่งยอง” ฝีมือช่างหลวง “หน้าโขน” ที่ได้รับความนิยมสูงสุด สภาพงามสมบูรณ์ รักแห้งสนิท ถึงยุคแบบนี้ ราคาอยู่ที่หลักแสนปลายแน่นอน
ลากันด้วยเรื่องปิดท้าย เรื่องสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งเล่ากันถึง นายวินัย นักศึกษาจบใหม่ ซึ่งกำลังหางานทำ แต่หาไม่ได้ จึงไปปรึกษาพ่อ ซึ่งเป็นอดีตข้าราชการผู้ใหญ่ ที่เกษียณมา ๑๕ ปี พ่อก็สอน นายวินัย ให้อดทน และเปิดห้องพระให้สวดมนต์-ขอพร และให้พระเครื่องคล้องคอ บอกให้ขออานุภาพคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วย หลังจากนั้นไม่นาน นายวินัย ก็มาบอกพ่อว่า พระช่วยให้ได้งานแล้วจริงๆ พ่อก็ดีใจ ให้พรยกใหญ่ พอได้งาน นายวินัย ก็เป็นลูกกตัญญู เอาเงินมาให้พ่อประจำสม่ำเสมอ จนพ่อสงสัยว่าทำงานอะไร ทำไมได้เงินเยอะ ต้องลงทุนมากไหม เสี่ยงไหม นายวินัย บอกว่างานไม่เสี่ยง ไม่ต้องลงทุน เพราะเปิดร้านกับเพื่อน เอาพระเครื่องที่พ่อเก็บไว้ในห้องพระไปขาย ได้เงินมาก็ให้พ่อ สารภาพแล้วก็หลบวูบ กลัวโดนพ่อซัดหงาย แต่แทนที่จะโกรธ พ่อบอกว่า ยังไงพระก็ต้องให้ลูกทั้งหมดอยู่แล้ว และบอกว่า รู้จักค้าขายก็ดีเหมือนกัน แต่ยังไงก็ถามพ่อก่อน จะได้ไม่เสียรู้ใคร ขายพระไม่ผิดราคา สุดท้ายพ่อเสนอว่า เอางี้ ถ้าให้ดี พ่อขอไปนั่งหน้าร้านขายให้แล้วกัน พ่อลูกเลยถ้อยทีถ้อยอาศัย ช่วยกันขายพระเฮงๆ เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.